เหมือนจะใกล้ความจริง แต่ก็ยังไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะ ‘ตัวละครสำคัญ’ กลับไม่มาปรากฎตัว
การตามหาความจริงว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพลิกผลคดี บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา จนท้ายสุดอัยการสั่งไม่ฟ้อง ยังไม่ใกล้จะถึงบทสรุปเมื่อ ‘นายตำรวจใหญ่’ ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้พานักวิชาการไปกดดันให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเปลี่ยนความเร็วรถยนต์ของบอส จาก 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือไม่ถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่มาปรากฎตัว
ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในวันนี้ เรียกผู้เกี่ยวข้องกับคดีบอส อยู่วิทยา มาชี้แจงอีกครั้ง
โดยตัวละครสำคัญที่สื่อจับตามองคือ ‘พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง’ อดีต ผบ.ตร. ที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้พา อ.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ไปเข้าพบ พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น (ยศขณะนั้น ปัจจุบันคือ พ.ต.อ.) ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ในวันที่ 26 กุมภาพันธุ์ พ.ศ.2559 เพื่อเสนอสูตรคำนวณความเร็วใหม่ จนความเร็วรถของบอส อยู่วิทยา เหลือไม่ถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง – ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในท้ายที่สุด
แต่ในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ กลับไม่มาปรากฎตัว
มีเพียง ‘พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก’ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ขณะเกิดเหตุเป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ยศ พล.ต.ท. ในฐานะผู้บังคับบัญชา พ.ต.ท.ธนสิทธิ) และ ‘พ.ต.อ.วิรพล ทับทิมดี’ อดีตพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ (ยศขณะนั้นคือ พ.ต.ท.) เจ้าของสำนวนคดีบอส อยู่วิทยาขณะนั้น ที่มาชี้แจง โดยทั้ง 2 คนยืนยันว่า ในวันดังกล่าว “พล.ต.อ.สมยศไม่ได้มาด้วย” – แต่ทั้งคู่ กลับให้คำตอบชัดเจนไม่ได้ว่า แล้วเหตุใด อ.สายประสิทธิ์จึงมาพบกับ พ.ต.ท.ธนสิทธิกับคณะทำงานได้
พล.ต.อ.มนูอ้างว่า คิดว่าพนักงานสอบสวนเป็นผู้พา อ.สายประสิทธิ์มา
พ.ต.อ.วิรดลอ้างว่า พอมาถึง ก็เห็น อ.สายประสิทธิ์อยู่ในห้องกับ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์และคณะทำงานแล้ว
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ธนสิทธิยังยืนยันกับ กมธ.การกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎรว่า ในวันดังกล่าว พล.ต.อ.สมยศเป็นผู้พา อ.สายประสิทธิ์ และ พ.ต.อ.วิรดล มาพบกับพวกตน พร้อมด้วยสูตรคำนวณความเร็วใหม่ที่ทำให้ความเร็วของรถยนต์บอส อยู่วิทยา ลดลงจาก 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือไม่ถึง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และกดดันให้ลงนามในเอกสารให้ปากคำเพิ่มเติมในวันนั้น (ให้ปากคำว่ายอมเปลี่ยนความเร็วจากสูตร อ.สายประสิทธิ์)
แต่ภายหลังเมื่อนำสูตรคำนวณความเร็วดังกล่าวมาทบทวนก็พบว่า คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงถึง 46% พ.ต.อ.ธนสิทธิจึงพยายามติดต่อพนักงานสอบสวน เจ้าของสำนวนคดีบอส อยู่วิทยา เพื่อเปลี่ยนแปลงความเร็วของรถยนต์บอส อยู่วิทยา ให้กลับไปเป็นตัวเลขเดิม แต่ก็ไม่สำเร็จ
หลายๆ คนยังรอคำชี้แจงจาก พล.ต.อ.สมยศ ว่าเป็นผู้พา อ.สายประสิทธิ์ไปพบกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จนทำให้ตัวเลขความเร็วรถยนต์ของบอส อยู่วิทยา เปลี่ยนไปหรือไม่ ?
คดีของบอส อยู่วิทยา ทำให้กระบวนการยุติธรรมถูกตั้งคำถาม โดยเฉพาะขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานชั้นต้นและการทำสำนวนคดีก่อนส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งผู้เกี่ยวข้องสำคัญก็คือ ‘ตำรวจ’ นั่นเอง
#Brief #TheMATTER