“ตอนนี้ผ่านมา 30 วันแล้ว ความหวังริบหรี่มาก แต่เราก็ยังภาวนาขอให้เขามีชีวิตรอด ไม่ว่าจะในสภาพไหน ก่อนนอนก็ภาวนาทุกคืน ขอให้เขายังปลอดภัย อยากได้คำยืนยัน ถ้าเสียชีวิตแล้ว ก็จะนำกลับมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เราอยากพาเขากลับบ้าน”
คือคำสารภาพจากใจ สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมไทยผู้ลี้ภัยในกัมพูชา ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2563 หลังถูกชายฉกรรจ์พาตัวขึ้นรถยนต์ขับออกไป และจนป่านนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
บนเวทีเสวนา ‘หนึ่งเดือนกับการแสวงหาความจริง #saveวันเฉลิม’ ที่จัดโดย Amnesty International ในวันนี้ สิตานันกล่าวถึงความพยายามในการตามหาตัววันเฉลิมว่า นับแต่ได้ข้อมูลยืนยันว่าถูกอุ้มหาย ก็ขอให้เพื่อนที่อยู่ที่กัมพูชาคอยติดตามข่าว รวมถึงหากรู้ว่า หน่วยงานรัฐของไทยที่ไหนเกี่ยวข้อง ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือขอให้ช่วยติดตามทั้งหมด แต่เวลาผ่านมาครบเดือนแล้วก็ไม่มีอะไรคืบหน้า
“ไปยื่นเรื่องที่อัยการสูงสุด เขาก็บอกว่าต้องรอให้ DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) รับเป็นคดีพิเศษ ไปยื่นเรื่องที่ DSI ก็บอกว่าให้รอผล แต่ทางอัยการสูงสุดก็บอกว่า หาก DSI ไม่รับเป็นคดีพิเศษ มันก็ไปต่อยาก”
ส่วนการติดตามคนหายจากทางการกัมพูชา สิตานันบอกว่า เพื่อนของวันเฉลิมเคยไปแจ้งความแล้ว แต่ทางนั้นไม่รับ บอกว่าไม่ใช่ญาติ ตนจึงพยายามติดต่อจนได้ทนายความของที่นั่นเพื่อเตรียมแจ้งความแล้ว อยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารอีกเล็กน้อยเท่านั้น
พี่สาวของวันเฉลิมยังบอกว่า ที่ผ่านมาครอบครัวได้รีบฟีดแบ็กทั้งทางบวกและทางลบ ทั้งให้กำลังใจ และที่บอกว่า วันเฉลิมหายตัวไปเพราะไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนถือคติว่าจะไม่ไปตอบโต้อะไร เพราะเป้าหมายสุดท้ายก็คือ ทราบชะตากรรมของวันเฉลิมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะผู้ลี้ภัยที่หายตัวไป 8 คนก่อนหน้านี้ มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ครอบครัวได้ทราบชะตากรรม (พบศพ)
“อยากวิงวอนคนที่อุ้มวันเฉลิมไปว่า ปล่อยตัวเขามาเถอะ ไม่ว่าจะในสภาพไหน ถ้าเป็นศพ ก็ขอการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว ไม่เช่นนั้นครอบครัวก็จะใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้” สิตานันกล่าว
#Brief #TheMATTER