เด็กยุค 1990 หลายคนน่าจะเติบโตมากับการ์ตูน The Jetson ที่จำลองภาพครอบครัวตลกโปกฮาในโลกอนาคต ที่อาศัยอยู่ในนิคมอวกาศ มีแม่บ้านเป็นหุ่นยนต์ และมียานบินได้เป็นพาหนะประจำของครอบครัว
ล่าสุดดูเหมือนภาพจากการ์ตูนดังกล่าว ใกล้เป็นความจริงแล้ว เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัท SkyDrive ได้ออกแถลงการณ์ถึงความสำเร็จในการทดลอง ‘รถยนต์ไฟฟ้าบินได้แบบมีคนขับ’ รุ่น SD-03 โดยเป็นการบินเหนือพื้นดิน 3 เมตร เป็นเวลาราว 4 นาที
โทโมฮิโระ ฟูคุซาวะ CEO ของ SkyDrive กล่าวว่า แม้จะมีโครงการรถยนต์บินได้มากมายในปัจจุบัน แต่ SD-03 เป็นรถยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด ใช้พื้นที่จอดเท่ากับรถยนต์สองคัน และมีการติดตั้งเครื่องยนต์ไว้ถึง 8 ตัว เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉิน
ฟูคุซาวะ กล่าวด้วยว่า บริษัทวางแผนจะขายรถยนต์บินได้ภายในปี 2023 โดยตั้งราคาไว้ที่ระหว่าง 300,000 – 500,000 ดอลลาร์ (9.3 – 15.5 ล้านบาท) และคาดว่าราคาจะเริ่มตกลงในปี 2030
ทางด้านเอลลาร์ แอตกินส์ ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศ จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนมองว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีก 20 ปี กว่าคนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงรถยนต์บินได้ เธอกล่าวว่า “ถึงแม้ มันประหยัดพลังงานมากกว่าเฮลิคอปเตอร์ แต่มันก็ใช้พลังงานมากกว่ารถยนต์ทั่วไป เพราะระบบที่ต้องยกตัวให้ลอยขึ้น ดังนั้น ราคาของมันต้องจับต้องได้ไม่ง่ายแน่นอน”
.
นอกจากบริษัท SkyDrive แล้ว Boeing, Airbus รวมถึงบริษัทรถยนต์อย่าง Toyota และ Porsche ก็ได้พัฒนาโครงการรถยนต์บินได้เช่นกัน ขณะที่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา Hyundai และ Uber ก็ประกาศพร้อมรองรับรถยนต์ไฟฟ้าบินได้ทุกรุ่น ขณะที่สถาบันมอร์แกน แสตนลีย์คาดการณ์ว่าในปี 2040 แท็กซี่ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะสร้างมูลค่าในตลาดมากถึง 1.4 – 2.9 ล้านล้านดอลลาร์
บริษัท SkyDrive เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2012 จากกลุ่มองค์กรอาสาที่ชื่อว่า Cartivator แล้วเริ่มดำเนินโครงการ ‘รถยนต์บินได้’ ในปี 2014 ในปีนี้บริษัทได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มจาก ธนาคารพัฒนาแห่งชาติญี่ปุ่น (Development Bank of Japan) และกลุ่มทุนอื่นๆ
อ้างอิง:
https://www.nytimes.com/2020/08/29/us/japan-flying-car.html
https://edition.cnn.com/2020/08/29/us/flying-car-successful-test-in-japan-trnd/index.html
https://www.axios.com/japan-flying-car-test-flight-skydrive-a36ed201-aea8-4200-a037-e059e7440b44.html
#TheMATTER #Brief #รถยนต์บินได้