การศึกษา เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ที่แต่ละประเทศต้องมีการจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากร เพื่อโรงเรียน มหาวิทยาลัย และครูอาจารย์ แต่ที่บราซิล ประธานาธิบดีคนใหม่กลับมีนโยบาย จะตัดงบประมาณการศึกษา ที่ทำให้เหล่านักเรียนไม่พอใจ จนออกมาชุมนุมกันทั่วประเทศ
นักเรียน นักศึกษา และครูอาจารย์หลายหมื่นคน ในกว่า 200 เมืองทั่วบราซิล ได้ออกมาชุมนุม ประท้วงต่อรัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีฝั่งขวาจัด Jair Bolsonaro หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศว่า รัฐบาลได้ระงับค่าใช้จ่ายของภาครัฐไปแล้วกว่า 30% โดยนี่ถือเป็นการชุมนุมครั้งแรก หลัง Bolsonaro เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งการชุมนุมในเมืองหลวงอย่าง ริโอเดอจานาโร ได้กลายเป็นการปะทะรุนแรง เมื่อตำรวจยิงแก็สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมเองก็ออกมาเผารถบัส
นักศึกษาที่มาชุมนุมกัน ได้ตะโกนข้อความว่า “การศึกษาไม่ใช่สินค้า” รวมไปถึงถือป้ายต่างๆ เช่น “การศึกษาไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุน” และ “ไม่มีการลงทุน ก็ไม่มีความรู้” ซึ่งเหล่าผู้ชุมนุมมองว่า การตัดงบของรัฐบาล ต้องการทำให้การศึกษาเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ยากด้วย โดย Luis Antonio Pasquetti หัวหน้าสหภาพครูมหาวิทยาลัยแห่งบราซิล ได้กล่าวถึงการชุมนุมนี้ว่า “เป็นข้อความของเรา ต่อ Bolsonaro ว่าเราจะไม่ยอมให้มีการตัดงบประมาณ 30%”
การตัดงบประมาณในครั้งนี้ กระทบต่อมหาวิทยาลัยที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ทั้งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่ถูกตัดทุนวิจัย โรงเรียนมัธยมถูกลดทุนจากรัฐบาล หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศอย่าง Federal University of Rio de Janeiro ก็ถูกตัดงบถึง 41% ซึ่งนักศึกษาที่ชุมนุมเล่าว่า สภาพของมหาวิทยาลัยย่ำแย่ ต้องเรียนในห้องเรียนที่น้ำท่วมเมื่อฝนตก และไม่มีไฟฟ้าในบางเวลา
ด้าน Bolsonaro ขณะนี้ อยู่ในระหว่างทริปในสหรัฐฯ ระบุว่า เรื่องตัดงบประมาณไม่เป็นความจริง และกล่าวถึงผู้ชุมนุมว่า “พวกเขาคือพวกงี่เง่าที่มีประโยชน์ ปัญญาอ่อน ผู้ถูกใช้เป็นมวลชนของชนกลุ่มน้อย ผู้ฉลาดหลักแหลมที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของมหาวิทยาลัยรัฐบาลกลางหลายแห่งในบราซิล” ในขณะที่ รมต.ศึกษาธิการ อ้างว่าการตัดงบประมาณเป็นเพราะผลของรัฐบาลก่อน และปกป้องว่าการเปลี่ยนแปลงงบประมาณนี้ เพื่อนำมาสนับสนุนประถมศึกษา แทนมหาวิทยาลัย
#Brief #TheMATTER