ถ้าเรามองย้อนไปในตัวตนของเด็กยุค 90s ยุคสมัยที่โลกยังไม่มีความหลากหลายเท่าไหร่ เพศแบ่งออกเป็นสอง ผู้ชายและผู้หญิงถูกแบ่งออกด้วยลักษณะกว้างๆ และแน่นอนว่าไม่มีพื้นที่ให้กับเด็กๆ ที่เป็นกลุ่มเพศหลากหลาย ในโลกของการ์ตูนผู้ชายแบบขบวนการห้าสีกลับเกิดซูเปอร์ฮีโร่หญิงที่เป็นตัวแทนของดาวนพเคราะห์ ช่วยรับปกป้องที่ไม่ใช่แค่โลกแต่คือจักรวาลจากเหล่าร้าย
ในตอนนั้นเซเลอร์มูนถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดของพื้นที่ปลอดภัย เป็นตัวแทนของความหลากหลายให้เด็กๆ ได้เลือกสวมบทบาทว่าคุณจะเป็นนางเอกโก๊ะกังแต่ควบบทเด่น หรือหญิงสาวอื่นๆ ที่ทุกคนมีบทบาทอาชีพ มีความฝัน มีตัวตนให้เด็กๆ ได้มองเห็นเฉดของตัวตนในความเป็นเพศ และแน่นอนว่าก้าวหน้าไปจนถึงการให้ภาพเพศและครอบครัวที่หลากหลาย กระทั่งอุซางิเองก็แสดงลักษณะความเลื่อนไหลทางเพศด้วย
เป็นครอบครัวที่ผู้หญิงเป็นผู้นำ ดูแลซึ่งกันและกันได้ โอบอุ้มทั้งในระดับตัวตน เอาชนะภัยอันตรายได้ด้วยทั้งความเป็นปัจเจกของตัวเองและการร่วมมือกันในพลังมิตรภาพ
ความฝันของอัศวินเซเลอร์
ความเท่ที่สุดอย่างหนึ่งคือเซเลอร์มูน คือจุดเริ่มต้นที่การ์ตูนผู้หญิงหยิบเอาความเป็นซูเปอร์ฮีโร่มาตีความเป็นตัวละครอัศวินหญิง และที่เท่ไปกว่านั้นคือการเอาเรื่องที่ดูวิทยาศาสตร์มากๆ คือเรื่องจักรวาล ระบบสุริยะจักรวาลและดาวนพเคราะห์มาสร้างเป็นอัศวินเซเลอร์ ซึ่งเชื่อมโยงกับดาวดาวต่างๆ การพิทักษ์โลกของเหล่าเด็กผู้หญิงมัธยมปลาย จึงกลายเป็นการพิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่คือไม่ได้แค่ปกป้องระดับโลกใบนี้ แต่คือระดับจักรวาล ขยายไปจนถึงมิติคู่ขนาน
ในการกอบกู้ที่ยิ่งใหญ่ ตัวเรื่องเล่าผ่านเรื่องราวของเด็กผู้หญิงที่มีความธรรมดา นอกจากอุซางิที่ตอนแรกแสนจะโก๊ะกัง เป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงที่อยู่ๆ ต้องรับภาระยิ่งใหญ่ ความน่าสนใจของเรื่องเซเลอร์มูนคือตัวละครอื่นๆ มีความโดดเด่นและเป็นท่ีชื่นชอบไม่แพ้กับตัวอุซางิซึ่งเป็นนางเอก ตรงนี้น่าจะมาจากการที่เรื่องตีความตัวละครความเป็นผู้หญิงออกมาได้อย่างหลากหลาย เป็นไอคอนทั้งของเด็กผู้หญิงและเหล่าเด็กที่มีความหลากหลายทางเพศ
เพราะนอกจากตัวเองแล้ว ในเรื่องเราจะได้เจอกับเพื่อนหญิงที่มีความเท่ น่ารัก และที่สำคัญคือเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีความฝัน มีเส้นทางเป็นของตัวเอง คำว่าเส้นทางของตัวเองลึกซึ้งถึงขนาดต่อต้านขนบที่มีต่อเพศนั้นๆ เช่น คุณอาจจะเป็นสาวแว่นสุดน่ารักแบบเซเลอร์เมอคิวรี่ที่ชอบเรียนหนังสือ ชอบธรรมชาติ แต่เป็นภูมิแพ้ความรัก เป็นสาวเท่แบบเซเลอร์มาร์ เด็กนักเรียนที่ลึกลับ เป็นเหมือนมิโกะของศาลเจ้า หรือจะเป็นคนเท่แบบจูปิเตอร์ หรือจะออกแนวเป็นคนสวย เป็นไอดอล เรียนไม่เก่งแต่เก่งกีฬาหรือทักษะอื่นๆ แบบเซเลอร์วีนัส
บาดแผลในการ์ตูนผู้หญิง
ลักษณะพิเศษของความเป็นการ์ตูนโชโจ (การ์ตูนเด็กผู้หญิง) ของญี่ปุ่นคือความไม่สมบูรณ์แบบ การ์ตูนโชโจมักว่าด้วยความเว้าแหว่งบางอย่างและการต่อสู้ ดิ้นรน มีชีวิตต่อไปของเหล่าเด็กผู้หญิง
อัศวินเซเลอร์ที่เข้มแข็งทั้งด้วยพลังการยืนหยัดของตัวเองและการรวมพลังกัน พวกเธอต่างมีภูมิหลังที่เจ็บปวด มีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ ตัวละครที่ดูแข็งแรงที่เซเลอร์มาร์หรือจูปิเตอร์ล้วนสูญเสียครอบครัว เซเลอร์มาร์อาศัยอยู่กับปู่เพราะสูญเสียแม่ เซเลอร์จูปิเตอร์มีปมกับอากาศยานเพราะเสียทั้งพ่อและแม่ไป เซเลอร์เมอคิวรี่เองมาจากครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่มีเวลาให้
ความบุบสลายทั้งหมดถูกนำเสนออย่างค่อยเป็นค่อยไป เด็กยุค 90s ในตอนนั้นเราอาจรับรู้ความซับซ้อนของตัวละครไม่ได้โดยตรง แต่ถ้าเรามองย้อนไปว่าตัวละครเหล่านั้นล้วนเป็นเด็กวัยรุ่น หลายคนเต็มไปด้วยบาดแผลและต่างแสดงความเข้มแข็งออกมาในรูปแบบที่ต่างกัน ความเข้มแข็งทั้งหมดถูกตีความออกมาเป็นการต่อสู้กับเหล่าปีศาจ แต่ในการต่อสู้ด้วยพลังนั้น พวกเธอต่างกำลังต่อสู้กับตัวเอง กับสังคม กับการยอมรับ ตั้งแต่การยอมรับตัวเอง ยอมรับภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง การยอมรับซึ่งกันและกัน
และสุดท้ายอัศวินเซเลอร์ทุกคนในฐานะเด็กผู้หญิงล้วนเปี่ยมไปด้วยความฝัน เป็นความฝันที่เฉพาะตัวตามบุคลิกและความสนใจของตัวเอง ก้าวผ่านเงื่อนไขต่างๆ และเติบโตต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแรง
ความน่าสนใจอีกด้าน คือการที่การ์ตูนสำหรับเด็กผู้หญิงกำลังเสนอพลังให้กับเหล่าเด็กๆ พลังที่บอกกับพวกเธอว่าสิ่งที่พวกเธอกำลังเผชิญเช่นครอบครัวที่แตกสลาย พวกเธออาจกำลังมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และเป็นนามธรรมมากกว่า ในบางแง่มุมการที่อัศวินเซเลอร์จะต้องผิดหวังเรื่องความรัก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต การให้พลังและภารกิจอื่นๆ มากกว่าความรัก จึงเป็นการเสนอมุมมองต่อโลกในนิยามของการ์ตูนเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างพิเศษ
ว่าด้วยความหลากหลาย
การบอกว่าเซเลอร์มูนให้ภาพความหลากหลาย ด้านหนึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องที่เรารับรู้อยู่แล้ว เช่น การให้ภาพครอบครัวของผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกัน เซเลอร์ที่แปลงร่างด้วย แปลงเพศด้วย ไปจนถึงบทความที่ให้ภาพว่าอุซางิเองก็มีบางจังหวะที่เป็นตัวแทนของความรักไร้เพศ มีการดึงดูดจากผู้หญิงด้วยกัน ถูกจีบ และความสัมพันธ์ทั้งหมดของเหล่าอัศวินมีสายใยของผู้หญิงเป็นหัวใจ
แต่สุดท้าย การที่เรามองย้อนไปในปี 1991-1992 ความหลากหลายทั้งรายละเอียดของความเป็นเพศ ซึ่งไม่ได้มีผลแค่กับเด็กผู้หญิง แต่ส่งผลกับเด็กเพศหลากหลายที่ยังค้นหาตัวเอง ทั้งยังให้พลังกับเด็กๆ ที่มีภูมิหลังไม่สมบูรณ์ด้วย การบุกเบิกเรื่องความหลากหลายในขณะนั้นต้องถือว่ามีความสลักสำคัญกับตัวตน และความรู้สึกนึกคิดเมื่อเด็กในยุคนั้นเติบโตขึ้นมาสู่ยุคแห่งความหลากหลายที่หลากหลายขึ้น
การก้าวออกจากความเป็นสองเพศ หรือภาพของผู้หญิงแน่นอน ตายตัว เป็นคู่ตรงข้ามของผู้ชาย การให้เฉดสีอันหลากหลายและเต็มไปด้วยเรื่องราว รวมถึงการให้ภาพของวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความสดใสและสไตล์ที่แตกต่างกัน เป็นการเติบโตที่เหล่าเด็กผู้หญิงเสริมพลังให้แก่กัน ไปจนถึงเรื่องราวที่ก้าวหน้าถึงขนาดท้าทายความเป็นเพศ ความเป็นครอบครัว การมีคู่รักของหญิงรักหญิง ประเด็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว และคำสาปของอัศวินเซเลอร์ที่คลายคำสาปเดียวของผู้หญิงคือการแสวงหาความรัก
ไม่มีความรักก็ไม่เป็นไร มีเพื่อนและการยอมรับตัวเอง หรือมีหน้าที่อื่นๆ ให้ตามหาอีกมากมายต่อไป
อ้างอิงจาก