(คำเตือน : บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วน)
เราเข้าใจดีว่า คนที่มีฐานะดีและมีธุรกิจในมือ มักจะถูกมองจากคนรอบข้างอย่างชื่นชมและใคร่รู้ว่าพวกเขาจะทำตัวอย่างไร ไม่เว้นแม้แต่ตัวละครในโลกอนิเมะที่หลายตัวนั้นร่ำรวยนเราอยากจะเป็นเพื่อนด้วย หรืออย่างน้อยที่สุดก็อยากจะเขียนจดหมายไปขอคำปรึกษาว่า ทำตัวอย่างไร หรือใช้เงินแบบไหนถึงได้ฐานะดีแบบนั้น
ครั้งนี้เราก็เลยอยากจะหยิบยก 20 ตัวละครที่เป็นทายาทธุรกิจใหญ่มีฐานะร่ำรวยจากอนิเมะหลายเรื่อง และเราจะขอโฟกัสมาพูดถึงตัวละครที่ล่ำซำและมีการงานแบบที่พอจะเห็นภาพได้ง่ายๆ เพราะหากเราหยิบยกเอาตัวละครจากอนิเมะแนวแฟนตาซี จะมีตัวละครหลายต่อหลายตัวที่ร่ำรวยระดับหาคำนิยามยาก ยกตัวอย่างเช่น กิลกาเมช จากอนิเมะชุด Fate/Stay Night ที่มีคำนิยามบรรยายตัวละครว่า ‘มีสมบัติทุกอย่างบนโลกอยุ่ในคลัง’ หรือโอคุนินุชิ จากอนิเมะเรื่อง Kamisama Hajimemashita ซึ่งเป็นเทพแห่งความร่ำรวยซึ่งดูรวยตลอดเวลา ก็จะโดนละไว้ ณ ที่นี้
เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าเรามีใครที่น่าะส่งจดหมายไปขอคำปรึกษาด้านความร่ำรวยบ้าง
Honekawa Suneo – Doraemon
ว่ากันตามตรง หากเทียบกับคนอื่นๆ ที่ปรากฏตัวในการรวมรายชื่อนี้ ซูเนโอะ อาจจะเป็นทายาทธุรกิจที่ไม่ร่ำรวยระดับท็อปๆ แม้ว่าพ่อกับลุงของเขา อาจจะมีบริษัทอยู่ในอเมริกาด้วยก็ตาม
กระนั้น มีเรื่องหนึ่งที่ซูเนโอะทำได้ดีเป็นอย่างยิ่งจนทำให้เรารู้สึกว่าเขาควรจะมีชื่อ ณ ที่นี้ก็คือ การปล่อยออร่าความมีสตางค์ (หรือที่เรียกแบบบ้านๆ ว่า อวดรวย) ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการไปซื้อของเล่นรุ่นใหม่ หรือรุ่นลิมิเต็ดมาได้ตั้งแต่วันแรกโดยตลอด ออกไปเที่ยวต่างประเทศเป็นประจำ หรือมีรถใหญ่คันหรูที่บ้าน ทั้งหมดนี้ก็จะมาพร้อมกับคำพูดชวนจดจำว่า พร้อมให้ได้ทุกคนยกเว้น โนบิตะ…จนเรารู้สึกได้ว่า การมีสตางค์นี่มันช่างดีจริงๆ
Kanbe Daisuke – Fugou Keiji Balance: Unlimited
จากนิยายที่วางขายในปี ค.ศ.1978 เคยถูกสร้างเป็นซีรีส์คนแสดง ก่อนจะปรับมาเป็นอนิเมะที่ออกฉายในปี ค.ศ.2020 เล่าเรื่องของ คันเบะ ไดสุเกะ ทายาทโคตรอภิมหาเศรษฐี ที่ผันตัวมาทำงานเป็นตำรวจสืบสวน แม้ว่าในท้องเรื่องอาจจะยังแสดงไม่ชัดเจนนักว่ามีธุรกิจอะไรในมือบ้าง แต่ก็มีการโชว์การใช้เงินแบบให้เห็นจะแจ้งแทบจะทุกขณะ
ตั้งแต่การสูบซิการ์สไตล์ ‘Clear Havana’ จากคิวบา สนนราคาแท่งละประมาณ 750-1,500 บาท มีเครื่องบินส่วนตัวพร้อมชื่อตัวเองแปะอยู่ตัวเป้งๆ หรือการที่อยู่ๆ ก็ขอซื้อรถ Shelby Cobra (คาดว่าเป็น Shelby Cobra 427 Roadster) จากขบวนโชว์รถคลาสสิกเพื่อไล่ตามคนร้าย ด้วยสนนราคา 1000,000,000 เยน หรือราว 300,000,000 บาท พร้อมกับประโยคยืนยันจากพ่อบ้านที่เป็น A.I. หลังโอนเงินค่ารถไปแล้วว่ายอดเงินคงเหลือไม่มีขีดจำกัดที่ตรงกับชื่อเรื่อง Balance: Unlimited แบบเป๊ะๆ
Kaiba Seto – Yu-Gi-Oh!
ไคบะ เซโตะ ตัวละครคู่ปรับพระเอกจากเรื่อง Yu-Gi-Oh! เกมกลคนอัจฉริยะ ที่อาจจะโชว์ความรวยแบบแปลกๆ ด้วยการถือกระเป๋าใส่การ์ดราคาแพงมากติดตัวไปทั้งวัน แต่ต้องไม่ลืมว่า ไคบะ เซโตะ ถือว่าเป็นผู้บริหารของ Kaiba Corporation โดยตรง ตัวบริษัทระบุว่าเป็นบริษัทที่พัฒนาสื่อบันเทิง และเกมแบบต่างๆ โดยเฉพาะการ์ดเกม
บริษัทของไคบะอาจจะหาเทียบเคียงกับโลกจริงยาก ใกล้เคียงที่สุดคงเป็นการอิงจากบริษัท Hasbro ที่มีบริษัทการ์ดอย่าง Wizards Of The Coast ที่ถือว่าเป็นบริษัทลูก และทำรายได้สุทธิในปี ค.ศ.2018 อยู่ที่ 220,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามบริษัทของไคบะน่าจะรวยกว่า Hasbro มากเพราะถึงขั้นพัฒนาเทคโนโลยีสุดไฮเทค (อย่างเช่น เทคโนโลยีโฮโลแกรมที่จับต้องได้ และไทม์แมนชชีน ?!) แถมตามท้องเรื่อง บริษัทก็ยืนยงไปจนถึงยุคอนาคตเลยทีเดียว
Daidouji Tomoyo – Cardcaptor Sakura
เพื่อนสนิทของซากุระ ที่คอยตัดเสื้อผ้ากับถ่ายกิจกรรมยามจับการ์ดที่ออกอาละวาดคนนี้ มีความรวยอยู่ไม่เบาเพราะตามท้องเรื่องแล้ว โทโมโยะ เป็นทายาทของบริษัทของเล่นขนาดยักษ์ ที่เปล่งประกายความรวยตั้งแต่การที่เธอมักจะปรากฏตัวพร้อมกับรถสีดำคันยาวและบอดี้การ์ดหญิงราว 4-5 คนอยู่เป็นประจำ
มิหนำซ้ำเธอมักจะได้ ‘ของเล่นใหม่’ ที่เป็นอุปกรณ์ไฮเทคจากบริษัทมาแจกจ่ายเพื่อนเป็นระยะๆ ซึ่งถ้าหากเทียบเคียงกับโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว บริษัทของตระกูลไดโดจิ น่าจะใกล้เคียงกับ Bandai Namco Holdings ในโลกจริงที่มีรายได้สุทธิเมื่อปี ค.ศ.2017 อยู่ราวได้สุทธิอยู่ราว 54,109,000,000 เยน หรือประมาณ 16,324,000,000 บาท นั่นเอง
Suzuki Sonoko – Meitantei Conan
หนึ่งตัวละครที่สัมผัสได้ว่ารวยมาแต่ไหนแต่ไรอย่าง ซึซึกิ โซโนโกะ จากเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัน มักจะมาพร้อมกับข่าวเด็ดกับดีลดีๆ ที่เธอได้มาจากการที่เป็นทายาทของซึซึกิกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจการเงินที่มีอายุกว่า 60 ปี และกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่ผลักดันประเทศญี่ปุ่น (ในการ์ตูน) ให้เดินหน้าต่อไป และทำให้ตระกูลซึซึกิมีทรัพย์สินหลายอย่าง ทั้งอสังหาริมทรัพย์หลายต่อหลายแห่ง อัญมณีเลอค่าจำนวนมากที่ ซึซึกิ จิโรคิจิ มักจะใช้ล่อจอมโจรคิดให้มาขโมย และอิทธิพลของซึซึกิกรุ๊ปยังขจรไกลไปถึงประเทศอื่นๆ ด้วย
กระนั้นก็การจะเทียบเคียงรายได้ของซึซึกิกรุ๊ปนั่นอาจจะยากไปสักหน่อย เพราะรายละเอียดการทำธุรกิจน้อยไปนิด แต่ถ้าอ้างอิงจากการที่โซโนโกะใช้ชีวิตติดหรูแบบเบาๆ ระดับหนึ่งและการลากเพื่อนอย่างรัน (และโคนัน) แถมหลายครั้งเธอก็เหมือนจะช่วยเปย์ค่าใช้จ่ายให้สองคนนี้ด้วย ก็เป็นคนน่ารักที่อาจจะพูดจาโผงผางไปหน่อยละนะ
Ootori Kyoya – Ouran Koukou Host Club
ชมรมรัก คลับมหาสนุก อาจจะออกมาเป็นแนวประชดประชันสังคมคนรวยที่มีเงินล้นฟ้าจนไม่เข้าใจสังคมปกติเท่าใดนัก และแทบจะทุกคนก็รวยจนน่าจะเทียบได้ยากว่าใครร่ำรวยกว่าใคร และหลายคนก็น่าจะมองว่าคนที่ร่ำรวยสุดๆ คงเป็นประธานชมรมโฮสต์คลับที่เป็นทายาทของตระกูลสุโอที่ควบคุมกิจการหลากแนว ซึ่งรวมถึงการบริหารโรงเรียนมัธยมปลายโอรันอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเรากลับคิดว่าคนที่น่าจะร่ำรวยมากที่สุดอย่างแท้จริง น่าจะเป็น โอโทริ เคียวยะ รองประธานชมรมโฮสต์คลับเสียมากกว่า เพราะแม้ว่าเจ้าตัวอาจจะเป็นทายาทของบริษัทด้านการแพทย์ แต่ถ้าดูจากการทำงานเป็นเลขาของโฮสต์คลับแล้วรับรู้ข้อมูลของบริษัทต่างๆ และในฉบับอนิเมะ เขาสามารถแทรกแซงการเข้าซื้อบริษัทของพ่อได้แบบง่ายดายแม้ว่าจะมีคู่แข่งเป็นบริษัทระดับนานาชาติก็ตามที ดังนั้นตามท้องเรื่องแล้ว เคียวยะ ก็น่าจะชักใยการควบคุมบริษัทของตระกูลสุโอที่น่าจะมีมูลค่าระดับหลายหมื่นล้านเยนได้แบบไม่ยากเย็นนัก สมแล้วที่เป็นประธานเงาของชมรมโฮสต์คลับมาโดยตลอดนั่นเอง
Bulma – Dragon Ball
บลูม่า เป็นทายาทโดยตรงของ ดร. บรีฟ ที่จะได้รับสืบทอดกิจกรรมต่อของแคปซูลคอร์เปอเรชั่น ที่โด่งดังในดาวโลกของ Dragon Ball ด้วยการพัฒนา ‘แคปซูล’ ที่สามารถบีบอัดวัตถุหลายแบบให้เล็กจนพกพาได้ ทั้งยังใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่มแคปซูลแล้วปาไปยังที่ที่ต้องการ และดูเหมือนว่าการบีบอัดนั้นแทบจะไม่มีขอบเขต เพราะในเรื่องมีแคปซูลบรรจุบ้าน มอเตอร์ไซค์ เครื่องบินส่วนตัว รถถัง หม้อหุงข้าว ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้ตามท้องเรื่องบ้านของบลูม่าก็เลยเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในฐานะบริษัทที่ใหญ่และร่ำรวยที่สุดในดาวโลกของ Dragon Ball และนี่ยังไม่รวมว่าบริษัทยังมีเทคโนโลยีมากพอจะถอด-ประกอบ-ซ่อมแซมแอนดรอยด์หมายเลข 16 ได้อีกด้วย ถึงจะวัดมูลค่าเป็นเงินในโลกจริงไม่ได้แต่ตอนนี้ทุกท่านก็น่าจะทราบแล้วว่า เบจิต้า ใช้ชีวิตฝึกฝนร่างกายตัวเองโดยไม่แกลบไปก่อนได้อย่างไร
Kotobuki Tsumugi – K-On!
การ์ตูนที่เล่าเรื่องของวัยรุ่นสี่คนสุดแบ๊วที่มาฟอร์มวงดนตรีแนวป๊อปร็อค ซึ่งจริงๆ มีคนดูหลายคนจับประเด็นไปแล้วว่า ตัวละครหลักทุกตัวก็ถือว่าเป็นลูกคุณหนูมีสตางค์พอสมควรนั่นล่ะ แต่ในหมู่มวลสาวแป๋วแหววกลุ่มนี้ก็มี สึมุกิ โคโตบุกิ ที่มีการรบุว่าเป็นลูกสาวของประธานบริษัทใหญ่เจ้าหนึ่ง ที่ไม่ระบุกิจการชัดเจน แต่ที่เห็นในท้องเรื่องก็มีระบุว่า บ้านของเธอเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดนตรี และที่บ้านมีคฤหาสน์สำหรับพักผ่อนอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ รวมถึงบ้านพักในประเทศฟินแลนด์อีกด้วย
กระนั้นคุณหนูท่านนี้ก็พยายามทำตัวติดดิน และเปล่งประกายความรวยเบาๆ ด้วยการเสิร์ฟเซ็ตน้ำชาพร้อมของหวานสไตล์ AfternoonTea (ราคาเฉลี่ยเซ็ทละ 1,000 – 3,000 บาท) ให้เพื่อนร่วมวงแทบทุกวันที่มีกิจกรรมชมรม และพกพาคีย์บอร์ด Korg Triton Extreme ขนาด 16.5 กิโลกรัม และมีราคาขายในตลาด 35,000 – 50,000 บาท แต่สินค้าเลิกผลิตมานานแล้วนะ
Domyoji Tsukasa – Hana Yori Dango
โดเมียวจิ สึคาสะ หรือหลายคนอาจจะจำชื่อ ‘เต้าหมิงซื่อ’ หนึ่งในสมาชิก F4 ของโรงเรียนเอโทคุ ที่ตามท้องเรื่องการ์ตูน สาวแกร่งแรงเกินร้อย ก็บอกว่าเป็นกลุ่มหนุ่มหล่อที่มาจากตระกูลร่ำรวย และตัวโดเมียวจิ สึคาสะ ก็โชว์ความรวยให้เห็นเป็นเนืองๆ ด้วยการมีเรือยอร์ชส่วนตัวหลายลำ บ้านพักตากอากาศหลายหลัง และคฤหาสน์ใหญ่โต ซึ่งมีหลังหนึ่งอยู่ในกรุงนิวยอร์ก
กระนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงงานจริงๆ ของตระกูลโดเมียวจิกลับมีการพูดถึงชัดแจ้งแค่ในส่วนของโรงแรมที่แม่คาเอเดะดูแลอยู่เป็นหลัก ถ้าหากเทียบเคียงกับกลุ่มบริษัทโรงแรมในโลกจริงที่มีฐานทำการหลักในประเทศญี่ปุ่นแล้วก็คงจะใกล้เคียงกับบริษัท Hotel Okura ที่สุด ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีรายได้สุทธิในช่วงเดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2019 อยู่ที่ 2,221,000,000 เยน หรือราว 670,420,000 บาท น่าเสียดายที่เรื่องการทำงานใน สาวแกร่งแรงเกินร้อย เพราะปัจจัยต่างๆ ในเรื่องบ่งบอกว่าจริงๆ แล้วบ้านโดเมียวจิน่าจะมีเงินมากพอให้ปรึกษาธุรกิจกับใครอีกหลายคนได้อย่างแน่นอน
Inada Tamako – Silver Spoon
เราจะวนเวียนไปสู่ธุรกิจด้านกสิกรรมและปศุสัตว์กันบ้าง กับ อินาดะ ทามาโกะ จากเรื่องซิลเวอร์สปูน ทายาทของกิก้าฟาร์ม ผู้มีนิสัยตรงไปตรงมา และชื่นชอบเงินตราแบบชัดแจ้ง เพราะเธอเห็นว่าฟาร์มของเธอยังมีลู่ทางในการปรับปรุงผลผลิตให้งอกเงยยิ่งๆ ขึ้น แม้ว่าฟาร์มของเธอ ที่จะระบุว่า มีวัวนมในครอบครองกว่า 800 ตัว, โรงวัว 4 โรง และโรงรีดนมแบบหมุนวน (Rotary Parlour) ยังไม่รวมถึงตัวกิกะฟาร์มใช้ระบบการบริหารฟาร์มแบบ การร่วมทุนเกษตรแปลงใหญ่ (Mega Farm Joint Venture) ด้วย
ซึ่งต้นทุนอาจจะมีการแปรผันตามเวลา แต่เราลองคำนวณต้นทุนแล้วว่า นับเฉพาะส่วนฟาร์มวัวนมนั้น กิกะฟาร์ม ใช้ต้นทุนกับวัว ราว 11,200,000 บาท ค่าอาหารเฉลี่ยของวัวในช่วง 10 ปีอยู่ที่ประมาณ 1,300,000 บาท,โรงรีดนมจำนวน 40 ตัว ราคาประมาณ 16,000,000 บาท ยังไม่รวมค่าที่ดิน (ถ้าไม่มี) กับ ค่าสร้างโรงวัว นั่นหมายความว่าโดยพื้นเพแล้ว อินาดะ ทามาโกะ ถือเป็นทายาทบ้านที่มีสินทรัพย์รวมในราคาที่สูงระดับหนึ่ง และน่าคิดว่าถ้าเธอพัฒนาการสร้างกำไรให้ดียิ่งขึ้นกิกะฟาร์มจะกลายสภาพเป็นอย่างไรกันแน่
Joseph Joestar – Jojo’s Bizarre Adventure
พระเอก และ ตัวละครสมทบของการ์ตูนสุดยาวอย่าง โจโจ้ล่าข้ามศตวรรษ ความจริงแค่เปิดตัวมาในฐานะหลานของขุนนางในประเทศอังกฤษก็ดูมีสตางค์อยู่แล้ว แต่พอช่วงรอยต่อระหว่างภาค 2-3 เจ้าตัวก็เปล่งประกายความร่ำรวยของตัวเองออกมาอย่างเฉิดฉาย ด้วยการระบุว่าเจ้าตัวกลายเป็นราชาที่ดินแห่งนิวยอร์กและเป็นเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์โจสตาร์ไปแล้ว
แม้ว่าจะไม่ระบุชัดถึงจำนวนเงินชัดเจน แต่หากดูจากสถิติว่า ราคาที่อยู่อาศัยในนิวยอร์กจากช่วงปี ค.ศ.1988 นั้นมีการหดตัวไปบ้างในช่วงปี ค.ศ.1989-1996 ก่อนจะพลิกกลับมามูลค่าสูงขึ้นราว 124% ในช่วงปี ค.ศ.1996-2006 ก่อนจะแผ่วตัวเล็กน้อยในช่วงปี ค.ศ.2007-2014 ก่อนราคาจะดีดตัวขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 และถ้าหากคำนวณเล่นๆ ว่า ค่าเช่าคอนโดมิเนียมในนิวยอร์ก เมื่อปี ค.ศ.2019 มีสนนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,657 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อตารางฟุต โจเซฟ รวมถึงทายาทตระกูลโจสตาร์รุ่นต่อมา ย่อมมีความร่ำรวยไม่ใช่น้อย
Hayami Masumi – Glass No Kamen
ฮายามิ มาสุมิ หรือชายที่ถุกเรียกว่า คุณกุหลาบสีม่วง ตามบทบาทในเรื่องหน้ากากแก้ว เขาถูกขนานนามว่าเป็นปิศาจบ้างานผู้ไม่เลือกวิธีการในสร้างกำไรให้กับ คณะละครไดโตะ/คณะศิลปินไดโตะ แต่ความจริงเขาเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและมีความผูกพันกับ ‘นางฟ้าสีแดง’ ละครเวทีในตำนานอย่างมาก จึงพยายามใช้พลังของบริษัทที่เขารับช่วงมาเพื่อสร้างละครชุดนี้ให้เป็นจริง
หากดูจากชื่อบริษัทแล้วอาจจะชวนให้คิดว่าบริษัทของคุณกุหลาบสีม่วงเป็นแค่คณะละคร แต่ในเรื่องก็แสดงให้เห็นหลายครั้งว่าเขามีสายสัมพันธ์กับสถานีโทรทัศน์ บริษัทภาพยนตร์ รวมไปถึงบริษัทหลายแห่งที่สนใจจะลงทุนในวงการบันเทิง ดังนั้นภาวะบริษัทจริงๆ ของ คณะศิลปินไดโตะ น่าจะใกล้เคียงกับบริษัทบริหารด้านบันเทิงมากกว่าความเป็นคณะละคร สังเกตได้จากการใช้เงินลงทุนเพื่อสร้างละครเวที หรือเอาบ้านพักส่วนตัวไปให้นักแสดงในสังกัดใช้ฝึกฝนตัวเองแบบ Method Actor จนบ้านพังเล่นได้
หากเทียบเคียงกับโลกจริงแล้วบริษัทที่ใกล้เคียงก็น่าจะเป็น Stardust Promotion บริษัทด้านบันเทิงของญี่ปุ่นชั้นนำและมีอายุอานามใกล้เคียงกับปีที่หน้ากากแก้วออกตีพิมพ์ และมีข้อมูลรายได้สุทธิเปิดเผยล่าสุดในปี ค.ศ.2017 อยู่ที่ 120,450,000 เยน หรือ 36,000,000 ล้านบาท จริงๆ ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ตัวคณะละครไดโตะ/คณะศิลปินไดโตะ ถูกเขียนมาตั้งแต่หลายสิบปีก่อน เพราะบริษัทสายบันเทิงในปัจจุบันมักจะมีวงไอดอลในสังกัดด้วย และเผลอๆ คิตาจิมะ มายะ อาจจะกลายเป็นไอดอล Mask1000 ก็ได้นะ
Shidare Hotaru – Dagashi Kashi
โคตรเซียนเกรียนขนม เป็นการ์ตูนบอกเล่าเรื่องราวขนมเก่าๆ ในประเทศญี่ปุ่น โดยมี ชิดาระ โฮตารุ นางเอกสาวที่มาพร้อมกับความรู้ขนมเก่าแทบจะทุกแบรนด์ในตลาด พ่วงด้วยสถานะเป็นทายาทของบริษัทขนมขนาดใหญ่ที่เงินน่าจะเหลือขนาดที่เด็กสาวคนนี้มีเครื่องบินเจ็ทขนาดเล็กประจำตัวมาจอดในเมืองไกลปืนเที่ยงของญี่ปุ่นได้
แม้ว่าในเรื่องจะเอาขนมของกูลิโกะมาพูดถึง แต่ถ้าดูจากสเกลของบริษัทที่ถูกกล่าวถึงในอนิเมะแล้ว ชิดาเระคอมปานี ก็น่าจะมีขนาดไล่เรี่ยกับเอซากิกูลิโกะ (Ezaki Glico) ที่เป็นผู้ชำนาญการด้านขนมและของกินอื่นๆ ที่มีรายได้สุทธิในปี ค.ศ.2019 อยู่ที่ 11,800,000,000 เยน หรือราวๆ 3,555,000,000 บาท นี่ขนาดว่าตามท้องเรื่องเธอยังไม่ค่อยกลับไปบริหารงานที่บริษัทนะเนี่ย
Senpuuji Maito – Yusha Tokkyu Might Gaine
การ์ตูนแนวหุ่นยนต์ มักจะวางบทให้พระเอกรวยไว้ก่อนเพื่อวางเหตุผลว่าทำไมตัวเอกถึงสร้างหุ่นได้ แต่นานๆ ครั้งก็จะมีตัวเอกที่ทำธุรกิจจนเงินเหลือมากพอมาพัฒนาเทคโนโลยี อย่าง เซ็นปูจิ ไมโตะ ที่รับหน้าที่เป็นประธานของเซ็นปูจิคอนเซิร์น (Senpuuji Concern) กลุ่มบริษัทที่ทำกิจการหลายอย่างมาต่อเนื่องหลายชั่วคน ให้บริการทั้งการสร้างรางรถไฟไปทั่วประเทศ บริการจัดส่งสินค้าผ่านรถไฟ รวมถึงพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และต่อยอดเทคโนโลยีต่างๆ มาสร้างหุ่นยนต์ผู้กล้าไมท์ไกน์ทีหลัง
ถ้านับเฉพาะแค่ส่วนการบริหารรถไฟ อย่างน้อยที่สุด เซ็นปูจิคอนเซิร์น ก็ควรจะมีรายได้ใกล้เคียงกับ East Japan Railway Company หรือ JR East บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายรถไฟที่มีจำนวนผู้โดยสารใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่รายงานรายได้ประจำปี ค.ศ.2019 ระบุว่ามีรายได้จากการดำเนินงานสูงถึง 481,300,000,000 เยน หรือ ราวๆ 145,000,000,000 บาท ส่วนด้าน A.I. นั้น เทียบเคียงได้ง่ายที่สุดกับบริษัท DeepMind ที่เป็น บริษัทย่อยของทาง Google ผู้พัฒนา Alpha Go และมีการพัฒนาให้ปัญญาประดิษฐ์เข้าถึงด้านจริยศาสตร์ซึ่งสอดคล้องกับหุ่นยนต์ในการ์ตูนผู้กล้าไม่น้อย ซึ่งทาง Google ซื้อบริษัทนี้ในปี ค.ศ.2014 ด้วยเงิน 500,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,255,000,000 บาท แค่นี้ก็บ่งบอกความล่ำซำของเซ็นปูจิคอนเซิร์นได้ไม่น้อย ส่วนรายได้จากพัฒนาพลังอิเล็คทรอนรูปแบบใหม่ที่ทดแทนน้ำมันโดยสมบูรณ์ที่มีพูดถึงในเรื่อง เราหาตัวเทียบเคียงไม่ถูกจริงๆ แต่ถ้ามีจริงกำไรก็คงมหาศาลจนไม่กล้านับตัวเลขกันเลย
Ohara Mari – Love Live! Sunshine
หลายท่านอาจจะคุ้นเคยว่า Love Live จะเป็นแฟรนไชส์สื่อผสมที่เล่าเรื่องเด็กสาวที่อยากรวมวงเป็นไอดอล แต่ตัวละครที่มาเป็นไอดอลบางตัวก็ร่ำรวยไม่เบา โดยเฉพาะกรณีของ โอฮาระ มาริ จากอนิเมะชุด Love Live Sunshine ที่ประวัติของเธอระบุว่าเป็นทายาทของผู้บริหารธุรกิจโรงแรมชื่อดัง และเธอย้ายไปอาศัยอยู่ในโรงแรมอาวาชิมะ ในเมืองนูมาซึ จังหวัดชิซูโอกะ นั่นหมายความว่า พ่อแม่ของเธอต้องเป็นเจ้าของโรงแรมดังกล่าว
ในโลกแห่งความจริงโรงแรมอาวาชิมะ เป็นโรงแรมในเครือ Wyndham Destinations ที่มีโรงแรมอยู่ทั่วโลกที่มีการประเมินว่า แม้ในภาวะท่องเที่ยวย่ำแย่ในช่วงปี ค.ศ.2020 เครือบริษัทดังกล่าว ยังมีรายได้สุทธิอยู่ที่ประมาณ 3,000,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 97,470,000,000 บาท แต่อาจจะต้องหมุนเงินเพื่อรักษาสภาพของตัวอาคารกับพนักงานอย่างเต็มที่เช่นกัน
Kido Saori – Knights Of The Zodiac: Saint Seiya
ความจริง คิโดะ ซาโอริ จาก เซนต์เซย์ย่า แทบทุกเวอร์ชั่น เป็นคนที่ดูมีสตางค์อยู่แล้ว เพียงแค่ว่าในหลายเวอร์ชั่นเราก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเงินรายได้มาจากค่าบูชาเทพีอาเธน่าหรือไม่
จนกระทั่ง Knights Of The Zodiac: Saint Seiya ที่ระบุชัดแล้วว่า มูลนิธิแกรนด์ ของ คิโดะ มิทสึมาสะ อธิบายว่าธุรกิจของเขาคือ ธุรกิจการค้าข่าวและข้อมูล ทำให้พวกเขาสามารถสร้างฐานลับสุดทันสมัยได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก แถมยังมีรายได้มากพอจะสร้างกองทัพของตนเองได้ทีเดียว และเมื่อ ซาโอริรับช่วงในการบริหารมูลนิธิต่อ ย่อมหมายความว่าเธอควบคุมสินทรัพย์ส่วนหนึ่งได้ โดยไม่ต้องอ้างอิงค่าใช้จ่ายจากการบูชาเทพีแต่อย่างใด
Nakiri Erina – Shokugeki No Soma
เคยมีผู้เขียนการ์ตูนแนวอาหารแซะตัวเองเอาไว้ว่า หลายๆ ที อาหารที่ปรากฎในเรื่องนั้นเป็นการทำแบบไม่แคร์ต้นทุนประดุจว่าพ่อครัวแม่ครัวทุกคนในการ์ตูนล้วนแล้วเป็นโคตรเศรษฐีกัน จนกระทั่งการ์ตูนเรื่องยอดนักปรุงโซมะ ออกมาทำให้เห็นว่า นาคิริ เอรินะ ที่เป็นทายาทของตระกูลนาคิริ และว่าที่ผู้อำนวยการของโรงเรียนสอนทำอาหารโทสึกิโดยตรงนั้น ร่ำรวยขนาดไหน เพราะถึงจะมีนักเรียนจบในแต่ละรุ่นที่หลักสิบ แต่ละคนสมัครเข้ามากลับมีจำนวนไม่เคยลดน้อยถอยลง
แต่จริงหรือที่รายได้ของโรงเรียนทำอาหารจะเยอะขนาดนั้น เท่าที่ตรวจพบข้อมูลโรงเรียนสอนการทำอาหารระดับโลกอย่าง Le Cordon Bleu Limited ซึ่งเป็นสาขาของ Le Cordon Bleu ที่เปิดในประเทศอังกฤษมียอด EBITDA ในปี ค.ศ.2018 อยู่ที่ 1,117,248 ปอนด์อังกฤษ หรือราว 44,000,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่ได้มากมายเท่าใดนัก แต่ Le Cordon Bleu มีโรงเรียนกว่า 20 สาขาทั่วโลก รายได้ย่อมทวีคูณ และจุดสำคัญอีกประการก็คือ พลังอำนาจในธุรกิจอาหาร เหมือนที่ในเรื่องยอดนักปรุง โซมะ ที่พยายามแสดงว่าลูกศิษย์ของโรงเรียนโทสึกิกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในหลากมิติของธุรกิจอาหารนั่นเอง
Shinomiya Kaguya – Kaguya-sama Wa Kokurasetai
ชิโนมิยะ คางุยะ ทายาทของกลุ่มธุรกิจชิโนมิยะ ที่ในเรื่องบอกกันโต้งๆ ว่ามีทรัพย์สินรวมราว 200 ล้านล้านเยน มีบริษัทย่อยในเครือกว่าพันแห่ง และถือว่าเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ของญี่ปุ่นตามท้องเรื่อง …รวยแบบไม่ต้องเช็คโปรไฟล์ซ้ำแถมยังเก่งทั้งบู๊และบุ๋น
ทั้งยังเป็นว่าที่ผู้ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต แต่จริงๆ เธอเป็นหญิงสาวที่ถือทิฐิและพยายามดีลกับเรื่องหัวใจของตัวเองว่าจะตกหลุมรักกับประธานนักเรียน โดยมีเจตนาว่าจะไม่ยอมเป็นคนสารภาพรักก่อน หรือถ้าบอกง่ายๆ ก็คือ ต่อให้มีเงินมากมายยังไง ก็วุ่นวายเรื่องของหัวใจที่เม็ดเงินหรืออำนาจทางธุรกิจอาจจะไม่ช่วยเท่าใดนัก
Okumura Haru – Persona 5 The Animation
จากเกมดังที่ตัวละครไปปรากฏตัวเกมอื่นมาก็ไม่น้อย Persona 5 ยังเคยถูกสร้างเป็นอนิเมชั่นมาแล้วด้วย โดยมีตัวละครอย่าง โอคุมูระ ฮารุ ที่เป็นหนึ่งในปาร์ตี้ของตัวเอกและเป็นลูกสาวของโอคุมูระ คุนิคาซึ ผู้บริหาร Okumura Foods ที่เป็นผู้ก่อตั้งร้าน Big Bang Burger และปมจากร้านเบอร์เกอร์ธีมดวงดาวก็เป็นประเด็นที่กลุ่ม Phantom Thieve ของตัวเอกต้องไปปล้นโจรไขปริศนาอีกที
ด้วยความที่ว่าตระกูลโอคุมูระมีธุรกิจสองส่วน นั่นคือบริษัทหลักกับเบอร์เกอร์ที่แยกกันมาเป็นภาวะที่ใกล้เคียงกับบริษัท Lotte ที่เป็นเจ้าของร้านฟาสต์ฟู้ด Lotteria อีกทอดหนึ่ง ซึ่งรายได้สุทธิของบริษัทแม่แบบ Lotte ในช่วงปลายปี ค.ศ.2018 อยู่ที่ประมาณ 484,561,920,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 15,762,800,000,000 บาท ส่วนตัว Lotteria มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 1,770,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 57,550,000 บาท คือถ้าไม่มีเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงธุรกิจพังตามเรื่อง ฮารุ สามารถอยู่บ้านเป็นคุณหนูคนสวยได้เลยนะ
Nishizawa Momoka – Keroro Gunso
เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก อาจจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ดาวเคโรเนี่ยนที่พยายามมายึดครองโลกแต่ก็ดันติดวัฒนธรรมโอตาคุจนไม่ได้ครองโลกสักที แถมยังมองข้ามบุคคลในเรื่องที่ครองโลกเอาไว้ครึ่งใบอยู่แล้ว เรากำลังพูดถึง นิชิซาวะ โมโมกะ ทายาทโดยตรงเพียงคนเดียวของกลุ่มบริษัทนิชิซาวะ
ตามท้องเรื่องระบุว่าเป็นบริษัทที่มีกองกำลังของตัวเอง มีสินทรัพย์เทียบเคียงงบประมาณแผ่นดินของญี่ปุ่น และถูกบรรยายว่าเป็นกลุ่มบริษัทที่ครอบครองธุรกิจโลกอยู่ครึ่งหนึ่ง หรือถ้ามองอีกแง่ก็คือผูกขาดโลกไปแล้วครึ่งใบนั่นเอง ตามท้องเรื่องเธอไม่มัววุ่นวายกับรักแรกของเธอ โมโมกะอาจจะบริหารธุรกิจในเชิงครองโลกไปแล้ว…ทุนนิยมนี่ก็น่ากลัวกว่าที่คิดนะ!
อ้างอิงเพิ่มเติมจาก
สำนักพัฒนาพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์
คลังปัญญามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี