เคยรู้สึกแบบนี้ไหม? เวลาดูแลรักษาบางอย่างอยู่ทุกวัน แล้วเห็นสิ่งนั้นได้เติบโตและงอกงามขึ้นมาเป็นอย่างดีแล้ว มันก็เป็นความรู้สึกที่เติมเต็มชีวิตเราได้ไม่น้อยเลยเนอะ
หนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยเยียวยาชีวิตระหว่างอยู่บ้านได้ คือการปลูกต้นไม้ในบ้าน โดยที่ผ่านมา มีงานวิจัยอยู่หลายชิ้นที่ระบุว่า กิจกรรมเช่นนี้มันดีต่อสุขภาพจิตใจ รวมถึงดีต่อสมองของเราอีกด้วย หรือพูดในอีกทางหนึ่งคือ การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้น มันดีต่อชีวิตของพวกเราได้
นอกจากนั้น ข้อดีข้อสำคัญของการปลูกต้นไม้ในบ้าน ยังอยู่ตรงที่การที่กิจกรรมระหว่างปลูก ทั้งพรวนดิน รดน้ำต้นไม้ สอดสายตาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของแต่ละต้น มันช่วยทำให้จิตใจของเรา ‘สงบนิ่ง’ และ ‘ผ่อนคลาย’ ลงได้พอสมควร เพราะกิจกรรมเช่นนี้มันทำให้ชีวิตเราเดินช้าลงกว่าปกติ
ขณะเดียวกัน ยิ่งเมื่อเราต้องทำงานหนักๆ รวมถึงต้องโฟกัสกับอะไรหลายๆ อย่างมาตลอดทั้งวันแล้ว การได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปดูแลต้นไม้บ้าง มันก็ยังจะลดปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้าจากการใช้สมองมากจนเกินไป (บางคนเรียกปัญหานี้ว่า attention fatigue หรือความเหนื่อยล้าเพราะสนในหลายสิ่งหลายอย่าง)
เมื่อพูดถึงเรื่องของสมองแล้ว การศึกษาจะพบด้วยว่า ช่วงเวลาที่เราพักจากงานแล้วออกไปดูแลต้นไม้เองนี่แหละ มันจะทำให้สมองของเราผ่อนคลายลง ความเครียดลดลง
ในอีกทางหนึ่ง เมื่อเราทำมันจนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน รวมทั้งจดจำรายละเอียดต่างๆ ในกิจกรรมการปลูกต้นไม้ได้แล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ย่อมดีต่อสุขภาพของสมองเราในด้านการเก็บความจำ และลดความเสี่ยงต่ออาการสมองเสื่อมไปในตัว
ยังไม่หมดแค่นั้น การปลูกต้นไม้ยังน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความรัก-การเห็นคุณค่าในตัวเอง (self-esteem) อีกด้วยนะ ผ่านความรู้สึกภูมิใจในตัวเองจากการดูแลต้นไม้จนมันเติบโตได้เป็นอย่างดี
ช่วงหลังมานี้ การปลูกต้นไม้ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานอดิเรกของผู้คนแล้ว แต่ทางการแพทย์เองก็เริ่มมีแนวคิดเรื่อง ‘social prescribing’ ที่แพทย์ได้ขอให้ผู้ป่วยในบางโรค ทดลองปลูกต้นไม้ที่บ้านของตัวเองด้วย ในฐานะวิธีการหนึ่งของการบำบัดจิตใจ
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/en_au/partners/grow-room/why-indoor-plants-are-good-for-your-mental-health
https://www.huffpost.com/entry/millennials-obsessed-houseplants-instagram_l_5d7a976de4b01c1970c433b9
#GoodsMorning #TheMATTER