กระแสรณรงค์ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกำลังมา อย่างในหลายประเทศมีการลด แบนการใช้พลาสติก หรือการติดโซลาร์เซลล์ ใช้พลังงานทางเลือก หรือแม้แต่รถยนต์ที่มีแบบชาร์จพลังไฟฟ้ามากขึ้น แต่ประเทศไอร์แลนด์กำลังจะไปไกลกว่านั้น ด้วยการยกเลิกการลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิล
ประเทศไอร์แลนด์กำลังจะเป็นประเทศแรกในโลก ที่รัฐเตรียมถอน และยกเลิกการลงทุนในบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล หลังจากมีการผ่านร่างกฎหมาย ที่ได้รับการสนับสนุนจากส.ส. โดยกฎหมายนี้ ทำให้รัฐจะต้องถอนเงินลงทุนมูลค่า 8 พันล้านยูโร (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ในบริษัทกว่า 150 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน น้ำมัน และแก็ซให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสำเร็จใน 5 ปี
แต่ถึงอย่างนั้น กฎหมายนี้ก็มีเงื่อนไขถึงบริษัทที่ลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่ถึง 20% ว่าให้รัฐสามารถเข้าไปลงทุนในบริษัทนั้นได้ และยังให้ลงทุนในบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ แต่ต้องย้ายเงินทุนออกจากเรื่องที่เกี่ยวกับเชื้อเพลิงฟอสซิล
การเคลื่อนไหวในการยกเลิกการลงทุนในบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล เติบโตอย่างรวดเร็วในไอร์แลนด์ และมีการถอนเงินลงทุนไปกว่าล้านล้านดอลล่าร์แล้ว ที่มีทั้งกองทุนบำเหน็จบาญ บริษัทประกัน โบสถ์ และมหาวิทยาลัยร่วมด้วย การผ่านร่างกฎหมายนี้ยิ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศ และแม้ว่าหลังจากนี้ร่างกฎหมายยังเหลืออีกหลายขึ้นตอน รวมถึงการผ่านสภาสูง แต่คาดว่าจะไม่มีปัญหา และจะสามารถบังคับใช้กฎหมายได้จริงในช่วงปลายปีนี้
Thomas Pringle สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้ริเริ่มร่างกฎหมายนี้กล่าวว่า “การเคลื่อนไหวยกเลิกเงินทุนครั้งนี้ เป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องหยุดลงทุนในการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ทั่วโลก เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ” และ “การผ่านกฎหมายนี้ จะเป็นการส่งข้อความจากชาวไอริช และประชาคมต่างประเทศว่าเราพร้อมที่จะคิด และปฏิบัติให้ไกลกว่าเรื่องผลประโยชน์ในระยะสั้น” ซึ่งนี่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เพราะก่อนหน้านี้ไอร์แลนด์ติดอันดับรองสุดท้ายของประเทศในยุโรป ในการปฏิบัติต่อเรื่องสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/environment/2018/jul/12/ireland-becomes-worlds-first-country-to-divest-from-fossil-fuels
https://www.bbc.com/news/world-europe-44810573?ocid=socialflow_twitter
#Brief #TheMATTER