เหมือนว่าปีนี้มนุษยชาติจะยังเผชิญกับความเลวร้ายได้ไม่พอ เมื่อล่าสุด มีการตรวจพบว่า ระดับกัมมันตรังสีในทางตอนเหนือของหลายประเทศในยุโรปเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจบ่งบอกได้ว่า เกิดความเสียหายที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และตอนนี้ ยังไม่มีประเทศไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อความผิดปกติที่เกิดขึ้นนี้
หน่วยงานด้านความปลอดภัยของนิวเคลียร์จากฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ออกมาประกาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ว่า พวกเขาตรวจพบไอโซโทปกัมมันตรังสีที่เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั่วสแกนดิเนเวียและบางพื้นที่ในภูมิภาคอาร์กติก
ขณะที่ ทางสวีเดนออกมาบอกว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แหล่งกัมมันตรังสีมาจากที่ใด แต่เจ้าหน้าที่ของเนเธอร์แลนด์ออกมากล่าวว่า จากการวิเคราะห์แล้วต้นกำเนิดของกัมมันตรังสีน่าจะมาจากฝั่งตะวันตกของรัสเซีย
ซึ่งรัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศรายใหญ่ที่ผลิตพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก โดยมีโรงงานที่เปิดดำเนินการอยู่ 10 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกหลายแห่ง นอกจากนี้ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ยังเซ็นสัญญามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์โดยใช้เทคโนโลยีรัสเซียในประเทศอื่น ๆ เช่น อินเดีย ตุรกี และอิหร่าน อีกด้วย
แต่ล่าสุด รัสเซียออกแถลงการณ์ปฏิเสธในเรื่องนี้ โดยระบุว่า โรงงานนิวเคลียร์ของรัสเซียทั้งสองแห่งในทางตอนเหนือและตะวันตก ได้แก่ Leningrad NPP และ Kola NPP ยังคงทำงานปกติ ไม่มีการรั่วไหลออกมา รวมถึงไม่มีกระแสร้องเรียนเรื่องนี้เข้ามาด้วย
อย่างไรก็ดี ระดับกัมมันตรังสีที่ตรวจจับได้ในตอนนี้ ยังไม่ถึงขั้นที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้คน
องค์กรพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ของ UN กล่าวว่า ตอนนี้รับเรื่องรายงานกรณีดังกล่าวแล้ว และกำลังขอข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติมจากประเทศสมาชิกทั้งหลาย เพื่อเฝ้าระวังต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.sciencealert.com/unexpected-radiation-spike-detected-over-europe-authorities-say
https://www.bbc.com/news/world-europe-53214259
#Brief #TheMATTER