เคยเป็นไหม เวลาเจอประโยคที่เราชอบจากหนังสือ หรือย่อหน้าที่อ่านแล้วประทับใจมากๆ เราก็อยากจะใช้เวลาอยู่กับพื้นที่ตรงนั้นนานๆ ค่อยๆ อ่านทีละตัวอักษรอย่างไม่เร่งรีบ เพื่อเก็บความรู้สึกเอาไว้ในความทรงจำ
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินคำแนะนำ เกี่ยวกับวิธีและข้อดีของการอ่านหนังสือแบบรวดเร็ว (speed reading) แต่ในทางตรงข้ามนั้น การอ่านแบบช้าๆ (slow reading) มันก็มีข้อดีในตัวเองด้วยเหมือนกันนะ ซึ่งหลายคนน่าจะอินกับการอ่านแบบนี้กันไม่น้อยเลย
แน่นอนว่า ข้อดีข้อแรกก็คือการอ่านหนังสือแบบช้าๆ มันคือการช่วยให้เราได้ ‘อิน’ กับข้อความตรงหน้าและใช้เวลาเก็บบันทึกมันลงในความทรงจำได้ดีว่าการอ่านแบบรวดเร็วมากเกินไป
บทความจาก The Wall Street Journal อธิบายด้วยว่า การอ่านแบบช้าๆ จะช่วยให้เราค่อยๆ ใช้ผ่อนคลายความตึงเครียดที่สะสมอยู่ได้ด้วยนะ มิหนำซ้ำยังจะปรับโฟกัสของเราให้อยู่กับหนังสือได้เป็นพิเศษ เป็นการฝึกสมาธิและสมองของเรา ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเวลาหนึ่งๆ ให้ได้ดีขึ้น
ขณะที่นักเขียนอย่าง Jacqueline Woodson ได้พูดเอาไว้บนเวที Ted Talks ว่า การอ่านอย่างช้าๆ มันยังช่วยให้เรามีเวลาแต่งเติมความคิด ต่อเติมจินตนาการจากถ้อยคำบนหนังสือ เธอเปรียบเทียบด้วยว่า มันช่วยให้เราได้รู้จักกับโลกที่เราไม่รู้จักมาก่อน
ด้วยประโยชน์เช่นนี้ การอ่านอย่างช้าๆ ช่วยเพิ่มทักษะและได้แต่งเติมวิธีการเขียนหนังสือของเราได้มากขึ้น
การอ่านหนังสืออย่างช้าๆ จึงไม่ใช่เรื่องแย่แต่อย่างใดเนอะ เพราะมันยังช่วยให้เราผ่อนคลายความตึงเครียด ขยายขอบเขตจินตนาการ ช่วยเราลงลึกถึงความหมายจากตัวหนังสือ
ทั้งยังช่วยเราเชื่อมต่อกับความรู้สึกตัวเอง และสร้างเสริมโลกการเขียนของเราให้ได้เพิ่มเติมอีกด้วยนะ
อ้างอิงจาก
https://www.wsj.com/articles/read-slowly-to-benefit-your-brain-and-cut-stress-1410823086
https://www.ted.com/talks/jacqueline_woodson_what_reading_slowly_taught_me_about_writing?language=en
https://www.theguardian.com/books/2010/jul/15/slow-reading
#GoodsMorning #slowreading #TheMATTER