เคยสงสัยไหมว่าต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะมีโทรศัพท์เป็นของตัวเองได้?
งานวิจัยใหม่จาก Ofcom พบว่า 1 ใน 5 ของเด็กอายุ 3 และ 4 ขวบมีโทรศัพท์เป็นของตัวเอง และใช้โทรศัพท์เพื่อรับบริการสตรีมมิ่ง โซเชียลมีเดีย และเล่นเกมออนไลน์ด้วย
ตามรายงานของหน่วยงานกำกับดูแลสื่อพบว่า กว่า 69% ของผู้ที่มีอายุ 3 และ 4 ขวบ มีโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งานเป็นประจำจากทั้งของตัวเองและพ่อแม่ให้ยืม แต่การค้นพบว่า 1 ใน 5 ของเด็กที่มีโทรศัพท์เป็นของตัวเอง ทำให้คณะกรรมาธิการเด็กประจำอังกฤษออกมาบอกว่า พวกเขากังวลต่อเรื่องนี้ เพราะคิดว่าเด็กที่เล็กมากๆ ยังไม่ควรมีโทรศัพท์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ต
ความกังวลเกี่ยวกับการที่เด็กๆ สัมผัสกับเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องใหม่ และแม้ว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่จะต้องประสบปัญหาจากการจำกัดการใช้โทรศัพท์ แต่หลายคนก็ยอมรับว่าให้เด็กเล็กใช้งานโทรศัพท์อยู่บางครั้ง
ทำไมถึงเกิดความกังวลขึ้น? เหตุผลเพราะว่า เด็กอายุ 3 และ 4 ขวบอาจยังพัฒนาความชำนาญในการจับปากกา แต่งตัว หรือตัดอาหาร แต่ในงานวิจัยเด็กกว่า 92% ดูแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง YouTube และใช้โทรศัพท์ส่งข้อความเสียงและวิดีโอ 23% ใช้แอปฯ หรือเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย 18% เล่นเกมออนไลน์ และ 11% โพสต์เนื้อหาสตรีมวิดีโอของตัวเอง
งานวิจัยยังพบอีกว่า เด็กในวัยนี้มีแนวโน้มกว่า 51% ใช้ช่องสำหรับเด็กของ YouTube – หรือ YouTube for kids มากกว่าไซต์หลัก ขณะที่ 38% มีโปรไฟล์ YouTube เป็นของตัวเอง
นอกจากนี้งานวิจัยแยกจาก The Insights Family พบว่าช่อง YouTube ยอดนิยมของกลุ่มอายุนี้คือ Blippi ซึ่ง YouTuber สวมชุดสีฟ้าและสีส้มที่มีผู้ติดตามถึง 17 ล้านคน อีกช่องคือ ไรอัน เวิล์ด (Ryan’s World) และช่องของไรอัน คาจิ (Ryan Kaji) เด็กอายุ 11 ปี ที่มีผู้ติดตาม 34 ล้านคน
สิ่งนี้สร้างความยากลำบากให้กับกลุ่มครูเด็กเล็ก เช่น โนวา คอบบาน (Nova Cobban) อดีตครูโรงเรียนประถมที่ดูแลเด็ก 5 และ 6 ขวบ บอกว่า สิ่งที่เด็กๆ เอามาพูดคุยกันคือสิ่งที่พวกเขาเห็นบน YouTube และเริ่มล้อเลียนเด็กคนอื่นๆ ที่เข้าไม่ถึงสิ่งนั้น มีหลายครั้งที่เด็กๆ เอาแต่พูดถึงเกม ทำให้ขาดช่วงขณะที่ครูกำลังสอนซึ่งทำให้ครูเหนื่อยขึ้นกว่าเดิมมาก
เธอบอกว่า เธอจะไม่มีวันให้โทรศัพท์แก่ลูกวัย 4 ขวบของเธอ แม้ว่าจะอนุญาตให้ใช้บ้างบางครั้งก็ตาม เธอมองว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับพ่อแม่ แต่การสอนลูกให้อยู่เงียบๆ สัก 5 นาทีก็เป็นเรื่องที่ดี
ในปี 2019 องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบไม่ควรดูหน้าจอใดๆ และเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบควรมีเวลาอยู่หน้าจอไม่เกิน 1 ชั่วโมง การใช้เวลาอยู่หน้าจอในระดับสูงเชื่อมโยงกับพัฒนาการที่ล่าช้าของเด็กอายุระหว่าง 2 – 5 ขวบด้านนักจิตบำบัดเด็กและวัยรุ่นบอกว่า ข้อกังวลอย่างหนึ่งคือการใช้หน้าจอเพื่อให้เด็กๆ เงียบนั้นกำลังสอนพวกเขาและสมองของพวกเขาก็กำลังเรียนรู้
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าหน้าที่การแพทย์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักรสรุปในปี 2019 เช่นกันว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีงานวิจัยใดเพียงพอจะให้คำแนะนำว่าเด็กควรใช้เวลาอยู่หน้าจอนานเท่าใดถึงจะดีที่สุด
อ้างอิงจาก