งานที่เคยทำได้ดี ก็ไม่ดีเหมือนเดิม ไอเดียต่างๆ ที่เคยคิดออกมาได้ไม่ยาก ก็ต้องคิดหลายรอบกว่าจะได้ตามที่พอใจ บางครั้ง ภาวะการหมดไฟในการทำงาน มันก็ไล่ตามเรามาได้ในระหว่า Work From Home ด้วยเหมือนกัน
แล้วเราจะทำยังไงกันดีนะ? บทความจาก Harvard Business Review มีคำแนะนำให้กับพวกเรา 3 ข้อ
1) สร้างความแตกต่างระหว่างช่วงทำงานกับช่วงเวลาส่วนตัว : ตัวอย่างที่ถูกยกมาก็ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร เช่น พยายามแต่งตัวชุดทำงานไปเลย (เพื่อบอกกับตัวเองว่า เรากำลังทำงานอยู่นะ) หรือไม่ก็อย่างน้อยๆ คือลองเปลี่ยนกางเกงตอนทำงานดูก็ได้ แล้วเมื่อทำงานเสร็จก็เปลี่ยนมาใส่ชุดอยู่บ้านตามปกติต่อ
2) พยายามลองหาสูตรช่วงเวลาทำงานที่เหมาะกับตัวเอง : บางครั้งเวลาทำงานที่บ้านนั้น จะทำให้เส้นแบ่งระหว่างชีวิตส่วนตัวกับชีวิตที่ต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานมันเบลอลงไปได้ ข้อแนะนำคือ พยายามจัดสรรช่วงเวลาของตัวเองให้ดี โดยเฉพาะการไม่ทำให้ชีวิตทำงานมันกลืนกินทุกอย่าง
3) โฟกัสกับงานที่สำคัญที่สุดก่อน : เรื่องนี้ก็สำคัญมาก เพราะเมื่อเราอยู่ตัวคนเดียว เราก็อาจจะลืมจัดระเบียบความสำคัญของงานได้ จนทำให้เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย (เพราะทำมันมากเกินไปในเวลาไล่เลี่ยกัน) ข้อแนะนำคือ ลองลิสต์เอาไว้ว่าต้องทำอะไรเป็นลำดับแรก (เช่นงานที่ใกล้เดดไลน์) แล้วค่อยๆ เคลียร์งานลำดับรองๆ ต่อไป
สิ่งสำคัญที่สุดคือ พนักงานที่พยายามจะต้อง ‘สแตนบาย’ ตลอดเวลาที่อยู่บ้านนั้น มีความเสี่ยงสูงมากที่จะหมดไฟได้ง่ายๆ เพราะชีวิตส่วนตัวในบ้านถูกการงานอาชีพดูดกลืนไปจนหมด และไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสนิทใจ
Work From Home แบบติดต่อกันทั้งสัปดาห์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่พวกเราก็ต้องค่อยๆ ปรับตัวกันไป ลองผิด ลองถูกกันได้ โดยไม่ลืมว่าต้องรักษา ‘พื้นที่ชีวิตส่วนตัว’ เอาไว้ให้ได้ เพื่อที่จะไม่หมดไฟกันไปก่อนนะ
อ้างอิงจาก
https://hbr.org/2020/04/3-tips-to-avoid-wfh-burnout
https://hbr.org/2018/11/helping-remote-workers-avoid-loneliness-and-burnout
#GOODSMORNING #TheMATTER
