“สิ่งที่จุฬาฯ กำลังทำ คือสิ่งที่ปิดกั้นไม่ให้เราแสดงออก” กล่าวโดยหนึ่งในผู้ปราศรัย
ส่วนผู้ปราศัยอีกคนระบุว่า “ชอบบอกว่าอย่าเหมารวม อย่าเอาชื่อไปใช้ แล้วทำไมตอนนั้นนกหวีดถึงเป็นสีชมพู” คือหนึ่งในเนื้อหาการปราศรัยจากนิสิตจุฬาฯ ในแฟลชม็อบ ‘เสาหลักจะหักเผด็จการ’ ที่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตึกคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันนี้ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มคณะจุฬาฯ สปริงมูฟเมนต์ และกลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ ได้ร่วมกันจัดแฟลชม็อบ ‘เสาหลักจะหักเผด็จการ’
ก่อนหน้านี้ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา สำนักบริหารกิจการนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ไม่อนุญาตให้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม กลุ่มนิสิตก็ได้ยืนยันที่จะจัดกิจกรรมโดยย้ายจากที่ตกลงกันไว้ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปลานพระบรมรูปสองราชกาลแทน แต่เนื่องจากฝนตกจึงย้ายไปจัดใต้คณะอักษรศาสตร์ในมหาวิทยาลัย
โดยกลุ่มผู้เข้าร่วมปราศรัยได้พูดถึงคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยที่ปิดกั้นการแสดงออกเชิงการเมืองในมหาลัยฯ ในช่วงหนึ่ง ผู้ปราศรัยได้ระบุถึง จิตร ภูมิศักดิ์ อ่านเนื้อเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา นอกจากนี้ ยังได้วิจารณ์ถึงการก่อสร้างในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยว่าไม่คำนึงถึงนิสิต นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงการขอคืนค่าเทอม เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งทำให้นิสิตต้องเรียนที่บ้านและไม่ได้ใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัย
โดยนอกจากข้อเรียกร้องถึงมหาวิทยาลัยแล้ว แกนนำผู้ชุมนุมยังได้ให้สัมภาษณ์กับ The Reporter ว่า พวกตนสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนปลดแอก คือ 3 ข้อเรียกร้อง (เลิกคุกคามประชาชน, แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยุบสภา) 2 จุดยืน (ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ) และ 1 ความฝัน (ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ) พร้อมกับยืนยันว่าจะไปเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้แน่นอน
ทั้งนี้ กลุ่มกฎหมายอินเตอร์เน็ตเพื่อประชาชน หรือ iLaw ได้ตั้งโต๊ะรวบรวบ 50,000 รายชื่อ อยู่ที่บริเวณคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย
#Brief #TheMATTER #เสาหลักจะหักเผด็จการ