ปีศาจทุกตนเกิดมาล้วนมีชื่อ และยิ่งชื่อนั้นเป็นที่หวาดกลัว ปีศาจตนนั้นก็ยิ่งทรงพลัง
นั่นคือวิธีการวัดพลังในอนิเมะและมังงะ Chainsaw Man โดย ฟูจิโมโตะ ทัตสึกิ (Fujimoto Tatsuki) เรื่องราวของเดนจิ เด็กหนุ่มไร้ความหวังหวังที่จับพลัดจับผลูรวมร่างกับปีศาจเลื่อยยนต์ พร้อมโดนเกณฑ์ตัวไปเป็นหนึ่งในนักล่าปีศาจด้วยหวังเล็กๆ ในการใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา
การวัดพลังง่ายๆ แบบนี้ทำให้เราเห็นภาพชัดว่าปีศาจอะไรบ้างที่จะแข็งแกร่ง ปีศาจแบบไหนที่อ่อนแอ และเลื่อยยนต์เองนี่ก็น่ากลัวว่าไหม? แค่เสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่ม เสียงการขับเคลื่อนใบมีดนับไม่ถ้วนอันรวดเร็วและพร้อมจะหั่นเฉือนทุกอย่างที่ขวางทาง แม้แต่มนุษย์
แต่ความน่ากลัวนี้นี่มาจากไหน? เลื่อยยนต์มันน่ากลัวขนาดนั้นจริงๆ เหรอ?
เจ็บจากเลื่อยเพราะอะไร? เปิดสถิติเลื่อยยนต์
จากสถิติโดยหน่วยงานที่วิจัยและวางข้อบังคับเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในที่ทำงานของแรงงานภายในสหรัฐอเมริกา Occupational Safety and Health Administration หรือ OSHA พบว่าในปี 2021 มีอุบัติเหตุเกี่ยวข้องกับเลื่อยยนต์ที่ได้รับรายงานมีอยู่ 27 รายการ โดยมีเพียง 3 กรณีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเลื่อย นั่นคือเลื่อยจากเพื่อนร่วมงานบาดแขน อุบัติเหตุเลื่อยฟันเข้าที่คอของตัวเองระหว่างตัดไม้สน และเลื่อยดีดกลับเข้าไปยังศีรษะนำไปสู่ความตาย โดยอีก 24 กรณีอื่นๆ มักเกี่ยวข้องกับการโดนต้นไม้ล้มทับ กิ่งไม้หล่นใส่ หรือโดนไฟดูด สถิติรูปแบบเดียวกันเกิดขึ้นในปี 2012
และในอดีตที่ยาวนานกว่านั้น สถิติของปี 1999 ด้วยมาตรการการดูแลที่ไม่รัดกุมหรืออาจเพราะเครื่องมือที่ไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน อุบัติเหตุเกี่ยวกับเลื่อยยนต์เกิดขึ้นมากกว่าปัจจุบันหลายเท่า นั่นคือราวๆ 28,500 กรณีการบาดเจ็บจากการโดนบาดที่ขา เขา และข้อมือ
มาตรการความปลอดภัยของ OSHA เกี่ยวข้องกับการใช้เลื่อยยนต์นั้นถูกลิสต์ไว้ยาวเหยียด แน่นอนว่าต้องเป็นอย่างนั้นเมื่อเรากำลังพูดถึงอุปกรณ์ที่มีใบมีดมากมายเท่านี้ โดยมาตรการมีอยู่ว่าก่อนใช้ให้ลับใบมีดของเลื่อยให้คม เติมเชื้อเพลิงให้ห่างไกลจากวัตถุไวไฟอย่างน้อย 10 ฟุต และเช็คสภาพของเรื่องมือให้แน่ชัดว่าไม่มีส่วนใดใช้การไม่ได้ นอกจากนั้นยังต้อสวมที่อุดหู ถุงมือ กางเกงหนัง chaps แว่นนิรภัย รองเท้านิรภัย หมวกนิรภัย
นอกจากนั้นในระหว่างขั้นตอนการตัด OSHA มีข้อแนะนำให้จับเลื่อยอย่างมั่นคง ไม่ตัดระหว่างขาตัวเอง ต้องให้รยางค์ของเราทั้งหมดอยู่นอกวิถีของเลื่อย ก่อนตัดต้องมองสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการทำงานเช่นกิ่งไม้ที่อาจร่วงใส่หรือไม่ ผิดเลื่อยทุกครั้งเมื่อต้องขยับตัว ไม่ตัดด้วยปลายเลื่อยเพื่อป้องกันการดีดกลับ สื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน แต่ทำงานห่างจากกันเพื่อลดความเสี่ยง และพักผ่อนให้เพียงพอ
เราจะสามารถสังเกตจากสถิติและคำแนะนำโดย OSHA ได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือเรามักลืมว่าเลื่อยยนต์เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่อาวุธ อย่างที่ 2 คือเลื่อยยนต์มักทำอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่าผู้อื่น
การทำงานของเลื่อย (และสาเหตุที่ทำให้มันเป็นอาวุธที่ห่วยแตก)
ไม่ว่าจะเดินเครื่องด้วยน้ำมัน เสียบสายไฟฟ้า หรือแบตเตอร์รี่ เลื่อยยนต์ทำงานโดยหมุนใบมีดเล็กๆ จำนวนมากอย่างรวดเร็วบนรางของมัน โดยศัตรูของมันที่มนุษย์ออกแบบให้มันต่อสู้คือต้นไม้หรือไม้ใดๆ ของแข็งที่ไม่ขยับขับเคลื่อน พร้อมเป็นเหยื่อของเครื่องมือน่าสะพรึงกลัว
และคำอธิบายนั้นคือเหตุผลที่ทำให้เลื่อยยนต์เป็นอาวุธที่ห่วยมากๆ หากเรากำลังพูดถึงการต่อสู้
เลื่อยยนต์นั้นอาศัยความแม่นยำในการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่ว่าไป ต้นไม้ไม่วิ่งหนี ไม่ตกใจ และอยู่นิ่ง ตรงข้ามกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราดึงสายเลื่อยยนต์ ให้เสียงสตาร์ทของมันเป็นการป่าวประกาศว่าจะใช้มันต่อสู้กับมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ
นอกจากนั้นหากยังจำได้ การดีดกลับ หรือ Kick Back เป็นอุบัติเหตุที่สามารถนำไปสู่ความตายของผู้ใช้ได้ การดีดกลับเกิดจากการพยายามตัดสิ่งของด้วยปลายเลื่อยยนต์ โดยตัวใบมีดไม่สามารถหันให้ของชิ้นนั้นขาดจากกันได้เพราะพื้นผิวที่ปะทะกันระหว่างเลื่อยและไม้น้อยเกินไป นำไปสู่แรงต้านที่สามารถดีดเลื่อยยนต์ทั้งอันกลับเข้าสู่หน้าของผู้ใช้ได้
ลองคิดภาพว่าต้องคำนึงถึงเรื่องนั้นระหว่างที่คู่ต่อสู้ของเราขยับอยู่สิ
นั่นยังไม่รวมกับน้ำหนักที่ทำให้มันยากจะควบคุมขณะเคลื่อนไหว ความเป็นไปได้ที่ใบมีดจะหลุดออกจากรางของมัน และอีกหลายเหตุผลทำให้เลื่อยไม่น่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพนัก
ความคัลต์เป็นเหตุ
เมื่อเราพูดถึงเรื่องราวแฟนตาซี ดาบและโล่คืออาวุธของอัศวินผู้สง่างาม ปืนพกเก็บเสียงคืออาวุธของตัวละครสายลับมาดเข้ม หรือหนังแอ็กชั่นบู๊ล้างผลาญจะมีดีอะไรถ้ามันไม่มีปืนกลเบาที่มาพร้อมราวกระสุนไม่สิ้นสุด?
และหากพูดถึงสื่อคัลต์คลาสสิค อาวุธแรกๆ ที่โผล่ขึ้นมาในหัวจะเป็นอะไรไปนอกจากเลื่อยยนต์?
ไม่ว่าแขนเลื่อยยนต์ของแอชจากภาพยนตร์ Army of Darkness ในหนังซอมบี้ที่บ่อยครั้งจะมีฉากการนำเลื่อยยนต์ไล่ฟันฝูงผีดิบนับร้อย ไปจนวิดีโอเกมเช่น Doom หรือ Dead Rising ที่เลื่อยเป็นหนึ่งในอาวุธไอคอนิกของซีรีส์นั้นๆ ไป เมื่อมองในมุมนั้นอาจพอมองเห็นได้ว่าความนิยมของเลื่อยยนต์ในฐานะอาวุธมาจากไหน
แต่เราจะพูดถึงประเด็นนี้ไม่ได้เลยหากไม่พูดถึงในหนังคัลต์ปี 1974 The Texas Chain Saw Massacre ที่พาเราไปรู้จักกับฆาตกรต่อเนื่องกินเนื้อมนุษย์ Leatherface ผู้เปลี่ยนอุปกรณ์การช่างธรรมดาที่น่ากลัวของมันอยู่แล้วให้กลายเป็นเครื่องมือแห่งความตาย ตัวเลือกอาวุธนี้เกิดจากการที่ผู้กำกับ โทบี ฮูปเปอร์ (Tobe Hooper) ยืนคิดในร้านขายของการช่างว่าถ้าเป็นเขา เขาจะอยากใช้อะไรวิ่งไล่ล่าคนจำนวนมาก
A poster for Tobe Hooper’s 1974 horror film ‘The Texas Chain Saw Massacre’ starring Gunnar Hansen. (Photo by Movie Poster Image Art/Getty Images
ด้วยแอ็กชั่นเลือดสาดแบบหนังทุนต่ำที่เสริมความดิบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นบนจอ แคสต์ไร้ดาราแต่เป็นคนที่ดูเหมือนคนที่เราเจอได้ในชีวิตจริง และคอนเซ็ปต์ของมนุษย์กินคนสวมหน้ากากหนังมนุษย์วิ่งล่าเราด้วยเลื่อยยนต์ก็สามารถส่งต่อความกลัวไปสู่ผู้ชมได้อย่างไม่มีอะไรกั้น
และเชื้อสายความคัลต์ดังกล่าวก็ไหลผ่านมาสู่ Chainsaw Man ในวันนี้ ฟิโมโตะ ทัตสึกิ นักเขียนมังงะผู้เป็นเนิร์ดภาพยนตร์หลากหลายแขนงกล่าวบนเวทีครบรอบ 20 ปีของ Studio Mappa ว่าหนึ่งในแรงบันดาลใจเบื้องหลังมนุษย์เลื่อยยนต์คือ The Texas Chain Saw Massacre เรื่องที่ไม่ว่าจะบอกใครก็คงเชื่อเต็มร้อยเมื่อหันไปมองจากผลงานเก่าๆ ของเขาที่โควต Pulp Fiction ทั้งซีนในฉากต่อสู้ไคลแม็กซ์ของ Fire Punch
เมื่อมองผ่านเลนส์คัลต์ๆ เลื่อยยนต์ที่ดูเป็นเครื่องมือช่างที่จะทำร้ายตัวเองมากกว่าผู้อื่นกลายเป็นสิ่งที่น่าเกรงขาม เลอะเทอะ และน่าหวาดกลัว
แล้วคำอธิบายแบบไหนจะเหมาะยิ่งกว่าสำหรับการ์ตูนคัลต์ๆ แบบนี้?
อ้างอิงข้อมูลจาก
