เรื่องของอาการสุขภาพจิต เป็นประเด็นที่คนสนใจมากขึ้น มีคนพูดถึงอาการ ผู้ป่วย วิธีรับมือกับโรคนี้มากขึ้น ซึ่งในสหราชอาณาจักรตอนนี้ บริษัท และนายจ้างต่างๆ ได้เริ่มเรียกร้อง ให้มีการออกกฎหมายให้เรื่องของสุขภาพจิตมีความสำคัญ และให้ร่างเป็นกฎหมายในสถานที่ทำงานด้วย
กลุ่มผู้บริหารระดับสูงกว่า 50 คน จากทั้งธนาคาร การศึกษา สาธารณูปโภค และสหภาพแรงงาน ได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ เรียกร้องให้มีข้อกฎหมายในที่ทำงาน ในการปฐมพยาบาลสุขภาพจิตให้สำคัญเทียบเท่ากับการปฐมพยาบาลทางร่างกาย และต้องการให้รัฐบาลทบทวนกฎอนามัยและความปลอดภัยเพื่อให้ผู้ปฐมพยาบาลสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตในช่วงเริ่มต้นของอาการ เช่นเดียวกับการพันแผล หรือทำ CPR
ในจดหมายยังมีการอ้างว่า ทุกๆ ปี ปัญหาด้านสุขภาพจิต กระทบต่อภาคธุรกิจเกือบ 35 พันล้านปอนด์ จากทั้งความเครียด, ภาวะซึมเศร้า และความวิตกกังวลในสถานที่ทำงาน ซึ่งจดหมายระบุว่า “ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องทางการเงินเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของความรู้สึกไม่ดีต่อสุขภาพที่ไม่ได้รับการรักษา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เพื่อน ครอบครัวและท้ายที่สุดคือคุณภาพชีวิตของพวกเขาเอง”
Stephen Clarke CEO ของ WHSmith หนึ่งในผู้ลงนามกล่าวว่า “ใน WHSmith สุขภาพจิตของพนักงานของเรามีความสำคัญเท่าเทียมกับสุขภาพกายของพวกเขา พนักงานของเราทุกคนสามารถเข้าถึงการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต เราภูมิใจที่เรามีผู้ช่วยปฐมพยาบาลด้านจิตใจเท่ากับผู้ปฐมพยาบาลด้านร่างกาย และเราเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายควบคู่กับบริษัทอื่นๆ เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกคนควรได้รับการสนับสนุนด้านการปฐมพยาบาลจิตใจ
ปัจจุบัน มีคนมากกว่า 300,000 คน ที่ถูกฝึกให้เป็นผู้ปฐมพยาบาลด้านจิตใจ ซึ่งทางหน่วยงานเพื่อสังคม Mental Health First Aid England ระบุว่าผู้ที่ได้รับการฝึกจะสามารถรับรู้ถึงอาการเบื้องต้น ปัญหาที่ผู้มีอาการพบ และรับมือ “เช่นเดียวกับคนที่มีความสามารถปฐมพยาบาลทางกายภาพ จะรู้วิธีใช้ CPR เพื่อช่วยชีวิตหรือทำให้คนที่ฟื้นตัวได้ ผู้ที่มีความรู้เรื่องสุขภาพจิตนั้นจะสามารถใช้ชุดทักษะในการแนะนำบุคคลที่กำลังรู้สึกต่อสู้ หรืออยู่ในภาวะวิกฤต ให้รู้สึกปลอดภัยและได้รับการสนับสนุน”
#Brief #TheMATTER