ถึงจะมีดราม่ามาตั้งแต่การประกาศพิธีการดำเนินรายการบนเวที จนมาลงเอยว่างานประกาศรางวัลออสการ์ปีนี้ จะไม่มีพิธีกรหลักบนเวทีครั้งแรกในรอบ 30 ปี แต่อย่างไรเสียงานประกาศรางวัลออสการ์ก็ยังเป็นที่สนใจของคอหนังทั่วโลกอยู่เช่นเดิม การไม่มีพิธีกรหลักยังทำให้การดำเนินรายการลื่นไหลรวดเร็ว จนหลายจังหวะคนดูไม่กล้าจะเดินไปเข้าห้องน้ำเท่าใดนัก
บรรยากาศของงานปีนี้ กลายเป็นการสนับสนุนผู้ที่เคยถูกมองว่าเป็นคนส่วนน้อยของวงการบันเทิงฝั่งฮอลลีวูดไปโดยปริยายนับตั้งแต่การเดินพรมแดง ซึ่งหลายๆ ครั้งนักแสดงกับเซเลปฮอลลีวููดจะใช้พื้นที่เพื่อแสดงจุดยืนของตนเอง ซึ่งในปีนี้ มีเซเลปหลายท่านได้แต่งตัวแบบลื่นไหลทางเพศ (Gender Fluid) ชุดที่โดดเด่นสะกดพรมแดงที่สุดก็คงไม่พ้น Billy Porter นักร้อง นักแสดงเกย์ ผู้ใช้การเดินพรมแดงของงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมาแล้วหลายครั้ง ได้แต่งชุด สูททักซิโด้กับกระโปรงสีดำฟูฟ่อง ซึ่งดูดีและท้าทายให้ช่างภาพต้องเก็บรูปไว้เป็นที่ระลึก
อีกท่านที่มาพร้อมชุดสีม่วงโดดเด่นก็คือ Spike Lee ที่เป็นสีประจำของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งสอดคล้องกับเดือนกุมภาพันธ์นี้ที่ถือว่าเป็น เดือนแห่งประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน (Black History Month) และในฐานะผู้กำกับของภาพยนตร์ BlacKkKlansman ที่เล่าชีวิตของตำรวจผิวดำในยุค 1970 ที่ต้องร่วมมือกับเพื่อน ตำรวจชาวยิว ปลอมตัวเข้าไปสืบสวนแผนการของกลุ่ม Ku Klux Klan และเจ้าตัวก็ได้รับรางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปด้วย
ข้ามมาที่ฝั่งเวทีประกาศรางวัลในปีนี้ คนอเมริกาเชื้อสายแอฟริกัน, คนอเมริกาเชื้อสายเม็กซิกัน, คนอเมริกาเชื้อสายเอเซีย, คนอเมริกาเชื้อสายอียิปต์ ที่ตามปกติแล้วอยู่ในภาวะโดนมองข้าม แต่ในปีนี้ได้มาขึ้นเวทีทั้งในฐานะผู้ประกาศรางวัล และเป็นผู้ได้รับรางวัลหลายต่อหลายสาขา
ในปีนี้ภาพยนตร์ที่เข้าชิงมากที่สุดในปีนี้คือ The Favourite กับ Roma ซึ่งต่างเข้าชิงเป็นจำนวน 10 รางวัลเท่ากัน รองมาก็คือ A Star Is Born กับ Vice ที่เข้าชิง 8 รางวัลเท่ากัน ตามมาด้วย Black Panther ที่ได้เข้าชิง 7 รางวัล
ปีนี้ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลมากที่คือ Bohemin Rhapsody ที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 4 สาขา
การขึ้นรับรางวัลที่่น่าจดจำของปีนี้ก็มีหลายสาขาเช่นกัน อาทิการได้รับรางวัลของ Ruth E. Carter ผู้คว้ารางวัลสาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม เธอเป็นหญิงสาวอเมริกัน-แอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ หลังจากเคยเข้าชิงมาแล้วสองครั้ง พร้อมกับการประกาศขอบคุณว่า ‘ต้องขอบคุณสำหรับการให้เกียรติราชวงศ์แอฟริกา และการมอบอำนาจเปิดทางผู้หญิงสามารถดูดีและเป็นผู้นำบนจอภาพยนตร์ได้’
ด้วยเหตุที่ Alfonso Cuarón ถ่ายทำ, เขียนบท และ กำกับภาพยนตร์เรื่อง Roma ด้วยตัวเอง ทำให้เขาต้องขึ้น-ลงเวทีในการรับรางวัลหลายครั้ง ทั้งในสาขากำกับภาพยอดเยี่ยม, สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม, สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และได้ขอบคุณทีมงานเป็นภาษาสเปนอยู่หลายต่อหลายครั้ง
การแสดงเพลงประกอบของปีนี้ ก็น่าจดจำอยู่ไม่น้อย ที่ออกมายึดซีนมากที่ต้องยกให้ Lady Gaga กับ Bradley Cooper ที่มาร้องเพลง Shallow แบบทำให้คนดูทั้งในเวทีและทางบ้านอินสุดๆ ก่อนที่ Lady Gaga จะกลับมารับรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ที่เธอแต่งร่วมกับ Mark Ronson, Anthony Rossomando และ Andrew Wyatt
อีกเรื่องที่เหมือนมาเปิดคอนเสิร์ตก็คือ Bohemian Rhapsody เพราะวง Queen กับ Adam Lambert ก็มาเล่นเพลง We Will Rock You ในช่วงเปิดการถ่ายทอดงานประกาศรางวัล กับตัวภาพยนตร์คว้ารางวัลเกี่ยวกับเสียง ทั้งการตัดต่อเสียงกับการผสมเสียงกลับบ้านไปอย่างเสนาะหู แล้วยังได้รางวัลที่เห็นได้ด้วยสายตาอย่างสาขาตัดต่อภาพยนตร์ กับนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมกลับไปด้วย
งานจบท้ายด้วยชัยชนะของภาพยนตร์ Green Book ที่เหมือนจะสะท้อนอีกครั้งว่า เวทีออสการ์ปีนี้ให้โอกาสกลุ่มคนที่ถือว่าเป็นชนกลุ่มน้อยของฮอลลีวูดมาก่อน แต่ตอนนี้เราต้องยอมรับแล้วว่าเวทีแห่งนี้เปิดโอกาสให้ผู้มีฝีมือมากขึ้น
รายชื่อผู้ได้รับรางวัลออสการ์ในคืนนี้ทั้งหมดอยู่ในรายละเอียดด้านล่างนี้
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
– Green Book
สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
– Alfonso Cuarón จากภาพยนตร์ Roma
สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
– Rami Malek จากภาพยนตร์ Bohemian Rhapsody
สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
– Olivia Colman จากภาพยนตร์ The Favourite
สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
– Mahershala Ali จากภาพยนตร์ Green Book
สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
– Regina King จากภาพยนตร์ If Beale Street Could Talk
สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
– Green Book
.
สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
– BlacKkKlansman
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)
– Spider-Man: Into the Spider-Verse
สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign Language Film)
– Roma
สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary – Feature)
– Free Solo
สาขาสารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary – Short Subject)
– Skin
สาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short Film)
– Period. End of Sentence.
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film)
– Bao
สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
– Black Panther
สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
– Shallow จากภาพยนตร์เรื่อง A Star Is Born
.
สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Editing)
– Bohemian Rhapsody
สาขาผสมเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Mixing)
– Bohemian Rhapsody
สาขาออกแบบการถ่ายทำยอดเยี่ยม (Best Production Design)
– Black Panther
สาขากำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
– Roma
สาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
– Vice
สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
– Black Panther
สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
– Bohemian Rhapsody
สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
– First Man
#Brief #TheMATTER