เหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งซ้อน (ขนาด 6.0 และ 7.7) ใกล้กับเกาะสุลาเวสี อินโดนีเซีย ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 ก.ย. ที่ทำให้เกิดสึนามิขึ้นบริเวณเมืองดองกาลา (Donggala) และเมืองปาลู (Palu) ได้กลายเป็นโศกนาฎกรรมโดยทันที เมื่อมีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็นหลายร้อยคน
นสพ.นิวยอร์กไทมส์ รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้ โดยอ้างข้อมูลจาก Sutopo Purwo Nugroho โฆษกหน่วยงานด้านภัยพิบัติของอินโดนีเซีย ว่ามีแล้วอย่างน้อย 384 คนด้วยกัน ไม่รวมถึงที่ได้รับบาดเจ็บ 540 คน และยังสูญหายอีก 29 คน แต่ที่น่าตกใจก็คือ ตัวเลขนี้เฉพาะเมืองปาลูเท่านั้น ยังไม่นับของเมืองดองกาลาที่เข้าถึงได้ยากกว่า แถมโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต และถนนยังถูกตัดขาด
เหตุที่จำนวนผู้เสียชีวิตในเมืองปาลูพุ่งสูงขนาดนั้น เพราะเมืองอยู่ระหว่างเตรียมจัดงานเทศกาลบริเวณชายหาดพอดิบพอดี
มีการคำนวณกันว่า สึนามิที่เข้าถล่มเมืองปาลูน่าจะสูงราว 5 เมตร โดยภาพที่มีคนถ่ายไว้ได้ แสดงให้เห็นว่าคลื่นเข้าซัดอาคารสูง 1 ชั้นจมใต้น้ำอย่างสบายๆ เบื้องต้นมีอาคารนับพันหลังได้รับความเสียหาย
ส่วนที่มีรายงานว่า ทางการอินโดนีเซียยกเลิกการแจ้งเตือนสึนามิก่อนที่มันจะมาถึงจริงๆ Sutopo ก็ชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการยกเลิกการแจ้งเตือนเกิดขึ้นหลังสึนามิเข้ากระทบฝั่งแล้ว พร้อมกับอ้างถึงคลิปถ่ายเหตุการณ์สึนามิทั้งหลายที่ถ่ายจากที่สูงทั้งสิ้น (เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญ เพราะทางการอินโดนีเซียถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ยกเลิกการแจ้งเตือนก่อนที่จะเกิดเหตุหรือไม่ ทำให้หลายๆ คนหนีไม่ทัน)
ในปี 2004 เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.1 บริเวณเกาะสุมาตรา ทำให้เกิดสึนามิไปทั่วมหาสมุทรอินเดีย จนมีผู้เสียชีวิต 2.3 แสนคน (รวมถึงในไทย 5 พันคน) ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2018/09/28/world/asia/tsunami-palu-indonesia-earthquake.html
#Brief #TheMATTER