ในยุคที่ผู้คนมีทางเลือกในความเชื่อมากขึ้น และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่หลากหลาย จำนวนผู้คนที่ไม่นับถือศาสนา รวมถึงคนที่ไม่ได้เชื่อในพระเจ้า ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในสหรัฐฯ พบว่า จำนวนชาวสหรัฐฯ ที่ระบุว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่มีศาสนา (non religion) ได้เพิ่มสูงขึ้นในตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนมาถึงการวิเคราะห์รอบล่าสุด ซึ่งพบว่าได้มีจำนวนใกล้เคียงมากๆ กับคนที่เป็นคาธอลิก และคริสเตียนแบบอีวานเจลิคัลแล้ว
โดยตัวเลขที่พบคือ
-ไม่มีศาสนา : 23.1 เปอร์เซ็นต์
-คาธอลิก : 23 เปอร์เซ็นต์
-อีวานเจลิคัล : 22.5 เปอร์เซ็นต์
Ryan Burge นักรัฐศาสตร์จาก Eastern Illinois University และยังเป็นบาทหลวง ผู้จัดทำผลสำรวจครั้งนี้ บอกว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผลสำรวจเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางศาสนาของชาวสหรัฐฯ พบว่า คนที่ไม่มีศาสนาได้กลายมาเป็นอันดับต้นๆ ในท่ามกลางคนที่นับถือศาสนาต่างๆ
ที่ผ่านมาก็ได้มีผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์กัน ถึงสาเหตุที่ทำไมจำนวนคนไม่นับถือศาสนาได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐฯ โดย Nick Fish ประธานกลุ่ม American Atheists มองว่า อินเทอร์เน็ตคือปัจจัยสำคัญ เพราะมันทำให้คนที่ไม่มีศาสนาได้มี community ร่วมกันมากขึ้น และช่วยให้พวกเขารู้สึกว่า ‘ไม่ได้คิดแบบนี้แค่คนเดียว’
ในเวลาเดียวกับที่กลุ่มคนที่ไม่เลือกนับถือศาสนา ได้เพิ่มมากขึ้น คำถามหลายคำถามก็ได้เกิดขึ้นต่อศาสนาหลัก หรือศาสนาที่เป็นทางการ โดยบทความจาก Washington Post ได้วิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญมีทั้งเรื่องมุมมองทางการเมือง รวมไปถึงทัศนคติต่อวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2019/04/13/us/no-religion-largest-group-first-time-usa-trnd/index.html
https://www.washingtonpost.com/opinions/2019/04/15/organized-religion-is-paying-price/
#Brief #TheMATTER