ลำพังเชื้อโรคที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็หาทางป้องกันกันลำบากแล้ว แต่ตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบโรคจากฟอสซิลส่วนหางของไดโนเสาร์เมื่อ 66 ล้านปีก่อน ซึ่งแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน และไม่ใช่โรคใหม่อะไรแล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันว่า โรคนี้ยังส่งผลกระทบต่อมนุษย์ได้อยู่ดี
การค้นพบนี้ เกิดขึ้นหลังจากนักวิจัยค้นพบเนื้องอกในกระดูกสันหลังของไดโนเสาร์กินพืชอายุน้อย ที่อยู่ในตระกูลแฮดโดรซอร์ ซึ่งฟอลซิลของเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้ถูกค้นพบในอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา
จากผลการทดลอง ฮิลลา เมย์ (Hila May) ผู้เชี่ยวชาญด้านกายวิภาควิทยา จากมหาวิทยาลัย Tel Aviv ระบุว่า พบช่องโหว่ขนาดใหญ่ในกระดูกของซากฟอสซิล 2 ส่วน ซึ่งคล้ายคลึงกับช่องโหว่จากเนื้องอก ที่เกิดจากโรคที่หาได้ยากอย่าง Langerhans cell histiocytosis (LCH) มาก ซึ่งโรคนี้ยังคงส่งผลกระทบต่อมนุษย์ในปัจจุบัน
นักวิจัยใช้เทคโนโลยี micro CT scan เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของแผล และประกอบสร้างก้อนเนื้องอก รวมถึงเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงขึ้นมาใหม่ด้วย ซึ่งผลจากการทดลอง ยืนยันว่า มีโรค LCH อยู่ในไดโนเสาร์จริง และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่พบโรคนี้อยู่ในไดโนเสาร์
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีพบโรคนี้ในสัตว์ชนิดอื่นนอกเหนือจากมนุษย์ เพราะก่อนหน้านี้ มีการศึกษาที่ค้นพบโรคดังกล่าวในสัตว์จำพวกกระแต และเสือมาแล้ว
โรค LCH นั้น เป็นภาวะความผิดปกติที่พบได้ยากในกลุ่มเด็กอายุ 2-10 ปี ซึ่งบางครั้งก็อาจกลายเป็นมะเร็ง และถึงแก่ชีวิตได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงถกเถียงกันว่า ควรจัดกลุ่มโรคนี้เป็นหนึ่งในกลุ่มของมะเร็งหรือไม่ เพราะบางกรณี ผู้ป่วยก็สามารถหายได้เองตามธรรมชาติเช่นกัน
นักวิจัยคาดว่า การค้นพบนี้จะช่วยให้พวกเขาศึกษาวิวัฒนาการของยา ซึ่งดูจากพฤติกรรม และการพัฒนาของโรคเมื่อเวลาผ่านไปได้
อิสราเอล เฮอร์สโกวิตซ์ (Israel Hershkovitz) อีกหนึ่งนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv กล่าวว่า “เรากำลังพยายามเข้าใจว่า ทำไมโรคบางชนิด ถึงอยู่รอดผ่านวิวัฒนาการ ด้วยการถอดรหัสหาสาเหตุของพวกมัน เพื่อที่จะพัฒนาวิธีการแบบใหม่ และมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคนี้ให้ได้”
อ้างอิงจาก
https://www.independent.co.uk/news/science/disease-dinosaur-tail-humans-today-a9338081.html
https://edition.cnn.com/2020/02/13/world/dinosaur-disease-tumor-humans-scn/index.html
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER