นักโบราณคดีเพิ่งไขอีกจิ๊กซอร์ประวัติศาสตร์ได้เมื่อพวกเขาพบว่า เรือเดินสมุทร ‘La Unión’ ซึ่งถูกพบตั้งแต่เมื่อปี 2017 ใต้ผืนน้ำอ่าวเม็กซิโก เป็นเรือที่ขนทาสชาวมายา ไปขายในประเทศคิวบา
การค้นพบครั้งดังกล่าว เป็นการยืนยันว่าถึงแม้ เม็กซิโกจะมีกฎหมายห้ามค้าทาสตั้งแต่ปี 1829 แต่ก็ไม่ถูกบังใช้เท่าที่ควร เพราะเรือดังกล่าวอัปปางลงในวันที่ 19 กันยายน 1861 หรือภายหลังที่มีกฎหมายออกมาแล้วกว่า 40 ปี
Helena Barba Meinecke นักโบราณคดี จาก INAH กล่าวว่า “ชาวมายาถูกขายให้กับพ่อค้าคนกลางในราคา 25 เปโซ ก่อนที่จะถูกนำมาขายต่อในฮาวันนาในราคา 160 เปโซสำหรับผู้ชาย และ 120 เปโซ สำหรับผู้หญิง” โดยพวกเขาจะถูกซื้อเพื่อมาเป็นแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำตาล
นักโบราณคดีประเมินว่า การค้าทาสชาวมายาเกิดขึ้นระหว่างปี 1855-1861 หรือระหว่างสงคราม Caste War of Yucatán และการค้นพบครั้งนี้ เป็นผลบวกต่อการศึกษาประวัติศาสตร์เม็กซิโก และการทำความเข้าใจบริบทสังคมการเมืองเม็กซิโกในช่วงนั้น
โดยสาเหตุที่เรืออัปปางมาจากการระเบิดของหม้อน้ำ ที่ทำให้เรือไหม้ไปทั่วทั้งลำ จนทำให้มีลูกเรือ 80 ราย และผู้โดยสาร 60 ราย เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม พวกเขายังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีทาสชาวมายากี่คนที่เสียชีวิต เพราะกลุ่มทาสถูกจดชื่อไว้ในฐานะสินค้า ไม่ใช่ผู้โดยสาร
ชนเผ่ามายาอาศัยอยู่ในพื้นที่แถบอเมริกาใต้และอเมริกากลาง เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่แล้ว อารยธรรมพวกเขาประหลาด ทว่าก็ล้ำหน้า โดยพวกเขามีทั้งสถาปัตยกรรมพีระมิดขนาดยักษ์ พิธีกรรมบูชายัญมนุษย์ ตลอดจนวัฒนธรรมการเสพสุราโดยกรอกใส่บั้นท้าย อย่างไรก็ตาม อารยธรรมของพวกเขาก็มาถึงจุดล่มสลาย เมื่อสเปนเข้ามามีอิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว
อ้างอิง:
https://edition.cnn.com/2020/09/19/americas/mexico-mayan-slave-ship-trnd/index.html
https://www.nydailynews.com/news/world/ny-mayan-slave-ship-20200920-pu4m6kpzonf23gndapuofadcs4-story.html
https://www.gypzyworld.com/article/view/785
#TheMATTER #Brief