อวกาศ ทะเลทราย และการเมือง … Dune คือนิยายไซ-ไฟคลาสสิกขึ้นหิ้งที่ทรงพลังและส่งอิทธิพลให้แวดวงไซ-ไฟมาเป็นเวลา 50 กว่าปี และนี่เป็นอีกครั้งที่เรื่องราวมหากาพย์จะเปลี่ยนจากตัวหนังสือบนหน้ากระดาษ มาเป็นหนังงานสร้างสุดยิ่งใหญ่เวอร์ชั่นคนแสดง
เพื่อเตรียมตัวก่อนไปดู Dune ที่จะเริ่มฉายวันแรก 21 ตุลาคม ค.ศ.2021 นี้ The MATTER ขอมาเล่าถึงเรื่องราวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยก่อนจะได้ไปดูจริง

ภาพจาก : IMDb
1. Dune คือหนังที่สร้างจากนิยายไซ-ไฟ (science fiction: sci-fi) ระดับตำนานในชื่อเดียวกันของผู้เขียน แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ.1965 ได้รับรางวัลนิยายยอดเยี่ยมทั้งจาก Hugo และ Nebula เรื่องราวของ Dune ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลถึงขนาดที่แวดวงคนอ่านนิยายไซ-ไฟยกให้เป็นงานเขียนคลาสสิกที่ชีวิตนี้ต้องอ่านให้ได้สักครั้ง และความเป็นมหากาพย์ของเนื้อเรื่องก็ถูกขนานนามว่าเป็น The Lord of the Rings เวอร์ชั่นอวกาศ

ภาพจาก : Amazon
2. เนื้อหาของ Dune อยู่ในยุคที่ไกลกว่าปัจจุบันเป็นเวลานับหมื่นปี เทคโนโลยีเดินทางในอวกาศได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนอาศัยอยู่ตามดวงดาวต่างๆ ในจักรวาล และทั้งหมดนั้นก็อยู่ภายใต้การปกครองแบบจักรวรรดิ เรื่องเริ่มต้นที่ พอล อะเทรดีส ต้องออกจากดาวคาลาดานบ้านเกิดด้วยเหตุผลที่จักรพรรดิพาดิชามีบัญชาให้พ่อของพอล ดยุคเลโท อะเทรดีส ไปปกครองอาร์ราคิส (ดูน) ดวงดาวทะเลทรายที่เต็มไปด้วยสไปซ์ (Spice) ทรัพยากรที่มีมูลค่าสุดในจักรวาล แต่การเดินทางครั้งนี้เป็นเหมือนกับดักที่ตระกูลฮาร์คอนเนน ศัตรูคู่อาฆาตของตระกูลอะเทรดีสวางเอาไว้
พอล อะเทรดีส ต้องผจญภัยและเอาตัวรอดท่ามกลางแผนร้าย การแย่งชิงอำนาจเพื่อครอบครองทรัพยากร และการเมืองระหว่างองค์กรใหญ่ ทั้งจากสภาแลนด์สราดที่เป็นกุญแจสำคัญสู่การปกครอง บริษัทโชมคอมพานีที่ควบคุมการค้า สมาพันธ์อวกาศที่ผูกขาดการเดินทางข้ามดวงดาว และสำนักเบนี เจสเซอริต ที่มีความสำคัญในทางศาสนา ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนไปจนถึงองค์ประกอบในเรื่องเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ Dune มีแฟนคลับอย่างเหนียวแน่นมาจนถึงทุกวันนี้

ภาพจาก : dunemoviethaihub
3. Dune มีอิทธิพลกับวงการไซ-ไฟมากโดยเฉพาะกับตำนานขึ้นหิ้งอย่าง Star Wars เพราะเรียกได้ว่า จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ได้รับแรงบันดาลใจจาก Dune มาเต็มๆ ที่เห็นได้ชัดๆ คือ ลุค สกายวอร์กเกอร์ ตัวเอกที่เหมือนถอดแบบมาจาก พอล อะเทรดีส หรือดาวทาทูอินบ้านเกิดลุค ดาวทะเลทรายที่คล้ายกับอาร์ราคิส (ดูน)

ภาพจาก : starwars.com
4. ถ้าบอกว่าฝากความหวังไว้ถูกคนก็คงจะไม่ผิด เพราะผู้กำกับ Dune คือ เดอนี วิลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานระดับคุณภาพอย่าง Sicario, Arrival, และ Blade Runner 2049 เอาไว้ นอกจากฝีมือการกำกับ เดอนียังเป็นแฟนคลับเดนตายของนิยายต้นฉบับอีกด้วย เดอนีให้สัมภาษณ์บ่อยครั้งว่างานกำกับคราวนี้เป็นเหมือนเรื่องส่วนตัวสำหรับเขา การได้กำกับ Dune คือความฝันที่เขาเคยฝัน และอยากจะทำมันให้ได้มาตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านนิยายในช่วงวัยรุ่น

ภาพจาก : ctvnews
5. กองทัพนักแสดงของ Dune นับว่ายิ่งกว่าทีมออลสตาร์ ขนมาทั้งรุ่นเล็กมากความสามารถและรุ่นใหญ่ระดับตำนาน เริ่มตั้งแต่ ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก Call Me by Your Name, เซนเดยา จาก Spider-Man, เจสัน โมโมอา จาก Aquaman, อดีตนักมวยปล้ำชื่อดัง เดฟ บอทิสตา, ไปจนถึงนักแสดงรุ่นใหญ่ สเตลแลน สการ์สการ์ด และนักแสดงระดับท็อปอีกหลายคนที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในมหากาพย์ครั้งนี้

ภาพจาก : 1news
6.เพิ่มความอลังการด้วยเสียงดนตรีประกอบจาก ฮานส์ ซิมเมอร์ นักทำดนตรีประกอบคู่บุญของ คริสโตเฟอร์ โนแลน การันตีผลงานจากทั้ง Inception และ Interstellar ฮานส์คือคนแรกๆ ที่เดอนีชวนมามีส่วนร่วมกับ Dune ฮานส์ที่ประทับใจนิยายต้นฉบับมาตั้งแต่วัยรุ่นอยู่แล้วก็ตอบรับแทบจะทันที ในส่วนของดนตรีประกอบก็นับว่าแปลกใหม่ ฮานส์ร่วมมือกับนักดนตรีคนอื่นสร้างเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ ด้วยเหตุผลที่ว่า Dune เล่าเรื่องในอนาคต และในอนาคตเครื่องดนตรีทั้งเครื่องสาย เครื่องกระทบ หรือเครื่องเป่าก็น่าจะพัฒนาไปมาก ฮานส์เลยคิดว่าจำเป็นต้องมีเครื่องดนตรีแบบใหม่

ภาพจาก : YouTube
7.การดัดแปลง Dune เป็นมีประวัติที่ไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ แถมยังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ด้วยความที่ตัวเรื่องมีฉากหลังเป็นสเกลใหญ่ระดับจักรวาลและเนื้อหาเองก็ซับซ้อน มีความพยายามดัดแปลงอยู่หลายครั้งก่อนหน้า เดอนี วิลเนิฟว์ จะมากำกับ แต่ก็มีทั้งอุปสรรคและความล้มเหลว
เริ่มแรกในปี ค.ศ.1971 อาเธอร์ พี. เจคอบส์ ผู้อำนวยการสร้างซีรีส์หนัง Planet of the Apes ได้ลิขสิทธ์ไป แต่สองปีหลังจากนั้นเขาก็มาด่วนจากไปก่อน ต่อมาลิขสิทธ์ตกเป็นของ อาเลฮันโดร โยโดโรวสกี ผู้กำกับชาวชิลี-ฝรั่งเศส ที่วางแผนว่าจะได้ศิลปินเซอร์เรียลตัวพ่ออย่าง ซัลวาดอร์ ดาลี มาร่วมแสดง พร้อมวงดนตรี Pink Floyd มาทำเพลงประกอบ คอนเซปต์เองอาร์ตก็ร่างไว้แล้ว แต่สุดท้ายโปรเจกต์นี้ก็ต้องพับเก็บเพราะหนังใช้ต้นทุนสูงเกินไป และอาจมีความยาวถึง 10–14 ชั่วโมง
ความพยายามยังไม่หมดแค่นั้น ในปี ค.ศ.1979 ริดรีย์ สก็อตต์ ได้รับการทาบทามให้กำกับ Dune แต่ริดรีย์ก็ต้องบอกปฏิเสธเพราะเขาได้เสียพี่ชายไปในช่วงเวลาเดียวกัน ก่อนจะหันไปกำกับ Blade Runner แทน

โปสเตอร์สารคดีว่าด้วย Dune เวอร์ชั่น อาเลฮันโดร โยโดโรวสกี, ภาพจาก : IMDb
8. กว่า Dune จะได้เป็นหนังจริงๆ จังๆ ก็ในปี ค.ศ.1984 โดยฝีมือกำกับของ เดวิด ลินช์ แต่ตัวหนังกลับขาดทุนและโดนวิจารณ์อย่างหนักจากหลายสาเหตุ ทั้งรายละเอียดของเรื่องที่ถูกยัดไว้ในหนังเรื่องเดียวจนคนดูสับสน องค์ประกอบในเรื่องที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือจากในนิยาย รวมถึงตอนจบที่แฟนๆ ดูจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ ผลตอบรับที่ออกมาทำให้ลินช์ถึงขั้นอยากถอดชื่อตัวเองออกเลยด้วยซ้ำ
เราคงต้องดูกันว่า Dune ในเวอร์ชั่นปี ค.ศ.2021จะประสบความสำเร็จแค่ไหน

Dune (1984) กำกับโดย เดวิด ลินช์, ภาพจาก : IMDb
9. นอกจากมหากาพย์เนื้อหา ยังมีมหากาพย์การเลื่อน เมื่อคนเข้าโรงหนังไม่ได้ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างการระบาดของ COVID-19 ทำให้ Dune ต้องเลื่อนวันฉายเป็นเวลากว่า 10 เดือน จากวันฉายแรกที่ตั้งใจไว้คือ 18 ธันวาคม ค.ศ.2020 เป็น 1 ตุลาคม ค.ศ.2021 ก่อนจะเลื่อนฉายอีกครั้งมาเป็นวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ.2021
10. แม้โลกจะมีเทคโนโลยี green screen แต่เดอนีตัดสินใจที่จะใช้ CGI ให้น้อยที่สุด เดอนีอยากให้ทุกอย่างดูสมจริงสำหรับทั้งคนดู นักแสดง และเขาเองด้วย เดอนีบอกว่าการถ่ายทำด้วยสถานที่และองค์ประกอบจริงๆ จะช่วยให้นักแสดงได้สัมผัสบรรยากาศคล้ายกันกับใน Dune เพื่อให้การแสดงนั้นสมจริงมากขึ้น ซึ่ง ทิโมธี ชาลาเมต์ ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาเองเข้าฉาก green screen แค่สามฉาก ดังนั้น งานนี้ฉากในห้องหรืออาคารทีมงานล้วนสร้างกันขึ้นมาใหม่ บุกไปถ่ายในทะเลทรายจริงๆ ที่จอร์แดนและซาอุดิอาระเบีย แน่นอนว่าร้อนในระดับ 37–45 องศาเซลเซียส การันตีความอินกับบทของนักแสดง

ภาพจาก : Collider
11. สถานที่ไปแล้ว งานเอฟเฟกต์ก็ไม่น้อยหน้า ตัวยานที่เราจะได้เห็นในเรื่องทางทีมงานก็สร้างขึ้นมาจริงๆ เป็นยานที่นักแสดงสามารถเข้าไปนั่งและหมุนคันบังคับได้ ฉากที่ทะเลทรายต้องสั่นไหว ทีมงานก็ฝังพื้นขนาด 400 ตร.ม. ไว้ใต้ทรายให้เกิดแรงสั่นสะเทือนจนเท้าของนักแสดงจมลงไปได้

ภาพจาก : dunemoviethaihub
12. ที่ไม่แน่ใจว่าโชคดีไหม คือ สเตลแลน สการ์สการ์ด นักแสดงรุ่นใหญ่ที่ต้องรับบท บารอน วลาดิเมียร์ ฮาร์คอนเนน ผู้นำตระกูลฮาร์คอนเนนแสนเจ้าเล่ห์ที่มีร่างกายอ้วนท้วน การรับบทบารอนทำให้สเตลแลนต้องให้ทีมเอฟเฟกต์แต่งตัวให้เขานานครั้งละกว่าแปดชั่วโมง และ 80 ชั่วโมงคือเวลาทั้งหมดที่สเตลแลนนั่งเมื่อยอยู่บนเก้าอี้ระหว่างที่กำลังเปลี่ยนโฉม

ภาพจาก : dunemoviethaihub
13. ในเนื้อเรื่องของ Dune ความพิเศษข้อหนึ่ง คือ ตัวละครจะใส่ชุด ‘สติลสูท’ ชุดที่ออกแบบมาเพื่อเดินทางในทะเลทรายโดยเฉพาะ ตัวชุดสามารถหมุนเวียนน้ำที่ร่างกายผู้ใส่สูญเสียไปให้นำกลับมาบริโภคใหม่ได้ ดังนั้น เสื้อผ้าจึงเป็นอีกองค์ประกอบสำคัญ ซึ่งทีมเสื้อผ้าก็รับงานหนักออกแบบเครื่องแต่งกายกว่า 1,000 แบบ เพื่อที่จะได้ชุดที่เข้ากับเรื่อง และเป็นชุดที่นักแสดงใส่สบายในทะเลทรายที่ร้อนระอุด้วย

ภาพจาก : dunemoviethaihub
14. Dune ในเวอร์ชั่น ค.ศ.2021 ของ เดอนี วิลเนิฟว์ เป็นเนื้อหาแค่ครึ่งหนึ่งจากความยาวกว่า 700–800 หน้าของนิยายเล่มแรก ไอเดียหั่นครึ่งนี้ดูจะน่ากลัวก็จริง แต่นี่ก็เป็นไอเดียที่ ริดรีย์ สก็อตต์ เคยเสนอไว้ เดอนีเองเห็นด้วยว่าเขาไม่อยากอัดเนื้อหาทั้งหมดลงไปในหนังเรื่องเดียว แม้จะแบ่งเป็นสองภาคแต่เดอนีก็ยืนยันว่า Dune ค.ศ.2021 เป็นหนังที่ดูเดี่ยวๆ ได้โดยไม่เสียอรรถรส

ภาพจาก : dunemoviethaihub
15. ถึงจะไม่จำเป็นต้องดูภาคต่อ แต่เดอนีก็แง้มมาแล้วว่าตั้งใจจะทำเป็นหนังไตรภาค โดยวางไว้ว่าเนื้อหาจะไปถึงใน Dune Messiah นิยายเล่มที่สองในซีรีส์นิยายต้นฉบับ และถ้าอยากทำให้ยิ่งใหญ่กว่านั้น นิยาย Dune ที่ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต เขียนไว้มีอยู่ทั้งหมด 6 เล่ม พร้อมสร้างเป็นหนังภาคต่อได้แบบยาวๆ

ภาพจาก : The Verge
ถ้าพร้อมแล้ว ถึงเวลาที่เราจะมุ่งหน้าสู่โลกไซ-ไฟและทะเลทรายของ Dune
อ้างอิงข้อมูลจาก