หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน มีคำพิพากษาให้ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต คณะกรรมการ กสทช. มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2568) จากปมทรูไอดี ฟ้องร้องว่าทำให้เสียหายนั้น
ล่าสุด ศาลฯ ได้เผยแพร่รายละเอียดคำพิพากษาแล้ว ระบุว่า จากในที่ประชุมคณะอนุกรรมการการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ซึ่งมีพิรงรองเป็นประธานคณะอนุกรรมการ ได้ปรากฏรายละเอียด ดังนี้
- 16 กุมภาพันธ์ 2566 อนุกรรมการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องทรูอดี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะเห็นว่ามีผู้ให้บริการ OTT (Over-the-top : บริการเนื้อหาที่ส่งผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น วิดีโอสตรีมมิ่ง) รายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตจำนวนมาก การพิจารณา True ID เพียงรายเดียวอาจส่งผลเสียต่อการพิจารณาในอนาคต
- มีข้อมูลว่าทรูไอดีเป็นบริการ OTT ซึ่งกฎหมายกำกับดูแลยังไม่ชัดเจน สอดคล้องกับคำชี้แจงของสำนักงาน กสทช. ว่ายังไม่มีนิยามของ OTT ที่ชัดเจน
- 28 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ทำบันทึกและร่างหนังสือตามคำสั่งจำเลย โดยระบุชื่อ True ID อย่างเจาะจง เพื่อส่งไปยังผู้ได้รับอนุญาต 127 ราย แม้ว่าการประชุมวันที่ 16 ก.พ. จะยังไม่มีมติเรื่องนี้ ซึ่งได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า พิรงรองเป็นผู้สั่งการและเร่งรัดให้จัดทำ
- 2 มีนาคม 2566 จำเลยต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่ทำหนังสือโดยไม่ระบุชื่อทรูไอดี และในการประชุมครั้งที่ 4/2566 ไม่มีการลงมติให้ทำหนังสือแจ้งผู้ประกอบการ แต่ในรายงานการประชุมกลับระบุว่ามีมติรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 3/2566 และเห็นควรมีหนังสือแจ้งผู้ให้บริการ
- จำเลยพยายามโน้มน้าวและรวบรัดการพิจารณาในที่ประชุม และก่อนจบการประชุมได้พูดว่า “ต้องเตรียมตัวจะ จะล้มยักษ์” โดยยอมรับว่า “ยักษ์” หมายถึงโจทก์ ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาให้กิจการของโจทก์เสียหาย
- หลังจากมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการ 127 ราย หลายรายได้ชะลอหรือขยายเวลาทำสัญญากับโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
- ดังนั้น ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต้องโทษจำคุก 2 ปี
อย่างไรก็ดี หลังจากมีการพิจารณา ศาลฯ ได้อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว จึงจะต้องติดตามถึงความคืบหน้าของการสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อไป