เรียกได้ว่าเป็นมาตรการตอบโต้ Big Brother ก็ว่าได้ เมื่อซานฟรานซิสโกได้เป็นเมืองแรกในสหรัฐฯ ที่ได้ออกมาตรการห้ามเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face Recognition) กับประชาชน
ประเด็นคือ ก่อนหน้านี้มีข้อถกเถียงกันพอสมควรถึงข้อดี-ข้อเสีย ของการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงมีกลุ่มเคลื่อนไหวนำเรื่องนี้ไปให้บอร์ดของเมืองพิจารณา ภายใต้ชื่อหัวข้อว่า ‘Stop Secret Surveillace’ หรือแปลเป็นไทยได้ว่า หยุดการสอดส่องแบบลับๆ
กลุ่มที่สนับสนุนให้ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้เทคโนโลยีนี้ มองกันว่า มันเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่สามารถเชื่อถือได้ขนาดนั้น และมันมีความเสี่ยงที่จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ และความเป็นส่วนตัวของประชาชนภายในเมืองด้วย
ในทางตรงกันข้าม ฝั่งที่คัดค้านการแบนบอกว่า จริงๆ แล้วเทคโนโลยีนี้มันดีนะ และมันน่าจะช่วยให้ชีวิตผู้คนปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยเจ้าหน้าที่ต่อสู้กับอาชญากรรมร้ายแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ผลการพิจารณาก็ออกมาว่า จากนี้ไปจะห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้เทคโนโลยีนี้กับประชาชน นอกจากนั้นยังมีเงื่อนไขที่หน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐในซานฟราจะจัดซื้อเทคโนโลยีสอดส่องทำนองนี้ ก็ต้องขออนุญาตจากทางเมืองก่อน
ถึงอย่างนั้น มาตรการที่ออกมามันก็ครอบคลุมแค่เจ้าหน้าที่รัฐเพียงอย่างเดียว ส่วนภาคเอกชนยังสามารถใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้ต่อไป
ก่อนหน้านี้มีหลายกรณีในสหรัฐฯ ที่ชวนให้ตั้งคำถามถึง ‘ความแม่นยำ’ ของเทคโนโลยีจดจำใบหน้า เช่น การที่ AI วิเคราะห์ใบหน้าคนร้ายผิด และถูกกล่าวหาว่านำไปสู่การจับผิดคน
เรื่องนี้ดูเหมือนจะเป็นก้าวสำคัญของการเคลื่อนไหว ที่ต้องการโต้กลับกระแสการใช้เทคโนโลยีสอดส่องประชาชนในสหรัฐฯ แต่ถ้ามองในภาพรวมระดับชาติแล้วก็ยังคงมีเรื่องที่ต้องสู้กันมีพอสมควร หรือถ้าขยายมุมไปดูในประเทศมหาอำนาจอย่างจีน ก็จะเห็นภาพที่ค่อนข้างตรงข้ามกันมากๆ เมื่อทางการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแทบจะเต็มสูบ เพื่อสอดส่องสังคมและพฤติกรรมของผู้คน
ในบ้านเราเองก็เคยมีข่าวเรื่องการจัดซื้อเทคโนโลยีของภาครัฐเหมือนกันนะ โดยเป็นโครงการของทางกระทรวงดิจิทัลฯ แต่ถึงอย่างนั้น การจัดซื้อยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร เพราะข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์กระทรวงดิจิทัล ระบุว่า ต้องยกเลิกการประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคาไปก่อน เพราะเหตุผลบางประการ
อ้างอิงจาก
https://www.vox.com/recode/2019/5/14/18623897/san-francisco-facial-recognition-ban-explained
https://www.nytimes.com/2019/05/14/us/facial-recognition-ban-san-francisco.html
https://www.bbc.com/news/technology-48276660
http://www.mdes.go.th/assets/portals/1/files/DOC080519-08052019102724.pdf
#Brief #TheMATTER