หนึ่งในมูฟเมนต์ที่เรียกกระแสในสังคม และได้รับความสนใจไปทั่วโลกก็คือ ‘MeToo’ ที่โด่งดังขึ้นมาจากข่าวของ ‘ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน’ ที่มีดารา นักแสดง และคนทั่วไป ออกมาบอกเล่าประสบการณ์ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ล่าสุด ศาลสูงสุดได้ตัดสินให้ไวน์สตีน ต้องรับโทษจำคุกนานถึง 23 ปี จากการกระทำของเขา The MATTER จึงขอสรุปคดีดัง ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญของการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ มาให้ทุกคนชมกัน
1.) ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์มือทองแห่งวงการฮอลลีวูด วัย 67 ปี และสร้างผลงานภาพยนตร์โดดเด่นอย่างที่ใครหลายคนต้องเคยรับชมกันมาบ้าง อย่าง The King’s Speech, The Mist, Kill bill และ Shakespeare in Love และตัวเขายังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Miramax บริษัททำหนัง ร่วมกับพี่ชายของเขา เมื่อปี ค.ศ.1979
2.) พฤติกรรมของไวน์สตีนถูกเปิดโปงออกมา หลังจาก สำนักข่าว The New York Times เผยแพร่สกู๊ปข่าว เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ปี ค.ศ.2017 โดยระบุว่า ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ไวน์สตีนมีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงในวงการมาอย่างตลอด ซึ่งผู้ถูกกระทำโดนบีบบังคับให้ต้อง ‘เงียบ’ ด้วยการจ่ายเงินปิดปาก ไม่ก็ใช้ข้อกฎหมายมาข่มขู่
3.) ข่าวนี้ ยังระบุว่า เขาล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงอย่างน้อย 8 คน ทั้งนางแบบ นักแสดง รวมถึงผู้ช่วยงาน โดยในบรรดาผู้ที่ออกมาฟ้องร้อง มีสองนักแสดงหญิงอย่าง โรส แม็คโกแวน (Rose McGowan) และแอชลีย์ จัดด์ (Ashley Judd) ด้วย
4.) ด้าน จัดด์ เล่าว่า เธอเคยถูกไวน์สตีนชวนไปโรงแรม Peninsula Beverly Hills โดยตอนแรก เธอเข้าใจว่า เขาจะชวนไปรับประทานมื้อเช้าของโรงแรม และพูดคุยเรื่องงาน แต่เขากลับเชิญเธอขึ้นไปบนห้อง แล้วเมื่อจัดด์ขึ้นไป ก็พบไวน์สตีนในชุดคลุมอาบน้ำ โดยเขาถามเธอว่า เธอจะให้เขานวดให้ หรือไม่ก็ดูเขาอาบน้ำ
5.) หลังจากนั้น ก็มีอีกหลายคนออกมาเปิดเผยว่า ตนก็เป็นผู้ถูกกระทำในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ทั้ง กวินเนธ พัลโทรว์, แองเจลินา โจลี, คาร่า เดอลาวีญ และ ลีน่า เฮดี้ ซึ่งการออกมาเปิดโปงของเหล่าคนดัง ก็ทำให้เกิดแคมเปญ #MeToo ในโลกออนไลน์ เพื่อให้กำลังใจผู้หญิงทุกคนที่เป็นตกเหยื่อ และต้องการให้เห็นความสำคัญของปัญหานี้ในวงกว้าง ซึ่งก็มีผู้หญิงมากมายที่เข้าร่วมแชร์ประสบการณ์การคุกคามผ่านแฮชแท็กนี้
6.) ส่วนไวน์สตีน กล่าวถึงเรื่องในครั้งนี้ว่า เขาได้สร้างความเจ็บปวดไว้ให้กับผู้คนมากมาย แต่ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ระบุว่า ไวน์สตีนล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงหลายคนมานานกว่า 3 ทศวรรษ และเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ปี ค.ศ.2017 ก็มีประกาศออกมาว่า ไวน์สตีนถูกไล่ออกจากคณะกรรมการของบริษัทเขาแล้ว โดยมีผลทันที โดยให้เหตุผลว่า ‘เนื่องจากข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบ’
7.) นอกจากนี้ ลูกค้าอีกหลายรายก็ยกเลิกสัญญาที่เคยมีกับบริษัทอีกด้วย รวมไปถึง องค์กรที่จัดเวทีประกาศผลรางวัลให้ภาพยนตร์ระดับใหญ่ของโลก ลงมติขับไล่ไวน์สตีน เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ปี ค.ศ.2017
8.) ขณะที่นักแสดงอีกหลายคนเช่น เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, ไมเคิล คีตัน และเมอรีล สตรีพ ได้ออกมาประณามไวน์สตีนอย่างหนักหน่วง โดย จอร์จ คลูนีย์ และแมต เดมอน ให้สัมภาษณ์ว่า “นี่คือช่วงเวลาที่เราจะต้องเชื่อผู้หญิง”
9.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.2017 มีการเรียกร้องให้ดำเนินคดีทางแพ่งต่อไวน์สตีนในศาลสูงเป็นครั้งแรก โดยหญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในแวดวงภาพยนตร์ และไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน เธอกล่าวถึง การล่วงละเมิดทางเพศโดยไวน์สตีน ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงปลายทศวรรษ 1980, 1992, 2010, 2011 และ 2015 ซึ่งไวน์สตีน ก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้อยู่
10.) จากนั้น เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2018 อัยการรัฐนิวยอร์ก ประกาศว่า พวกเขาได้ยื่นฟ้อง บริษัท ไวน์สตีน เนื่องจากสตูดิโอนี้ล้มเหลวในการปกป้องพนักงานบริษัท จากการถูกล่วงละเมิด และการข่มเหง โดยทนายของไวน์สตีน กล่าวว่า พฤติกรรมของเขา ‘ไม่ใช่ว่าจะไม่ผิดเลย’ แต่ก็บอกว่าไวน์สตีน ‘ไม่มีความผิดทางอาญา’
11.) ไวน์สตีนถูกตั้งข้อกล่าวในคดีข่มขืน และอีกหลายข้อกล่าวหาในคดีล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงสองคน (ที่ออกมาฟ้อง) ในวันที่ 25 เมษายน ปี ค.ศ.2018 แต่ในวันที่ 26 พฤษภาคม ปีเดียวกันนั้น ไวน์สตีนก็ถูกปล่อยตัวด้วยวงเงินประกัน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 30 ล้านบาท) โดยเจ้าตัวยินยอมที่จะสวมเครื่องติดตามด้วย ก่อนจะนำไปสู่การพิจารณาคดี ซึ่งไวน์สตีนก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาต่างๆ ต่อศาลสูงสุดของนิวยอร์ก
12.) หลังจากนั้น ก็มีผู้หญิงอีกหลายคนออกมาฟ้องร้องให้มีการดำเนินคดีกับไวน์สตีน โดยที่เขาก็ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้นอยู่ดี
13.) เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ปี ค.ศ.2019 ไวน์สตีนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Post ว่า เขาดูแลภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้หญิงและเกี่ยวกับผู้หญิงมากกว่าผู้สร้างภาพยนตร์คนอื่นๆ ด้วยซ้ำ ทั้งยังบอกว่า ตัวเองเป็นผู้บุกเบิกในแวดวงนี้อีกด้วย ซึ่งผู้หญิงที่ถูกกล่าวหา ก็ออกมาโต้กลับว่า ไวน์สตีนกำลังพยายามจะกลับมามีบทบาทในสังคมนี้อีกครั้ง
14.) เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา กระบวนการพิจารณาคดีเริ่มขึ้นในนิวยอร์ก โดยไวน์สตีนเดินทางมายังศาลโดยใช้เครื่องช่วยเดิน โดย แม็คโกแวน และจัดด์ สองผู้กล่าวหาในคดีนี้ ก็มาร่วมประท้วงอยู่ด้านนอกของศาล
15.) จนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไวน์สตีนก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดในการก่ออาชญากรรมทางเพศ จากการที่เขาบังคับให้อดีตผู้ช่วยฝ่ายโปรดักชันโปรเจ็กต์ทำออรัลเซ็กซ์ในปี ค.ศ.2006 ไวน์สตีนต้องโทษจำคุกอย่างน้อย 5 ปี โทษสูงสุด 25 ปี ขณะเดียวกัน เขายังกระทำความผิดข้อหาข่มขืนระดับ 3 ต่อผู้หญิงคนหนึ่งในโรงแรมแห่งหนึ่งที่นิวยอร์กเมื่อปี ค.ศ.2013 ซึ่งมีโทษสูงสุด 4 ปี แต่กลับถูกตัดสินให้พ้นผิดใน 3 ข้อหา ซึ่งรวมถึงข้อหาประทุษร้ายทางเพศ ที่เป็นข้อหาที่ร้ายแรงที่สุด มีโทษจำคุกตลอดชีวิต
16.) หลังจากที่ศาลมีคำตัดสินออกมา ไวน์สตีนถูกควบคุมตัว พร้อมใส่กุญแจมือ และถูกนำตัวไปยังเรือนจำทันที เพื่อรอการกำหนดโทษในวันที 11 มีนาคม ปี ค.ศ.2020
17.) เมื่อวันกำหนดโทษมาถึง ไวน์สตีนก็เดินทางมาขึ้นศาล พร้อมกล่าวแสดงความรู้สึกสำนึกผิดในการกระทำของเขาต่อผู้หญิงเป็นครั้งแรก ทั้งยังบอกว่า เขารู้สึกสับสนอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อยุติการคุกคามและก่อกวนรังควานทางเพศมากขึ้น
18.) ทนายของไวน์สตีน เสนอให้ไวน์สตีนรับโทษแค่ 5 ปี เพราะมองว่า การรับโทษนี้ เท่ากับโทษจำคุกตลอดชีวิตของเขาแล้ว แต่ศาลตัดสินให้นายไวน์สตีนรับโทษสถานหนัก จากพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมทางเพศต่อผู้หญิงหลายคน ที่ต้องทนทุกข์ไปตลอดชีวิต และท่าทีไร้ความสำนึกผิดต่อการกระทำไม่เหมาะสมดังกล่าวของไวน์สตีน ทำให้ศาลสูงสุด ตัดสินให้ไวน์สตีนรับโทษจำคุก 23 ปี
นี่ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จ และก้าวที่สำคัญของการเคลื่อนไหวในประเด็นการคุกคามทางเพศ แต่ถึงแม้ไวน์สตีนจะถูกตัดสินโทษไปแล้ว การเคลื่อนไหวนี้ ก็ยังคงต้องขับเคลื่อนกันต่อไป เพราะการล่วงละเมิดทางเพศ ทั้งในและนอกวงการภาพยนตร์ ทั้งคนดัง และคนไร้ชื่อเสียง ยังคงมีอยู่ และเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขในสังคมนี้เสียที
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-41594672
https://www.nytimes.com/2020/03/11/nyregion/harvey-weinstein-sentencing.html
https://www.theguardian.com/film/2020/feb/24/harvey-weinstein-guilty-trial-charges-verdict
https://www.teenvogue.com/story/harvey-weinstein-accusers-full-list
https://www.facebook.com/1721313428084052/posts/1947496682132391/?d=n
#MeToo #recap #TheMATTER