การไปนั่งดื่มด่ำบรรยากาศของธรรมชาติ ชมวิวทิวทัศน์ รับอากาศบริสุทธิ์ อาจจะเป็นผลดีกับตัวเรามากกว่าที่คิดนะ
ผลสำรวจในประเทศอังกฤษพบว่า การใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ สามารถช่วยส่งเสริมสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นการไปนั่งในสวน ป่าไม้ หรือริมหาด สามารถใช้เวลา 2 ชั่วโมงในรวดเดียว หรือจะไปใช้เวลาสั้นๆ หลายครั้งก็ได้ เพียงแค่ไปนั่งเฉยๆ ดื่มด่ำธรรมชาติก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด
ในการสัมภาษณ์คน 20,000 คนในประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่ากว่า 25 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มคนที่ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ หรือใช้เวลาน้อย มีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี และไม่พอใจกับชีวิตของตัวเอง
ในทางกลับกัน มีเพียง 1 ใน 7 ของกลุ่มคนที่ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างน้อย 2 ขั่วโมงในอาทิตย์ที่ผ่านมา บอกว่าพวกเขามีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี และไม่พอใจกับชีวิตตัวเอง
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าความหลากหลายทางชีวภาพ และความสวยงามในบริเวณนั้นๆ สามารถช่วยให้ลดความเครียดได้ดีขึ้นไปอีก
ดร. Mathew White ผู้นำการวิจัย จาก University of Exeter Medical School บอกว่าผลดีของการใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ อาทิตย์ละ 2 ชั่วโมง ใช้ได้กับคนทุกประเภทเลย ไม่ว่าจะแก่หรือเด็ก รวยหรือจน คนเมืองหรือคนชนบท
อย่างไรก็ตาม การสำรวจนี้ไม่ได้รวมเวลาที่ผู้คนใช้กับสวนในบ้านของตัวเอง และไม่ได้อธิบายว่าทำไมการใช้เวลากับธรรมชาติถึงเป็นผลดี แต่ White มองว่าคนเราแบกรับความกดดันไว้มากมาย ดังนั้นการได้ออกไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ เป็นวิธีช่วยให้ผ่อนคลาย และให้เวลาจัดการกับภาระได้
ในญี่ปุ่นเองก็มีแนวทางลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 1980 เรียกว่า ‘Shinrin-yoku’ ซึ่งอธิบายไว้ว่า การไปเยี่ยมชมแหล่งธรรมชาติในป่า และเดินเล่นในแบบที่ผ่อนคลาย สามารถเป็นผลดีต่อร่างกายได้ โดยมีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์แล้ว ว่าสามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความดันโลหิต ลดความเครียด ปรับอารมณ์ เพิ่มความสามารถในการโฟกัสกับอะไรสักอย่าง เร่งการฟื้นตัวของร่างกาย เพิ่มพลังงาน และช่วยเรื่องการนอนหลับได้อีกด้วย
อ้างอิงจาก
http://www.shinrin-yoku.org/shinrin-yoku.html
#Brief #TheMATTER