ธุรกิจใหญ่ เริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าขาย มีข่าวการปิดตัวของหน้าร้านต่างๆ มากชึ้นไม่ว่าแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น ไปถึงล่าสุดอย่างบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์ Microsoft ที่ได้ประกาศว่าจะปิดร้านค้าทั้งหมด 83 แห่งทั่วโลก และปรับรูปแบบเป็นออนไลน์เท่านั้น
โดยบริษัทจะปรับพื้นที่ร้านเหลือเพียงแค่ที่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ นิวยอร์ก กับเรดมอนด์ ในสหรัฐฯ และซิดนีย์ในประเทศออสเตรเลีย โดยจะเปลี่ยนเป็นศูนย์ประสบการณ์ ที่ไม่มีการขายสินค้าใดๆ แต่เป็นพื้นที่แสดงเทคโนโลยีของ Microsoft เช่น Surface PC, Xbox, Windows และ Office แทน ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การค้าปลีกออนไลน์ โดย Microsoft ระบุว่าเว็บไซต์ Microsoft, Xbox และ Windows มีลูกค้าทางออนไลน์รวมกันมากถึง 1.2 พันล้านรายต่อเดือน
เดวิด พอร์เตอร์ รองประธานบริษัทไมโครซอฟท์กล่าวว่า “ยอดขายของเราเติบโตขึ้นทางออนไลน์ เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราส่วนใหญ่พัฒนาขึ้นเพื่อการนำเสนอทางดิจิทัล และทีมงานที่มีความสามารถของเราได้พิสูจน์ความสำเร็จในการให้บริการลูกค้าออนไลน์ได้” ซึ่งนักวิเคราะห์มองถึงการปิดร้านของ Microsoft ว่า เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ยากลำบาก แต่ชาญฉลาด และเป็นเทรนด์ที่ในหลายปีที่ผ่านมา ทุกอย่างก็ขยับเข้าหาช่องทางดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
โดยในตอนแรก แหล่งข่าวใน Microsoft ระบุว่า แผนการปิดร้านค้านี้ถูกวางไว้ในปีหน้า แต่ด้วยสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ทำให้แผนปรับเร็วขึ้น และที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ประกาศให้พนักงานทำงานทางไกล โดยที่แม้สถานการณ์ในบางประเทศจะดีขึ้นมา มีการคลายล็อกดาวน์ แต่บริษัทเองก็ไม่มีแผนที่จะเปิดร้านใหม่เลยด้วย จนถึงวันที่ประกาศปิดตัวถาวร ทางบริษัทยังได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี The Verge ด้วยว่า ในการตัดสินใจตอนนี้ จะยังไม่มีการปลดพนักงาน
Microsoft เปิดร้านค้าปลีกแห่งแรกในปี 2009 ในช่วงเวลาของการเปิดตัว Windows 7 และตั้งแต่นั้นมาได้มีการเปิดร้านค้ามากกว่า 100 แห่ง โดยร้านค้าเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขายสินค้า แต่ยังโปรโมททั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ รวมถึงการจัดเวิร์คช็อป การบริการลูกค้า และการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2020/06/26/tech/microsoft-stores-closing/index.html
https://www.theverge.com/2020/6/26/21297400/microsoft-retail-stores-closing-cities-open
#Brief #TheMATTER