จังหวะชีวิตของเรา ทำให้เราได้เป็นใครคนหนึ่ง อยู่กับใครสักคนหนึ่ง ในสถานที่และช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อจังหวะชีวิตขยับไปตามเข็มนาฬิกา ทำให้เรา อาจต้องเลิกเป็นใคนคนนั้นที่เคยเป็น ต้องเดินนำหน้าหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยใครสักคน ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความทรงจำ ที่เราอาจจะจำได้ทุกครั้งที่ผ่าน หรือหลงลืมมันไปทุกครั้งที่ลืมตาตื่น
กลับมาสัมผัสช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไป ในนิทรรศการ A little letter from someone somewhere โดย SUNTUR ซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 24 พฤศจิกายน 2563 ได้ที่ JWD Art Space ชั้น 3 จุฬาลงกรณ์ ซ.16 ที่เราแนะนำให้พกหูฟังคู่ใจมาด้วย
ที่ต้องหยิบหูฟังมาด้วยน่ะหรอ เพราะว่านิทรรศการนี้ เป็นภาพวาดที่ถ่ายทอดบางช่วงเวลา กับบางคน ในสักที่หนึ่ง หลากหลายเรื่องราว หลากหลายเฉดของอารมณ์ ประกอบกับเสียงดนตรีที่ต้องฟังประกอบกับภาพนั้น โดยสร้างสรรค์ผลงานเพลงจากศิลปินมากหน้าหลายตาที่เราคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็น Polycat,The Darkest Romance , Zweedn’Roll, Stoondio, เขียนไขและวานิช และศิลปินอื่นๆ อีกจำนวนมาก
และในงานนี้ ยังมีลูกเล่นอีกเล็กน้อยที่ให้เราได้มีส่วนร่วมกับงาน ไม่ใช่แค่เสพผลงานผ่านทางสายตาเท่านั้น มาดูกันว่า ในงานนี้เราจะได้สัมผัสและสนุกไปกับลูกเล่นอะไรที่ศิลปินตั้งใจใส่มาให้ทุกคน
เราไปสัมผัสภาพแทนความทรงจำ
เรารู้จักคุณซันเต๋อเมื่อตอนที่โหลดสติกเกอร์ไลน์ ลายเส้นสะดุดตา มาจนถึงตอนนี้ ที่ได้มายืนชมภาพในนิทรรศการล่าสุดของเขา ที่รวบรวมเอาผลงานมาตั้งแต่สองปีก่อนมาจัดแสดง ลายเส้นและความรู้สึกเติบโตไปตามเวลา
ภาพวาดทั้งหมดนี้มีลายเส้นที่เก่งกาจขึ้น แต่ยังคงความเป็นซันเต๋อได้เช่นเคย แต่ละภาพเป็นตัวแทนของเรื่องราวสุขใจ ไม่สมหวัง หวนคิดถึงวันที่ผ่าน และโหยหาสิ่งที่ไม่อาจหวนคืนมา เป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเป็นพิเศษ ยังคงเป็นความขม ความหวาน ที่เคยเกิดขึ้นกับใครสักคน (และเราเอง) อยู่เสมอ
จังหวะชีวิตของเรา ทำให้เราได้เป็นใครคนหนึ่ง อยู่กับใครสักคนหนึ่ง ในสถานที่และช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อจังหวะชีวิตขยับไปตามเข็มนาฬิกา ทำให้เรา อาจต้องเลิกเป็นใคนคนนั้นที่เคยเป็น ต้องเดินนำหน้าหรือถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยใครสักคน ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความทรงจำ ที่เราอาจจะจำได้ทุกครั้งที่ผ่าน หรือหลงลืมมันไปทุกครั้งที่ลืมตาตื่น
กลับมาแตะความทรงจำเหล่านั้นอีกครั้ง ด้วยสายตาผ่านภาพวาดในงานนี้กัน
เราไปฟังเสียงของภาพนั้น ผ่าน QR Code
แปลกใจเล็กน้อย เมื่อป้ายแสดงผลงานข้างเคียงไม่ได้หน้าตาเหมือนอย่างที่คุ้นเคย กลับมี QR Code และชื่อของศิลปิน ที่เราพอจะคุ้นว่าเป็นชื่อของนักดนตรีกับชื่อผลงาน แต่เมื่อสแกนแล้ว ทุกอย่างบนหน้าจอเป็นคำตอบของทุกอย่างเมื่อสักครู่
โค้ดนั้นพาเราไปยังคลิปเสียงประกอบภาพที่อยู่ตรงหน้า เช่น SUNTUR x The Darkest Romance – Are You Proud Of Me? หรือ Zweed n Roll x Suntur – อย่าไป (Still) ทำให้การเสพผลงานของเรา ต้องใช้ทั้งสายตาดื่มด่ำกับภาพตรงหน้า และฟังเสียงดนตรีที่ทำมาเฉพาะภาพนั้น
โดยมีศิลปินที่เข้าร่วม collaboration มากมาย ตั้งแต่ พงษ์สิทธิ์ คําภีร์, ป๊อด-ธนชัย, แสตมป์-อภิวัชร์, สิงโต นําโชค, อิ้งค์-วรันธร, ลุลา, สมเกียรติ, อะตอม-ชนกันต์, Polycat, Funky WahWah,The Darkest Romance, Mints, Zweedn’Roll, Gongkan& Brother, นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์, Another Day Another Render, Mon Monik, Nap a Lean, Safeplanet, Wanyai, Boss Kuno, Stoondio, The 10thSatueday, Q Flure, Salaporr และสุดท้าย เขียนไขและวานิช
หยิบหูฟัง สแกน QR Code และจดจ่ออยู่กับสองศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเบื้องหน้าเรา
เราเขียนจดหมายถึงตัวเอง ในวันที่อาจทำตัวเองหล่นหายไปแล้ว

อีกสิบปีข้างหน้า คิดไว้บ้างไหมว่าตัวเราจะเป็นยังไง? จะยังสนุกกับงาน เริ่มสร้างครอบครัว ออกไปเที่ยวกับเพื่อน หรือยังคงเตร็ดเตร่กับความเหงาเหมือนวันวาน
ในงานนี้ ชวนเรามาเขียนจดหมายถึงตัวเองในสิบปีข้างหน้า โดยมีซองจดหมาย กระดาษ และแสตมป์ ราคา 5 บาท ให้เราหยอดเงินแล้วหยิบไปเขียนได้ตามความต้องการ หรืออยากจะซื้อโปสการ์ดผลงานของซันเต๋อก็มีให้เลือกอีกนับสิบลาย
เราในวันนี้ ได้พูดคุยกับตัวเองในวันข้างหน้า อาจจะเหมือนเราในวันนี้ ที่ได้ดูภาพวาดแล้วสะกิดเอาความทรงจำที่เคยหลงลืม ที่ถูกเก็บไว้อย่างดี หรือที่ถูกทิ้งขว้างไปอย่างเจ็บช้ำ แล้วได้มองกลับไปในวันก่อนวันเก่า ในสักสถานที่ที่เราเป็นใครสักคน กับใครสักคน โดยที่ไม่รู้ว่าทั้งเขาและเราจะเป็นเหมือนในวันนั้นอยู่หรือไม่
เราได้พาผลงานที่ถูกใจในหลากหลายรูปแบบกลับบ้านไปด้วย
หากชอบผลงานชิ้นไหนเป็นพิเศษ สามารถซื้อภาพพิมพ์พร้อมลายเซ็นซันเต๋อทุกแผ่น ติดมือกลับบ้านไปด้วย หรือจะเป็นในรูปแบบอื่น เช่น กระเป๋าผ้า โปสการ์ด เข็มกลัด ที่อาจชวนให้เราต้องลังเลใจในการเลือก
แต่ที่ประทับใจที่สุด คงเป็นการร่วมกันสร้างสรรค์สินค้ากับ Everyday Karmakamet ที่มีเทียนหอมและสเปรย์ปรับอากาศภายในห้อง ที่มีกลิ่นเฉพาะของภาพนั้น โดยกลิ่นจะอ้างอิงกับความหมายและอารมณ์ของภาพด้วย นี่ถือว่าตาดู หูฟัง จมูกก็ยังดมกลิ่นของผลงานได้ด้วย
และยังมีสินค้าร่วมกับแบรนด์อื่นๆ อีก เช่น Madmatter และ Arty&Fern Eyewear ให้เราได้เลือกช็อปตามความต้องการ
เหมือนได้ซื้อความประทับใจกลับบ้านไปด้วยเลยล่ะ