ถ้าถามว่ายุ่งไหม ตอบเลยว่ามากกกกกก ชีวิตของหลายๆ คนช่วงนี้น่าจะยุ่งๆ กันเป็นพิเศษ ยิ่งช่วงปลายปีและเดือนนี้ที่แทบไม่ค่อยมีวันหยุดเลย จนบางครั้งงานที่ถาโถมเข้ามาก็ดุเดือดเสียยิ่งกว่าอากาศร้อนของประเทศไทย
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีทั้ง ‘งานยุ่ง’ ที่แบบยุ่งจริงๆ จนทำอะไรไม่ได้ กับ ‘อาการเสพติดความยุ่ง’ ที่ถึงแม้เราจะไม่ยุ่ง แต่ก็อยากทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้เพื่อมาเติมความกังวลภายในใจว่า เรากำลังใช้ชีวิตอย่างไม่ Productive อยู่รึเปล่านะ?
งานวิจัยชิ้นหนึ่งจาก University of Chicago พยายามหาคำตอบว่า ทำไมหลายๆ คนถึงอยากทำตัวให้ยุ่งๆ เข้าไว้นะ? ในการศึกษาครั้งนั้น นักวิจัยได้เลือกใช้คำว่า ‘Idleness Aversion’ ที่อธิบายถึงวิธีที่ผู้คนถูกลากเข้าไปอยู่ในภาวะความยุ่ง เพื่อให้ตัวเองใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สิ่งที่ในงานวิจัยพบด้วยก็คือ หลายคน ใช้ความยุ่งนี่แหละมากลบเอาความขี้เกียจและความกลัวที่จะผิดพลาดลงในใต้พรมของตัวเอง พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เอาความยุ่งมาทดแทนช่วงเวลาว่าง เพราะให้ค่าไปแล้วว่า ความยุ่ง = Productive (ซึ่งอาจไม่จริงเสมอไป)
อันที่จริง ยังมีงานศึกษาที่บอกด้วยว่า ความคิดสร้างสรรค์ของคนเรามันจะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ หากเราปล่อยจิตใจให้ล่องลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยด้วยซ้ำ
เมื่อเป็นเช่นนี้ การปล่อยเวลาให้มันไหลผ่านไปโดยที่เราไม่จำเป็นต้องออกไปทำตัวยุ่งๆ และพักในวันที่ควรจะพัก หรือหยุดหายใจในวันที่ไม่ยุ่งบ้าง มันก็น่าจะช่วยเป็นผลดีกับตัวเราเองไม่น้อยเหมือนกันนะ
อ้างอิงจาก
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20548057
https://qz.com/978018/happiness-research-shows-the-biggest-obstacle-to-creativity-is-being-too-busy/
#GoodsMorning #TheMATTER