เรามักได้ยินข่าวเรื่องผู้คนถอยห่างออกจากศาสนากันเรื่อยๆ หนึ่งในเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับปรากฏการณ์นี้คือ การที่โบสถ์ตามพื้นที่ชุมชนต่างๆ เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง หรือพูดให้ชัดก็คือคนไปโบสถ์กันน้อยลงนั่นเอง
เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหลายประเทศ เช่นเดียวกับในแคนาดา เมื่อผู้คนไปโบสถ์กันน้อยลง การบริหารงานของโบสถ์ก็ยากขึ้น ซึ่งมีความกังวลกันว่าถ้าหากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไปอีก ตัวโบสถ์เองในฐานะสถานที่ก็อาจจะต้องถูกทุบทิ้งไปในที่สุด
ด้วยปัญหาทำนองนี้ จึงมีความพยายามปรับภาพลักษณ์และหน้าที่ของโบสถ์ในรูปแบบที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพื่อแลกกับการปล่อยให้โบสถ์ถูกทิ้งร้าง หรือถูกยุบทิ้ง มีรายงานระบุว่า มีโบสถ์จำนวน 547 แห่งที่ได้ปิดตัวลง ถูกขาย รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้หลากหลายขึ้น
ยกตัวอย่างโบสถ์หลายแห่งในเมือง Quebec ได้กลายเป็นห้องสมุด สถานที่สำหรับอ่านหนังสือ ร้านอาหาร ตลอดจน สปา และยิมเพื่อออกกำลังกาย ซึ่ง Christian Lépine อาร์คบิชอปแห่ง Montreal ยอมรับว่า ในกรณีที่โบสถ์ถูกขายไปให้กับเอกชนแล้ว ทางศาสนาจักรก็ยากที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงโบสถ์อีก
ในอีกมุมหนึ่งก็มีความเห็นที่น่าสนใจว่า ถึงแม้รูปแบบการใช้ประโยชน์ของโบสถ์จะเปลี่ยนไป แต่หัวใจหลักก็น่าจะยังคงเดิม นั่นคือการเป็นพื้นที่สำหรับรับใช้ประโยชน์ของคนในชุมชน
ปรากฏการณ์ที่ว่านี้ก็ทำให้เราเห็นถึงการปรับตัวครั้งสำคัญในแวดวงศาสนา เมื่อผู้คนเริ่มไปโบสถ์กันน้อยลง ทางฝั่งศาสนจักรเองก็ต้องคิดหาไอเดียใหม่ๆ เพื่อรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น
อ้างอิงจาก
http://www.culturewitness.com/2017/07/falling-from-grace-rise-and-fall-of.html
#Brief #TheMATTER