‘Multi-tasking’ เป็นทักษะการทำงานที่หลากหลายในเวลาเดียวกัน ราวกับเป็นยอดมนุษย์ และก็เป็นทักษะที่ถูกใจเจ้านายหลายๆ บริษัท เพราะในตัวคนหนึ่งคน สามารถเป็นได้หลายตำแหน่ง ทำงานได้หลายโปรแกรม ดูจะใช้เวลาแต่ละวินาทีได้อย่างคุ้มค่าเหลือเกิน
แต่ผลการวิจัยหนึ่งไม่คิดเช่นนั้น เมื่อพบว่าการทำงานแบบ multi-tasking โดยเฉพาะบนสื่อชนิดต่างๆ มีแนวโน้มจะเชื่อมโยงกับ ‘โรคซึมเศร้า’ และ ‘โรควิตกกังวล’
นักวิจัยในมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้สอบถามผู้เข้าร่วมทั้งหมด 319 คน เกี่ยวกับการใช้สื่อและผลกระทบต่อสุขภาพจิต ซึ่งก็ได้ผลการรายงานออกมาว่า คนที่ทำงานบนสื่อหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน แสดงอาการซึมเศร้าและวิตกกังวล ผ่านการตอบแบบสำรวจทางสุขภาพจิต
.
นอกจากนี้ การทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมอง “ยิ่งเพิ่มภาระงานมากเท่าไหร่ ประสิทธิภาพของสมองก็ยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น และการโฟกัสงานที่สำคัญจริงๆ ก็จะลดน้อยลงด้วยเช่นกัน” ซูซาน เรย์โนลด์ (Susan Reynolds) ผู้เขียนบทความเกี่ยวกับผลกระทบของ multi-tasking กล่าว
และความจริงก็คือ เราไม่ได้กำลังทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันแบบที่คิดหรอก แต่สมองและความสนใจของเราสลับไปสลับมาระหว่างงานแต่ละชิ้นต่างหาก หรือเรียกว่า tasking-switching และระหว่างการสลับไปยังงานอีกชิ้น ก็ใช้พลังงานในการรื้อฟื้นข้อมูลหนักมาก ซึ่งห่างไกลจากการทำงานแบบ productive โดยสิ้นเชิง เพราะในที่สุด งานแต่ละชิ้นก็จะเสร็จไปแบบผิวๆ
ดังนั้น ถึงเวลาที่เราอาจจะต้องกลับมาทำงานแบบ ‘Mono-tasking’ หรือตั้งใจทำงานชิ้นที่สำคัญเพียง ‘ชิ้นเดียว’ ให้เสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ แทนที่จะทำ 5-6 อย่าง แต่ทำออกมาได้ไม่สุดสักอย่าง แถมยังรู้สึกสับสน กระวนกระวายกับตอบสนองหลายอย่าง และทำงานให้เดดไลน์ที่กำหนดอีก
อย่ามองว่าการทำอะไรเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องที่ไม่เท่ เพราะการที่เราลงแรงให้กับงานๆ หนึ่งอย่างเต็มที่ สิ่งที่เราจะได้ก็คือ ‘deep work’ หรืองานชิ้นที่มีความละเมียดละไม ลึกซึ้ง และมีคุณภาพ โดยหมั่นถามตัวเองทุกวันว่า สิ่งสำคัญที่ต้องทำในวันนี้มีอะไรบ้าง และจัดตารางในการทำกิจกรรมแต่ละอย่างให้แน่ชัด เช่น ตอบอีเมลลูกค้าถึงกี่โมง ติดตามข่าวสารถึงกี่โมง พิมพ์เอกสารงานกี่โมง เป็นต้น
การค่อยๆ ทำอะไรไปทีละอย่างแบบมีสติ โดยจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างถูกต้อง อาจเป็นวิธีที่โปรดักทีฟที่สุดสำหรับบางคนก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการหาเวลาพักสมองบ้าง เพื่อที่จะได้มีแรงลุยงานชิ้นต่อๆ ไปในอนาคต
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.washingtonian.com/2012/12/10/is-multitasking-making-you-depressed/
#Goodsmorning #TheMATTER