ชาวเน็ตเกาหลีคาดเดาว่า ดิสแพตช์ (Dispatch) จะเปิดเผยข่าวเดตของคู่รักคนดังคู่ใด?
ข่าวลือ Dispatch เตรียมปล่อยข่าวเดตศิลปินตัวท็อปเจน 4 กับศิลปินชายเจน 2!!
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นการเปิดเผยข่าวคู่รักนักแสดง ไอดอล นักกีฬามากมายจากสำนักข่าวดิสแพตช์ (Dispatch) ซึ่งในหลายๆ ครั้ง มีทั้งภาพแอบถ่ายในช่วงเวลาส่วนตัว ทั้งการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวที่เจ้าตัวต่างไม่ยินยอม รวมถึงเนื้อหาที่เปิดเผยออกมา ทำให้รู้ว่า มีการติดตามอย่างลับๆ เพื่อรายงานข่าวความสัมพันธ์ จนนำมาสู่การตั้งคำถามถึงการสต็อกกิ้งของนักข่าว ความเป็นส่วนตัว ของเหล่าคนบันเทิง ที่แม้จะเป็นคนของประชาชน
ดิสแพตช์เป็นที่รู้จักว่าเป็นสำนักข่าวที่ทำข่าวบันเทิง ที่นอกเหนือจากข่าวรายงานทั่วไปถึงผลงาน และความเป็นไปของศิลปินต่างๆ แล้ว ยังเป็นที่รู้จักดีว่า เป็นสำนักข่าวที่มักขุดคุ้ยหาข่าวเดตของศิลปิน จนชาวเกาหลีบางส่วนมองว่า เป็นสำนักข่าวที่ทำข่าวตามติดชีวิตส่วนตัวของเหล่าดารา หรือไอดอล หรือที่ใช้คำว่า ‘ซาแซง’ ที่มีความหมายในเชิงถึงการบุกรุกชีวิตส่วนตัวแม้ว่าจะมีคนมอง สิ่งทีสำนักข่าวนี้ทำเหมือนกับปาปารัซซี่ หรือสต็อกเกอร์ที่ติดตามชีวิตเหล่าดารา คนดังแบบรุกล้ำเกินไป
แต่ดิสแพตช์ก็เคลมว่า ข่าวการเปิดเผยความสัมพันธ์คู่รักดาราที่ถูกเปิดเผยเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนมีสิทธิจะรับรู้ ทั้งสโลแกนของสำนักข่าวยังคือ 뉴스는 팩트다 (ข่าวคือข้อเท็จจริง) และยังพยายามทำสกู๊ปในเชิงรายงานการสืบสวนกับข่าวบันเทิง
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ได้มีเพียงแค่สำนักข่าวดิสแพตช์เท่านั้น ที่ทำข่าวเปิดเผยความสัมพันธ์ของคนดัง ยังมีสำนักข่าวอื่นๆ เช่นกันที่ทำข่าวในเชิงนี้เช่นกัน แต่อาจเรียกได้ว่า ดิสแพตช์นั้นตามติดข่าวเชิงนี้ จนกลายเป็นแบรนด์ดิ้งของสำนักข่าวนี้ไปแล้วในช่องยูทูป DKDKTV เคยทำคลิปสัมภาษณ์ชาวเกาหลีว่า คิดอย่างไรกับสำนักข่าวดิสแพตช์ และความเป็นส่วนตัวของประชาชน โดยในคลิป ผู้ถูกสัมภาษณ์ต่างก็มีความเห็นว่า จริงๆ พวกเขาคิดว่าข่าวเดตของดารา ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรู้ก็ได้ และบางคนก็รู้สึกว่าดิสแพตช์รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเหล่าคนบันเทิงมากเกินไปจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ก็เข้าใจได้ว่าทำไมข่าวเหล่านี้ถึงมักเป็นข่าวดัง ข่าวฮอต และเมื่อข่าวออกมา พวกเขาก็มักได้เห็นภาพการแอบออกเดตต่างๆ และจดจำภาพเหล่านั้นได้ด้วย
สำหรับข่าวนักแสดง ไอดอลหลายคนมักถูกถ่ายมาในช่วงเวลากลางคืน ที่เดินอยู่คนเดียวในท้องถนน ทำให้คนพูดถึงความรู้สึกน่ากลัวของการถูกติดตาม เมื่อเห็นภาพ ทั้งรูปข่าวอื่นๆ ลานจอดรถใต้ดิน หน้าอพาร์ตเมนต์ ที่ยิ่งทำให้เห็นถึงการตามติดชีวิตส่วนตัวอย่างใกล้ชิด อีกทั้งข่าวเหล่านี้ ไม่ใช่แค่การติดตามแค่ 1-2 วัน แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรติดต่อกัน เพราะสำนักข่าวสามารถลงลึกระบุวันที่ต่างๆ ที่คนดังนี้ไปออกเดต และสถานที่นัดพบด้วย
ครั้งหนึ่งในบทสัมภาษณ์ ที่แม้จะนานถึง 10 ปีที่แล้วของอิมกึนโฮ ทีมลีดเดอร์ของกองข่าวดิสแพตช์ ก็พูดถึงเรื่องการตามถ่ายรูป และคอนเซ็ปต์ของสำนักข่าวว่า เขาไม่ได้มองว่าสื่อของเขาเป็นปาปารัซซี่อย่างที่หลายคนนิยาม
“ผมจะบอกว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ‘การรายงานเชิงสืบสวน ปาปารัสซี่ถ่ายรูปดาราเพื่อขายให้กับสื่อ ในขณะที่เราทำเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาและผู้จัดการของพวกเขาปฏิเสธการรายงานข่าวของเรา”
จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่การวิจารณ์ดิสแพตช์ แต่หลังข่าวเดตของไค วง EXO และเจนนี่ วง Blackpink ในปี 2019 ชาวเน็ตเกาหลีก็ได้พูดถึงประเด็นความเป็นส่วนตัวและสิทธิมนุษยชนของคนดังอีกครั้ง ทั้งในตอนนั้น ยังมีรายงานว่า มีคำร้อง 15 ฉบับเกี่ยวกับการเรียกร้องให้ปิดสำนักข่าวดิสแพตช์ ที่โพสต์ในบอร์ดคำร้องระดับชาติ โดย 1 ในคำร้องนั้น มีคนลงชื่อมากถึง 19,000 คนในวันเดียว โดยคำร้องนั้นกล่าวว่า “Dispatch เป็นกลุ่มที่ละเมิดความเป็นส่วนตัว ก่อนที่จะเป็นเซเลป คุณเป็นมนุษย์และบุคคลที่มีสิทธิมนุษยชน แต่ Dispatch เพิกเฉยต่อสิ่งนั้นและยังคงละเมิดความเป็นส่วนตัวต่อไป”
ขณะเดียวกันในเดือนมิถุนายนปี 2018 เอง ก็มีการร้องให้ปิดดิสแพตช์ผ่านการยื่นคำร้องระดับชาติเนื่องจากละเมิดความเป็นส่วนตัวของคนดัง แต่จองฮเยซึง หัวหน้าศูนย์สื่อสารดิจิทัลของทำเนียบรัฐบาลในขณะนั้น (รัฐบาลของมุนแจอิน) กล่าวว่า “มันเป็นขอบเขตเสรีภาพสื่อที่กำหนดว่าแต่ละสำนักข่าวสื่อเขียนบทความอะไรและรายงานอย่างไร” ทั้งยังเคยให้ความเห็นว่า “ไม่เหมาะสมที่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซง” ในประเทศประชาธิปไตย ที่มีสิทธิและเสรีภาพ อย่างเกาหลี การปิดสื่อจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อาจจะเป็นเหมือนดาบสองคมที่เหล่าสำนักข่าวก็ใช้เสรีภาพที่ว่านี้ ในการอ้างถึงสิทธิในการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว และสิทธิที่ประชาชนควรจะได้รับรู้ข่าวเหล่านี้ แม้ว่าประชาชนบางส่วนเองก็มองว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้
ข่าวเดตของคนดังเกาหลี กับการเชื่อมโยงประเด็นการเมือง
นอกจากธรรมเนียมการเปิดเผยข่าวคู่รักทุกวันที่ 1 มกรา ของดิสแพตช์แล้วนั้น ยังมีหลายข่าว หลายไทม์ไลน์ ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทำไมถึงต้องปล่อยข่าวเดตออกมาตอนนี้ด้วยนะ จนกลายเป็นเหมือนทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า ข่าวบันเทิงเหล่านี้ ใช้เพื่อกลบข่าวบางอย่างทางการเมืองหรือเปล่า?
กรณีข่าวที่ไทม์ไลน์ดูออกมาเหมาะเจาะจนทำให้สงสัยนั้น คงเป็นข่าวในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2015 ที่เมื่อสำนักพิมพ์ Herald Economy ได้เปิดเผยข่าวการยักยอกเงินของอดีตประธานาธิบดีอีมยองบัก (Lee Myung Bak) จำนวน 280 พันล้านวอน (ประมาณ 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ผ่าน Korea Mineral Resources Corporation ในรูปแบบเงินกู้ทั่วไปแก่บริษัทพัฒนาทรัพยากรในต่างประเทศ 29 แห่ง แต่ในวันรุ่งขึ้น ก็มีการเปิดเผยข่าวการออกเดตของนักแสดงชายลีมินโฮ และไอดอลนักแสดงซูจี รวมไปถึงข่าวการแต่งงานของจางยุนจู และข่าวการออกเดตของ 2 นักแสดง รยูซูยองและพัคฮาซอนที่ต่างปรากฏขึ้นพร้อมๆ กัน จนชาวเน็ตยกทฤษฎีสมคบคิดว่าข่าวบันเทิง โดยเฉพาะข่าวออกเดตของคนดัง ถูกปล่อยมาเพื่อปกปิดข้อเท็จจริงนี้
นอกจากนั้นยังมีข่าวของการออกเดตของนักแสดงคิมอูบิน กับชินมินอา ที่ถูกปล่อยมาในช่วงๆ เดียวกับข่าวที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ได้ซื้อโปรแกรม RCS (Remote Control System) จากทีมแฮ็กเกอร์ชาวอิตาลี ซึ่งแม้หน่วยข่าวกรองจะปฏิเสธว่า ไม่ได้จะเอามาใช้กับประชาชน แต่ก็พบเนื้อหาในข้อความที่ได้สอบถามทีมผู้ผลิตโปรแกรมว่า สามารถใช้กับแอปฯ KakaoTalk ได้หรือไม่ด้วย
ไม่เพียงแต่ข่าวเดตเท่านั้น แต่ข่าวบันเทิงอื่นๆ ก็มักถูกมองถึงนัยยะและช่วงเวลาที่ถูกปล่อยออกมาเช่นกัน ซึ่งตัวสำนักข่าวดิสแพตช์เอง ยังออกบทความที่ยิ่งสนับสนุนทฤษฎีนี้เข้าไปอีก จากบทความที่มีชื่อว่า “คุณรู้หรือไม่ ปี 2013?… ข่าวจริง 7 เรื่องที่ฝังอยู่ใน 7 ข่าวบันเทิงยอดนิยม” โดยด้านซ้าย เป็นข่าววงการบันเทิงที่ทางดิสแพตช์ปล่อยออกมา ในขณะที่ข่าวด้านขวามือ คือข่าวการเมือง และสังคมของเกาหลี ที่เป็นข่าวใหญ่ของประเทศ ซึ่งทั้ง 2 ฝั่งมีวันที่ที่ใกล้เคียงกันในการเทียบเคียง แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีคนที่มองว่า หากมองดูวันที่เหล่านั้นดีๆ ก็จะเห็นว่าจริงๆ แล้วข่าวสังคมการเมืองบางข่าวไม่ได้ถูกปล่อย และเริ่มต้นออกมาในวันเหล่านั้น แต่เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว แต่ดิสแพตช์แค่เลือกบางเหตุการณ์ในข่าวนั้นมาเทียบเคียงให้วันที่ดูคล้ายคลึงกัน
นอกจากนี้ เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีสมคบคิดนี้ ในปี 2020 สำนักข่าว newstof ได้ทำสกู๊ปการเทียบเหตุการณ์ทางการเมือง และข่าวในวงการบันเทิง โดยแบ่งช่วงเวลาตั้งแต่ปี 2010-2017 ออกเป็น 4 ช่วง เพื่อเทียบกัน ซึ่งทางสำนักข่าวได้ข้อสรุปว่า เหตุการณ์ข่าวทางการเมืองและเศรษฐกิจของเกาหลี และข่าวบันเทิงนั้นไม่ตรงกันด้วยซ้ำ แต่ newstof มองว่า ยิ่งข่าวดัง และประชาชนแสดงความคิดเห็น ข่าวบันเทิงจึงเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจ และเรื่องราวอย่างการดารานักแสดงเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง อุบัติเหตุ ไปจนถึงเรื่องราวการแต่งงาน และความรักต่างก็เป็นสิ่งที่สื่อคอยรายงานอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่บางครั้งข่าวบันเทิง จะทับซ้อนกับข่าวการเมือง และได้รับความสนใจไปมากกว่า
“ในสถานการณ์เช่นนี้ เมื่อความไม่ไว้วางใจทับซ้อนกันทั่วทั้งสังคม ผู้คนดูเหมือนจะมีแต่ความสงสัยในสิ่งไม่มีมูลความจริงเท่านั้น” สำนักข่าวสรุป
และในท้ายที่สุดไม่ว่าข่าวคู่รักคนบันเทิงจะดึงความสนใจจากประชาชนได้มากขนาดไหน ก็ต้องไม่ลืมว่าจะคนธรรมดาหรือไอดอลนักแสดง ก็ล้วนแต่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น
อ้างอิงจาก
worldmusicwithmp.wordpress.com