สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านยังคงมีความตึงเครียด หลังจากเมื่อเช้านี้ อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพในอิรัก อันเป็นที่ตั้งของกองทัพสหรัฐฯ และกองทัพทหารของประเทศอื่นๆ เช่น สหราชอาณาจักร ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย
อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 22 ลูกใส่ฐานทัพที่เป็นที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรัก 2 แห่ง ได้แก่ ฐานทัพอากาศอิน อัล-อาซาด (Ain al-Asad) ที่อยู่ในเมืองอัลอันบาร์ และฐานทัพที่อยู่ในเมืองเออร์บิล โดยสาเหตุของการโจมตีในครั้งนี้ ทางกองพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า เป็นการล้างแค้นให้กับนายพล คาเซ็ม ซูลีมานี อดีตผู้นำหน่วยรบพิเศษคุดส์ (Quds Force)
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความ ผ่านแอคเคาท์ส่วนตัวว่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี และจะแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในเช้าวันพรุ่งนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ)
สายการบินระดับนานาชาติหลายแห่งได้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางบินบนน่านฟ้าอิหร่าน เช่น สิงค์โปร มาเลเซีย ไต้หวัน ฝรั่งเศส ส่วนสหรัฐฯ สำนักงานบริการการบินแห่งชาติ ได้ประกาศสั่งห้ามสายการบินสหรัฐฯ บินเหนือน่านฟ้าอิรัก อิหร่าน อ่าวโอมาน รวมไปถึง น่านน้ำระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบีย
ตอนนี้สถานทูตสหรัฐฯ ในจอร์แดน แนะนำให้บุคลากรของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อยู่ในจอร์แดน หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นนอกบ้าน ในวันที่ 8 มกราคม (ตามเวลาสหรัฐฯ) รวมไปถึงการให้บุตรหลานที่ไปโรงเรียนกลับบ้าน และให้ชาวสหรัฐฯ อย่าทำตัวเป็นจุดสนใจ และตื่นตัวกับสิ่งที่อยู่รอบตัวตลอดเวลา
ฝั่งสหราชอาณาจักร ก็ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของอิหร่าน โดยโดมินิก ราบ (Dominic Raab) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหราชอาณาจักร กล่าวในแถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศและเครือจักรภพ ว่า “พวกเราประณามการโจมตีฐานทัพอิรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของสัมพันธมิตร ประกอบไปด้วยกำลังพลของสหราชอาณาจักร” และเรียกร้องให้อิหร่านหยุดการโจมตีที่อันตราย และพยายามหาทางคลี่คลายความขัดแย้ง
อยาตุลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้กล่าวในการปราศรัยที่เมืองกอม (Qom) ว่า “การแก้แค้น ปฏิบัติการทางการทหารเหล่านี้ไม่อาจชดเชยปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่สำคัญ คือการยุติการมีอยู่ของสหรัฐฯ”
เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ ว่า “ต้องหยุดยั้งการใช้อาวุธตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้เกิดช่องว่างสำหรับการสนทนา”
.
อ้างอิงจาก
https://www.aljazeera.com/news/2020/01/iran-attack-forces-iraq-200108022159468.html
https://www.cbsnews.com/live-updates/iran-fires-missiles-at-military-bases-iraq-used-by-us-coalition-troops-today-live-updates-2020-01-08/
https://edition.cnn.com/middleeast/live-news/us-iran-soleimani-tensions-intl-01-07-20/index.html
พิสูจน์อักษร: จิรัชญา ชัยชุมขุน
#Brief #TheMATTER