เกม Hades 2 (2025) เซอร์ไพรส์ผู้เล่นด้วยบทเปิดซึ่งเป็นจุดจบของ ‘เฮดีส (Hades)’ เทพแห่งความตาย ผู้ปกครองดินแดนแห่งผู้วายชนม์ การหายไปของครอบครัวเฮดีสพร้อมบริวารเกิดขึ้นเพราะกลับมาแก้แค้นของอดีต อดีตที่มีนามว่า ‘โครนอส (Chronos)’ ไททันบรรพกาลที่ครั้งหนึ่งเหล่าเทพแห่งโอลิมปัสเคยร่วมมือกันโค่นลงและจองจำไว้ บัดนี้โครนอสได้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อโครนอสคือตัวตนของกาลเวลา และหากเวลาอยู่เหนือทุกสิ่ง ใครเล่าจะหยุดยั้งโครนอส
ในวิกฤตที่แม้แต่เทพจ้าโอลิมปัสยังจนปัญญา หวยจึงมาตกกับผู้เล่นเกมอย่างเราที่ต้องรับบทเป็น ‘เมลิโนอี (Melinoë)’ ลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวเฮดีสที่หนีรอดจากเงื้อมมือของโครนอส เมลิโนอีได้ ‘เฮคาที (Hecate)’ เทพีแห่งเวทมนตร์คาถา เลี้ยงดูและฝึกฝนเพื่อที่วันหนึ่งเธอจะกลายมาเป็นความหวังสุดท้ายในการต่อกรกับเทพแห่งเวลา
ก่อนจะเล่น Hades 2 ผมพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าเราที่เป็นคนเล่นเกมจะต้องพบเจอกับอะไร สาเหตุเพราะผมเองเคยสัมผัสประสบการณ์ตายซ้ำตายซ้อนตามฉบับเกม roguelike สวมบทบาทเป็น ‘เซกรีอัส (Zagreus)’ ลูกเทพที่อยากหนีออกจากบ้านไปเผชิญโลกเบื้องบนในภาคแรกมาก่อน ใน Hades ภาคใหม่ แทนที่เราจะต้องหาทางหนีจากยมโลก (Underworld) อย่างในภาคก่อน ความกวนปนขำคือผู้เล่นกลับต้องฝ่าฟันศัตรูและอุปสรรคเพื่อลงไปยังบ้านเกิดชั้นลึกสุด ก่อนจะเผชิญหน้ากับโครนอส
ไม่เพียงแต่ Hades 2 จะคงเสน่ห์ที่มีในเกมภาคแรกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการหยอกล้อทั้งในตัวเนื้อเรื่องและปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร งานภาพสวยบาดตา ระบบการต่อสู้แสนจะเร้าใจ รวมถึงจุดเด่นที่เล่นซ้ำได้เรื่อยๆ ของเกมประเภท roguelike ตัวเกมยังต่อยอดความสนุกและเรื่องราวได้น่าสนใจ โดยเฉพาะการวางเทพเจ้าแห่งเวลาไว้เป็นศัตรู ที่ถือว่าเป็นภารกิจสุดท้าทาย (และฟังดูเป็นไปไม่ได้) มากขึ้น ลองนึกภาพว่าต้องต่อสู้กับ ‘เวลา’ ดูสิ เราแทบนึกภาพเหตุการณ์นั้นไม่ออก มีแต่จะคิดว่าต้องใช้เวลาอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด
ในโลกทุกวันนี้ เวลาคือทรัพยากรที่มีค่าในระบบเศรษฐกิจ ทุกวินาทีมีความสำคัญ ฉะนั้นเราต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด หากใช้ให้ถูกวิธี เราสามารถนำเวลาที่มีไปพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น สร้างรายได้ให้มากขึ้น เราโดนกดดันให้ใช้เวลาด้วยความคุ้มค่า เวลากลายเป็นนายของเรามากกว่าที่เราจะเป็นนายของมัน ดั่งที่โครนอสเป็นนายเหนือเทพเจ้าโอลิมปัสทั้งปวง การเอาเวลาที่มีไปใช้นอกเหนือจากแสวงหาความก้าวหน้าในระบบเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องไม่จำเป็น
หากมองแบบนั้นแล้ว การเล่นเกมในยามว่างก็มักถูกมองว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด ไม่ได้สร้างเม็ดเงินให้ผู้เล่น เป็นความบันเทิงที่ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเปล่าๆ เท่านั้น และอาจถึงขั้นเป็นกิจกรรมที่ไร้สาระ แต่ถึงอย่างนั้น ระบบทุนนิยมก็ยังหาประโยชน์ให้กับการเล่นเกมได้
ปัจจุบันการเล่นเกมอาจไม่ใช่กิจกรรมที่ทำไปแค่เพื่อความสนุกอีกต่อไป การเล่นเกมสามารถทำเป็นอาชีพ ตั้งแต่นักกีฬาอีสปอร์ตสที่ได้เงินจากการแข่ง ไปจนถึงสตรีมเมอร์ที่คนดูออนไลน์ยอมจ่ายเงินให้ แน่นอนว่าการเล่นเกมและมีรายได้ตอบแทนไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่ระบบเศรษฐกิจได้มอบหมายหน้าที่เพิ่มเติมให้กับการเล่นเกม นอกจากกิจกรรมที่มีไว้เพลิดเพลินในยามว่าง
จุดเด่นของการเอาปรกรณัมกรีกมาใช้ใน Hades 2 (รวมถึง Hades ภาคแรกด้วย) คือการทำสิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม สิ่งที่ไม่อาจต่อกร หยุดยั้ง ถอยกลับ หรือเร่งรัดได้เช่นเวลามีตัวตนขึ้นมาในชื่อโครนอส ในเกมผู้เล่นสามารถฟาดฟันและบริกรรมเวทมนต์คาถาเพื่อเอาชนะเวลา เราฆ่าเวลาได้ ไม่ใช่แค่นั้น ด้วยระบบเกมแบบ roguelike เรายังฆ่าเวลาได้ซ้ำๆ ด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนเดิม
ในครั้งแรกเราอาจจะฆ่าโครนอสด้วยคทาแม่มด “เดสคูรา” ที่ได้รับพร (Boon) มาจากเทพซูสและเทพีแห่งความรัก แอโฟรไดที (Aphrodite) ครั้งถัดไปเราเปลี่ยนแนวไปใช้ขวานหินจันทรา “โซเรเฟต” ที่ปลุกเสกพรจากเทพีแห่งพงไพร อาร์เทมิส (Artemis) และเทพแห่งสงคราม แอรีส (Ares) ในเกมผู้เล่นทดลองฆ่าโครนอสด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ได้ไม่รู้จบ นี่แหละคือความสนุกของเกม Hades 2
การฆ่าโครนอส ฆ่าเทพแห่งเวลาในเกม ในอีกนัยหนึ่งก็คือการที่ผู้เล่นฆ่าเวลานอกโลกของเกมไปด้วย ยอมรับว่าในครั้งแรก ผมใช้เวลานานเกือบ 10 ชั่วโมง กว่าจะโค่นโครนอสลงได้ในครั้งแรก ซึ่งฟังดูแล้วก็เหมือนถูกเวลากดดันว่า “ทำไมไม่ฆ่าฉันให้เร็วกว่านี้ล่ะ!”
แต่การจะฆ่าเวลา ก็ต้องใช้เวลาเข้าสู้ หากไม่รีบร้อน ผู้เล่นเลือกได้ที่จะค่อยๆ เพลิดเพลินไปกับตัวเกม แล้วปล่อยเทพเจ้าแห่งเวลานั่งแกร่วอยู่ที่บัลลังก์ยมโลก ระหว่างที่เราต่อสู้กับศัตรูเพื่อเก็บประสบการณ์ ฝึกใช้อาวุธให้คล่องมือ อัปเดตเรื่องราวกับเหล่าตัวละครและเทพโอลิมปัส ปลูกต้นไม้ ตกปลา แช่บ่อน้ำร้อน หรือตายไปนับร้อยครั้ง สำหรับผู้เล่นโครนอสเป็นเพียงบอสที่รอให้ไปฆ่าตอนไหนยังไงก็ได้ตราบเท่าที่เราเตรียมการพร้อม นอกจากเป็นการท้าทายเทพเจ้าแห่งเวลา ในอีกทางหนึ่งการเล่นเกม Hades 2 ก็เป็นการท้าทายและฆ่าเวลาในโลกความเป็นจริง เวลาที่ระบบเศรษฐกิจมองว่ามนุษย์ทุกคนควรใช้ให้มีประสิทธิพล (productivity) สูงสุด
อย่างที่กล่าวไปว่าเกม Hades 2 สืบทอดเสน่ห์ของเกม Hades ภาคแรกมาเต็มเปี่ยม บทสนทนาระหว่างผู้เล่นและตัวละครต่างๆ โดยเฉพาะเทพโอลิมปัสที่อาจมีง้องอนกันบ้างนั้น ยังคงความสนุกและเป็นตัวคั่นระหว่างการต่อสู้ที่ไม่ทำให้ตัวเกมนั้นเครียดเกินไป งานภาพเองก็น่าประทับใจทุกครั้งที่ได้มอง แถมยังสวยขึ้นจากภาคก่อน อีกความพิเศษของภาคนี้คือเรามีโอกาสได้ไปเยือนเขาโอลิมปัส ได้ถวายน้ำทิพย์ Nectar แด่เหล่าเทพถึงที่พำนัก จุดเดียวของเกมที่อาจจะไม่แตกต่างจากภาคแรกนักคือระบบการพัฒนาตัวละครและการต่อสู้
โดยรวมแล้ว Hades 2 เป็นเกมสไตล์ roguelike ที่คุ้มค่ากับ ‘เวลา’ ที่เสียไป และไม่จำเป็นเลยว่าคุณจะต้องเล่นเกมภาคแรกมาก่อนถึงจะสนุกกับเกมภาคนี้ ในยุคที่เกมเมอร์มีเกมให้เล่นมากมายและอาจซื้อดองไว้จนไม่มีเวลาได้เล่น Hades 2 เป็นเกมหนึ่งที่อาจกำลังบอกให้เราใช้เวลากับเกมให้สนุก ใช้เวลาไปกับความบันเทิงโดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด ฆ่าเวลาที่มีให้หนำใจ
“ขอความตายจงบังเกิดแด่โครนอส”
