หลังพ่ายเลือกตั้งแบบสุดช็อก นาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (ระหว่างปี 2009 – 2018) ก็เผชิญกับสารพัดวิบากกรรม ทั้งถูกห้ามออกนอกประเทศ ถูกยึดทรัพย์สินต่างๆ ไปตรวจสอบ ถูกจับและดำเนินคดีคอร์รัปชั่น และล่าสุด ต้องเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อรับฟังคำกล่าวหาต่างๆ ถึง 4 ข้อกล่าวหา
ข้อหาเกือบทั้งหมดทั้งมวลเกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินปริศนา ที่เงินกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 330 ล้านบาท) ถูกโอนจากกองทุน 1MDB เข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตนายกฯ มาเลเซียรายนี้
กองทุน 1MDB ถูกตั้งขั้นในปี 2009 หรือทันทีที่ราซักขึ้นสู่อำนาจ มีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดเงินลงทุน หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของมาเลเซีย แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมากลับเต็มไปด้วยข้อครหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาและบุคคลใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ราซักอยู่ในอำนาจ การตรวจสอบเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อมหาเธร์ โมฮัมหมัด ชนะเลือกตั้งช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และกลับมาเป็นนายกฯ การไล่เช็กบิลผู้เกี่ยวข้องจึงเกิดขึ้น และใช้เวลาเพียง 2-3 เดือน ก็สามารถส่งฟ้องคดีต่อศาลได้
ราซักยืนกรานปฏิเสธว่า เขาไม่ได้กระทำผิดใดๆ ในคดีที่มีอัตราโทษสูงสุดคือ จำคุก 15 ปี
ข้อครหาเกี่ยวกับกองทุน 1MDB ถูกเปิดประเด็นโดยนิตยสารการเงินชื่อดัง The Wall Street Journal ในปี 2015 ก่อนที่รัฐบาลของ 6 ชาติทั่วโลกจะเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เพราะมีเงินและทรัพย์สินถูกโอนไปยังที่ต่างๆ โดยทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า เงินที่ถูกยักยอกจากกองทุนนี้ อาจสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3.3 หมื่นล้านบาท)
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-asia-45108002
https://www.bbc.com/news/world-asia-44572106
#Brief #TheMATTER