วิกฤตไฟป่า ภัยแล้งรุนแรง หรืออุณหภูมิโลกที่ผันผวน ล้วนแต่เป็นผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนจากภาวะโลกร้อนทั้งสิ้น ไม่เพียงเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า อุณหภูมิของมหาสมุทรทั่วโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้น เทียบได้กับการเอาระเบิดปรมาณูที่ถล่มเมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น 5 ลูก ไปทิ้งไว้ในน้ำทะเลทุกวินาที!
ทีมนักวิทยาศาสตร์จากนานาชาติทั้ง 14 คน ได้ตรวจสอบข้อมูลของอุณหภูมิจากพื้นผิวมหาสมุทรถึงระดับที่ลึกกว่า 2,000 เมตรในช่วงทศวรรษที่ 1950 และพบว่าอุณหภูมิของมหาสมุทรกำลังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
งานวิจัยเผยว่า ขณะที่อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นอย่างคงที่ในช่วงปี ค.ศ.1955-1986 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุณหภูมิของน้ำทะเลกลับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงที่อุณหภูมิน้ำสูงมากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ คือ ช่วง 5 ปีหลังมานี้
หลี่ จิง เฉิง (Lijing Cheng) นักวิจัยจาก Chinese Academy of Sciences กล่าวว่า “ระเบิดปรมาณูฮิโรชิมาระเบิดด้วยพลังงานประมาณ 63,000,000,000,000 จูล ส่วนปริมาณความร้อนที่มนุษย์เพิ่มลงไปในมหาสมุทรของโลกในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เทียบเท่ากับระเบิดฮิโรชิม่า (ระเบิดที่กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งใส่เมืองฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น) 3.6 พันล้านระเบิดปรมาณู”
ขณะที่ จอห์น อับราฮัม (John Abrahm) ทีมวิจัยจาก University of St. Thomas กล่าวว่า “อุณหภูมิของน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นนี้ เทียบเท่ากับความร้อนจากระเบิดฮิโรชิม่า 5 ลูก ทุกวินาที ทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอด 365 วันต่อปี” หรืออาจเปรียบให้เห็นภาพขึ้นอีกนิดว่า ความร้อนในมหาสมุทรนั้น เทียบเท่ากับทุกคนบนโลกพร้อมใจกันจ่อไดร์เป่าผม 100 เครื่อง ไปที่มหาสมุทร
ผลกระทบจากความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นในมหาสมุทร นอกจากจะทำให้น้ำแข็งละลายเร็วจนระดับน้ำทะเลสูงขึ้นแล้ว ยังทำให้เหล่าโลมา และสัตว์น้ำอื่นๆ ตายด้วย เพราะไม่สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ทัน
นอกจากนี้ อับราฮัมยังเสริมว่า อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้ ยังช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับพายุเฮอร์ริเคนและไต้ฝุ่น และทำให้ฝนตกรุนแรงขึ้นอีกด้วย
อ้างอิงจาก
https://futurism.com/scientists-ocean-warming-rate-five-a-bombs-per-second
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER