คุณเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติไหม? คิดว่าผีมีจริงรึเปล่า? แล้วการที่ข้าวของเคลื่อนที่เองได้ หรือวัตถุลอยไปลอยมาต่อหน้าต่อตา มีคำอธิบายให้สิ่งเหล่านี้ยังไง?
ช่วงใกล้เทศกาลฮัลโลวีนแบบนี้ ก็จะมีเรื่องราวชวนสงสัย คาใจ หรือขนลุกให้ได้ยินได้เห็นบ่อยหน่อย อย่างปรากฏการณ์ข้าวของเคลื่อนที่หรือลอยไปลอยมาเอง ซึ่งถูกเรียกว่า ‘Poltergeist’ ก็เป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นเรื่องของวิญญาณ ภูติผีปีศาจ และเรื่องเหนือธรรมชาติ
‘Poltergeist’ เกิดจากการรวมกันของคำภาษาเยอรมันสองคำ คือ ‘Poltern’ ที่แปลว่าการพุ่งชนกันจนเกิดเสียงดัง และ ‘Geist’ ที่แปลว่าผีหรือวิญญาณ พอมารวมกันเลยแปลได้ว่าเป็นผีที่ส่งเสียงดังหรือก่อความรำคาญ รูปแบบของเหตุการณ์ที่เรียกว่าเป็น ‘Poltergeist’ ก็อย่างเช่น มีเสียงเคาะกำแพงหรือเสียงประหลาดดังแบบไม่มีที่มา มีวัตถุลอยไปมา ข้าวของถูกเคลื่อนย้ายแบบอธิบายไม่ได้ เหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาหยิบมาขว้าง บางทีก็มีกระแสไฟฟ้าวูบวาบ หรือไม่ก็ถึงขั้นคนถูกจับยกลอยกลางอากาศเลยก็มี
แต่วิทยาศาสตร์ก็ได้พยายามหาคำอธิบายให้กับ ‘Poltergeist’ นี้ โดยมีนักปรจิตวิทยา (Parapsychologist) นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องของจิตเหนือธรรมชาติ (Paranormal Ability) ได้ทำการศึกษาปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างจริงจังมาร่วมหลายปี และได้ข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ ‘Poltergeist’ มักจะเกิดขึ้นกับวัยรุ่นเพศหญิง ที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนและมีความแปรปรวนทางอารมณ์สูง รวมถึงผู้ใหญ่ที่มีความเครียดสูง
ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า ‘Poltergeist’ เกิดจากอารมณ์ความเครียดของคนเรา หรือที่เรียกว่า Recurrent Spontaneous Psychokinesis (RSPK) โดยเชื่อว่าเมื่อเกิดความเครียดหนักๆ หรืออารมณ์แปรปรวนหนักๆ จิตของเราสามารถส่งพลังงานด้านลบออกมา และส่งผลต่อสภาพแวดล้อมทางกายภาพ หรือทำให้เกิดเหตุการณ์ชวนให้คิดว่าเป็น ‘Poltergeist’ ได้ ขณะที่นักวิชาการชาวญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยวาเซะดะ ให้ความเห็นว่า ‘Poltergeist’ เป็นปรากฏการณ์พลาสมา หรือไฟฟ้าสถิตที่ไหลวนอยู่ในอากาศ ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของสิ่งต่างๆ
ตัวอย่าง ปรากฏการณ์ ‘Poltergeist’ ที่ดังๆ จนบางเรื่องถูกเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ก็เช่น
กรณีของ Annemarie Schaberl ในปี 1967 เมื่อเธอเข้าทำงานในสำนักงานทนายความใน Rosenheim ในเยอรมนี ภาพวาดบนผนังและไฟที่ห้อยจากเพดานก็เริ่มแกว่งไปมา ขณะที่หลอดไฟก็บิดตัวหลุดออกมาเอง และกระแสไฟฟ้าก็วูบวาบอย่างหนัก นาฬิกาก็ดังขึ้นแบบไม่หยุด และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็เคลื่อนไปมาเอง ตำรวจ นักฟิสิกส์ รวมถึงนักปรจิตวิทยา ก็ไม่สามารถอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้นได้ แต่บางคนก็บอกว่าเป็นการจัดฉาก และเหตุการณ์ทั้งหมดก็หายไปเมื่อ Schaberl ออกจากบริษัทไปในปีต่อมา (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hauntedearthghostvideos.blogspot.co.uk/2012/01/rosenheim-poltergeist.html)
หรือกรณีของครอบครัว Hodgson ที่ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ใน Enfield ใน North London มีทั้งเสียงโหยหวนแปลกๆ มีแสงวูบวาบ และข้าวของเคลื่อนที่แบบที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งเหตุการณ์ส่วนมากมักจะเกิดกับลูกสาวทั้งสองของครอบครัว แล้วก็มีหลายคนที่เป็นพยานร่วมเห็นเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ นักข่าว หรือคนจาก Society for Psychical แต่ก็ยังหาคำอธิบายกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้ แม้หลายคนบอกว่าเป็นการจัดฉากของครอบครัวนี้ก็ตาม
(อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.timeout.com/london/blog/five-reasons-why-londons-most-famous-poltergeist-case-is-a-hoax-061616)
อ่านเคสดังๆ เกี่ยวกับ ‘Poltergeist’ ได้ที่ https://www.thoughtco.com/poltergeists-three-famous-cases-2595934
ระหว่างที่ฝ่ายหนึ่งใช้ความเชื่ออธิบาย และอีกฝ่ายใช้หลักวิทยาศาสตร์พูดถึงปรากฏการณ์ ‘Poltergeist’ นี้ บางคนก็บอกว่า สุดท้ายแล้ว เราต่างแค่หาหลักฐานและข้อโต้แย้งมาสนับสนุนสิ่งที่เราเชื่อเท่านั้น
ถ้าเราเชื่อว่าที่ตรงนี้มีผีหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ถึงจะเกิดเหตุการณ์ธรรมดาขึ้น เราก็อาจจะคิดไปเองว่าเป็น ‘Poltergeist’ หรือถ้าเราเชื่อว่าเรื่องเหนือธรรมชาติไม่มีจริง เราก็จะพยายามหาหลักวิทยาศาสตร์มาบอกเล่าสิ่งที่เรายังไม่รู้หรืออธิบายไม่ได้เท่านั้นเอง
อ้างอิงจาก