การระบาดของ COVID-19 ทำให้หลายประเทศทั่วโลกต้องออกมาตรการคุมเข้ม ล่าสุด นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศห้ามผู้คนออกจากบ้าน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นจริงๆ เท่านั้น โดยถือเป็นมาตรการที่คุมเข้มที่สุดในสหราชอาณาจักร นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2
ตำรวจจะสลายการชุมนุมสาธารณะ (รวมตัวกันมากกว่า 2 คนขึ้นไป) และเรียกค่าปรับคนที่ทำผิดกฎ หลังจากที่ บอริส จอห์นสัน นายกฯ อังกฤษ ออกมาแถลงมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)
“เย็นวันนี้ ผมขอมอบคำแนะนำง่ายๆ ให้กับชาวอังกฤษ – อยู่บ้าน เพราะสิ่งสำคัญที่เราจำเป็นต้องทำกันก็คือ การหยุดยั้งการแพร่ระบาดระหว่างครัวเรือน และผู้คนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นจริงๆ เท่านั้น” จอห์นสัน กล่าว
จอห์นสัน ยก 4 เหตุผลที่จำเป็น ในการออกจากบ้านของประชาชน ได้แก่ การออกไปซื้อสิ้นค้าจำเป็น การออกกำลังกายวันละครั้ง การเข้ารับบริการทางการแพทย์ และการออกไปทำงาน หากมีความจำเป็นจริงๆ ทั้งยังเสริมว่า ไม่ควรพบปะเพื่อนฝูง หรือญาติที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน ในช่วงเวลานี้
นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรยังมีมาตรการให้ปิดร้านค้าที่ไม่ได้ขายสินค้าจำเป็น โรงยิมกลางแจ้ง ซุ้มขายของ สถานที่สักการะบูชาหรือทำพิธีต่างๆ ยกเว้น พิธีศพ
จอห์นสัน ย้ำด้วยว่า ถ้าประชาชนไม่ปฏิบัติตามก็จำเป็นต้องใช้อำนาจตามกฎหมาย และจะมีการพิจารณาผลของมาตรการนี้อีกครั้งในอีก 3 สัปดาห์ หลังจากยอดผู้เสียชีวิตในประเทศ ถึง 335 ราย
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/uk-52012432
https://edition.cnn.com/2020/03/23/uk/uk-coronavirus-lockdown-gbr-intl/index.html
#Brief #TheMATTER