เจอหน้าผู้ใหญ่ที่บ้านทีไร คุณลุง คุณน้า คุณอา คุณตา คุณยาย ก็มักจะยิงคำถามมาเสมอว่า “เมื่อไหร่จะแต่งงาน” บางทีมันก็เป็นเรื่องยากที่จะตอบเนอะ หรือบางครั้งก็ไม่ยาก แต่ก็ไม่อยากตอบมากกว่า
ท่ามกลางความคาดหวังที่ให้พวกเราแต่งงานกันได้แล้ว แต่เทรนด์คนไทยในช่วงหลังมานี้ได้บอกเราว่า คนไทยดูเหมือนจะแต่งงานกันน้อยลง และหย่าร้างกันเพิ่มมากขึ้น
มีงานวิจัยที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ EIC พบเทรนด์ในช่วงระหว่างปี 2550-2560 ซึ่งศึกษาผ่าน คนไทยอายุ 20 ปีขึ้นไป และไม่เคยแต่งงานหรือหย่าร้างมาก่อน และต้องอาศัยอยู่เพียงลำพัง
โดยงานวิจัยพบว่า คนไทยจดทะเบียนสมรสกันลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจำนวนการจดทะเบียนสมรสของคนไทยลดลง 5.1 เปอร์เซ็นต์ จาก 3.13 แสนในปี 2550 มาอยู่ที่ 2.98 แสนในปี 2560
นอกจากการจดทะเบียนสมรสที่น้อยลง คือการจดทะเบียนหย่าที่เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงเวลาเดียวกัน มีจำนวนการจดทะเบียนหย่าที่เพิ่มขึ้น 19.7 เปอร์เซ็นต์จาก 1.02 แสน มาเป็น 1.22 แสนในช่วงเวลาเดียวกัน
รายงานการวิจัยระบุว่า ในช่วงระหว่างปี 2550 ถึง 2560 ไทยมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นราว 3 ล้านคน การแต่งงานที่ลดลงและการหย่าร้างที่เพิ่มขึ้นจึงหมายถึงจำนวนคนโสดที่มากขึ้น
ถ้าโฟกัสมาที่เรื่องไลฟ์สไตล์คนโสดนั้น ในงานวิจัยนี้ก็พบข้อมูลที่น่าสนใจเหมือนกัน โดยพบว่า เทรนด์ใช้ชีวิตแบบคนโสดนั้นมีความแตกต่างกับคนที่มีครอบครัวหลายอย่าง เช่น คนโสดใช้จ่ายเพื่อการบริโภคมากกว่า แต่มีทรัพย์สินโดยเฉพาะการเป็นเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของรถน้อยกว่า (ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้พวกเขามีภาระหนี้น้อยกว่าคนที่มีครอบครัว)
ขณะเดียวกัน คนโสดจะมีไลฟ์สไตล์ทานอาหารนอกบ้านมากกว่า รวมถึงการใช้เงินไปท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สูงกว่าคนมีครอบครัวราวๆ 40 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ เทรนด์คนโสดตามรายงานฉบับนี้ที่มีจำนวนมากขึ้น อาจจะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องสภาพเศรษฐกิจ รวมถึงรูปแบบความสัมพันธ์ที่อยู่ด้วยกันแบบไม่จดทะเบียนสมรสที่อาจจะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.scbeic.com/th/detail/product/6102
https://voicetv.co.th/read/zFwdnrx2K
#Brief #TheMATTER