การปิดเมืองและกักตัวอยู่บ้านสร้างผลกระทบแต่แวดวงธุรกิจหลากหลายรูปแบบ เหมือนอย่างสวนสัตว์ในเยอรมนีที่กำลังประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก จนถึงขั้นต้องออกแผนการสุดท้าย ไว้รองรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดว่า อาจจำเป็นต้องฆ่าสัตว์บางชนิด เพื่อนำไปเป็นอาหารให้สัตว์อีกชนิดหนึ่ง
เวเรนา คาสพารี (Verena Kaspari) ผู้อำนวยการของสวนสัตว์ Neumünster ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเยอรมนี ได้ร่างแผนการฉุกเฉินที่ระบุว่า สัตว์บางชนิดจะถูกกำจัด เพื่อลดค่าใช้จ่าย พร้อมระบุว่าในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์บางชนิดเพื่อเป็นอาหารให้สัตว์ตัวอื่นๆ
“ถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายมาก ชนิดที่ว่า ไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้ว หากฉันไม่เงินที่จะซื้ออาหารให้เหล่าสัตว์ทั้งหลายแล้ว หรือหากผู้จัดหาอาหารของฉันไม่สามารถจัดซื้ออาหารได้เพราะข้อจำกัดที่เพิ่งออกมาใหม่ ฉันก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์บางชนิดเพื่อนำไปเป็นอาหารสัตว์ชนิดอื่นแทน”
อย่างไรก็ดี คาสพารีกล่าวว่าสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น แต่ก็มีลิสต์ไว้ว่า แพะและกวางจะเป็นสัตว์อันดับแรกๆ ที่อาจถูกฆ่า ขณะที่ หมีขั้วโลกที่ชื่อ Vitus ซึ่งเป็นหมีขั้วโลกที่ตัวใหญ่ที่สุดในเยอรมนี ด้วยขนาดตัวกว่า 12 ฟุต จะถูกเก็บเอาไว้ให้อยู่รอดเป็นตัวสุดท้าย
สวนสัตว์ Neumünster ต้องปิดทำการชั่วคราว หลังจากที่เยอมนีประกาศล็อกดาวน์ประเทศเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยที่ผ่านมาสวนสัตว์แก้ปัญหาการเงินด้วยการเปิดรับบริจาคแทน
ขณะที่ รัฐบาลเยอรมนีออกมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ มูลค่าสูงถึง 750 พันล้านยูโร หรือประมาณ 26 ล้านล้านบาท โดยมอบให้กับการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจ เงินลงทุนในบริษัท และเงินสนับสนุนแรงงานที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า สวนสัตว์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่จะได้รับเงินเยียวยาส่วนนี้ด้วยหรือไม่
สวนสัตว์ดังกล่าว มีสัตว์อาศัยอยู่ในที่มากกว่า 700 ตัว และมากกว่า 100 สปีชีส์ โดยคาสพารีกล่าวด้วยว่า เธอยอมที่จะการุณยฆาตสัตว์ มากกว่าจะปล่อยให้พวกมันทรมาณเพราะต้องอดตาย ทั้งยังระบุว่า สวนสัตว์ยังไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากทางรัฐ ตามที่ลงทะเบียนไว้ด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2020/04/15/world/europe/germany-zoo-coronavirus.html
https://www.dw.com/en/german-zoo-draws-up-coronavirus-slaughter-list/a-53135354
#Brief #TheMATTER