นอกจากเรื่องฝุ่นแล้ว สิ่งที่หลายคนเป็นกังวลอีกเรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ จากประเทศจีน ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในประเทศไทยแล้ว เช่นกัน
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ ใหม่ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อปริศนาในเมืองอู่ฮั่น หลังทางการจีนได้เก็บตัวอย่างเชื้อไวรัสจากคนไข้ เชื้อปริศนาดังกล่าวก็ได้รับการระบุว่าเป็นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่ 7 ที่เคยมีการระบาดในมนุษย์
สำหรับจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัส ตอนนี้ทางการจีนรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วประเทศจีนมากกว่า 440 คน และมีผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสทั้งหมด 9 คน ในมณฑลหูเป่ย์
แต่จำนวนผู้ที่ติดเชื้อและเสียชีวิตอาจมีมากกว่าที่ทางการประกาศไว้ สำนักข่าว The Guardian รายงานเมื่อวันที่ 21 มกราคมว่า โรงพยาบาลในจีนไม่ตรวจผู้ป่วยที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส และไม่แยกตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้ป่วยคนอื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ ญาติของผู้เสียชีวิตคนหนึ่งในจีนกล่าวตอนที่จำนวนผู้เสียอยู่ที่ 6 คนด้วยว่า ญาติของเขาไม่ได้ถูกนับเป็นผู้ตายในลิสต์ของรัฐบาล
ได้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอื่นๆ แล้ว เช่น ไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน เป็นต้น และล่าสุดทางการของสหรัฐฯ เผยแล้วว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เคสแรกในสหรัฐฯ แล้ว โดยเป็นชายวัย 30 ที่อาศัยอยู่ในสโนโฮมิช ซึ่งได้เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล-ทาโคม่า ในวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทยล่าสุดมีการยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 4 ราย เป็นคนจีน 3 ราย และคนไทย 1 ราย โดยผู้ป่วยชาวจีน 2 รายได้เข้ารับการรักษาตัวจนหายดีแล้วกลับประเทศแล้ว
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พูดถึงต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ โดยทีมวิจัยจาก สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน, กองทัพปลดแอกประชาชน และสถาบันปาสเตอร์มหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งศึกษาว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะมีปฏิสัมพันธ์กับระบบทางเดินหายใจมนุษย์ได้อย่างไร โดยใช้วิธีจำลองการทำงานของโปรแกรม (computer simulation) ซึ่งทีมวิจัยเผยว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มาจากเมืองอู่ฮั่น อาจมีต้นตอมาจากค้างคาวผลไม้ และมีโปรตีนของมนุษย์ที่ชื่อว่า ACT3 เป็นเป้าหมายเหมือนกับโรคซาร์ส
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/thai/thailand-51089461
https://edition.cnn.com/2020/01/21/asia/china-china-coronavirus-sars-intl-hnk/index.html
https://edition.cnn.com/asia/live-news/wuhan-coronavirus-china-intl-hnk/index.html
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/863088
#Brief #TheMATTER