หนังสือเก่าๆ มักเต็มไปด้วยความลับหรือไม่ก็ปริศนาอะไรบางอย่าง แต่ใครจะไปคิดว่า หนังสือบางเล่มในห้องสมุดของเดนมาร์กนั้น ปกของมันจะถูกเคลือบด้วยปกที่มีสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
เรื่องราวคือ นักวิจัยในเดนมาร์กได้ค้นพบหนังสือ 3 เล่มในห้องสมุดของ University of Southern Denmark ซึ่งปกของพวกมันถูกผสมไปด้วยสารหนู (arsenic) ในจำนวนค่อนข้างมาก (โดยที่หนังสือเหล่านี้น่าจะมีอายุยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 และ 17 เลยทีเดียว)
ต้นตอของคือ ก่อนหน้านี้ นักวิจัยกลุ่มนี้ได้พยายามจะอ่านข้อความบางอย่างที่มีร่องรอยอยู่บนปกหนังสือ ซึ่งก็ทำมาแล้วกับเล่มอื่นๆ แต่เมื่อมาถึงหนังสือบางเล่มในหมวดประวัติศาสตร์ เมื่อลองสำรวจแล้วก็ยากแสนยากเหลือเกิน เนื่องจากปกสีเขียวๆ ของพวกมันค่อนข้างหนา นักวิจัยจึงใช้เทคโนโลยี X-ray fluorescence (XRF) เข้าไปวิเคราะห์มันอีกขั้น
ผลที่ออกมาคือสิ่งที่เกินความคาดหมายของพวกเขา เพราะพบว่า บนปกอันหนาเตอะนั้นถูกเคลือบไว้ด้วยสารหนูจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นที่รับรู้โดยทั่วไปว่า สารชนิดนี้สามารถสร้างอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์เราได้
ทั้งนี้ นักวิจัยเชื่อว่า หนึ่งในเหตุผลที่สารหนูถูกถูกทาไว้ อาจทำเพื่อป้องกันแมลงที่มีภัยชนิดต่างๆ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับหนังสือได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น นักวิจัยก็ยืนยันว่า สารที่ค้นพบนั้นไม่ได้มี ‘อันตราย’ มากมายในระดับที่น่ากังวลจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ทางห้องสมุดก็ได้จัดเก็บหนังสือทั้ง 3 เล่มไว้ในจุดที่ปลอดภัย คือกล่องที่ติดคำเตือนไว้เป็นการเฉพาะ และผู้คนทั่วไปจะไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ (คืออาจจะต้องได้รับอนุญาตก่อนถึงจะแตะต้องตัวหนังสือได้)
ในโลกของวรรณกรรมแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับหนังสือที่ถูกเคลือบด้วยสารพิษ เคยเกิดขึ้นในงานชิ้นสำคัญของ Umberto Eco เรื่อง The Name of the Rose มาแล้วเหมือนกัน แต่ในนั้น มันคือวัตถุประสงค์เพื่อตั้งใจลอบฆ่าคนเป็นหลัก
อ้างอิงจาก
https://theconversation.com/how-we-discovered-three-poisonous-books-in-our-university-library-98358
https://www.news.com.au/technology/science/archaeology/a-university-library-in-denmark-has-found-three-of-its-rare-books-were-poisonous/news-story/7cb1cc624f243dbe65dfe363c2a2f409
https://www.independent.co.uk/news/obituaries/umberto-eco-author-and-semiotician-who-shot-to-global-fame-with-his-medieval-murder-mystery-the-name-a6887621.html
#Brief #TheMATTER