ใครว่าเป็นไอดอลต้องสวยๆ ใสๆ เสมอไป เพราะช่วงหลังมานี้เทรนด์ไอดอลสายขบถ ปล่อยพลังดาร์กก็มีให้เห็นอยู่มาก แต่ถ้าพูดถึงผู้บุกเบิกกระแส the dark force ก็คงต้องย้อนไปเมื่อปี 2010 ที่มีวงๆ หนึ่งลุกขึ้นมากวนประสาทคนทั้งวงการ ด้วยลุคที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนภายใต้ใบหน้าใสๆ จิ้มลิ้มเหล่านั้น
วงที่กำลังพูดถึงนี้ชื่อว่า Brand New Idol Society (เรียกสั้นๆ คือ BiS) เริ่มต้นจากการเป็นไอดอลใต้ดิน ทำวงกันอิสระ ไม่ได้มีค่ายเพลงใหญ่มาสนับสนุน ซึ่งช่วงแรกๆ มีคนรู้จักแค่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น เข้าใจว่าไลฟ์ครั้งแรกๆ มีคนดูแค่ไม่ถึง 50 คนด้วยซ้ำ คือถ้าดูจากต้นทุนแล้วคงไม่น่าไปรอด เหมือนเขาสร้างวงมาให้สนุกพอประมาณ ได้ที่แล้วก็คงแยกย้ายไปทำงานทำการกันต่อ แต่แล้วกลับไม่ใช่อย่างนั้น
สิ่งที่ทำให้ BiS เริ่มถูกพูดถึงก็คือภาพลักษณ์แบบเลวๆ ต่างจากไอดอลกระแสหลักที่ต้องดูไร้เดียงสา ขณะที่ BiS เลือกขายสไตล์ห่ามๆ ผ่านเอ็มวีเพลง My Ixxx ที่ให้สาวๆ แก้ผ้าวิ่งรอบป่า จนมีคนไม่น้อยที่ชื่นชมในความกล้า แต่คนที่ด่าน่าจะมีเยอะกว่าหลายเท่า
(แต่อย่างไรก็ตามตัวเพลงมันดีมากๆ ลองไปดูไปฟังกัน)
ไม่ใช่แค่เอ็มวีฉาวๆ เท่านั้น เพราะที่ทำให้ BiS ขายได้ติดตลาดคือคาแรคเตอร์ของวงที่ประกาศว่าเป็น Anti-idol ถ้าจะพูดให้ชัดคือเป็นไอดอลที่แอนตี้ไอดอลกระแสหลักอีกที อะไรที่พวกกระแสหลัก (ลองนึกภาพ AKB48 ) ชอบทำ BiS จะไม่ทำ หรือถ้าจะทำก็จะเอามันมาแซะแล้วพูดว่าภาพลักษณ์ใสๆ แบ๊วๆ ที่พวกนายเห็นน่ะ มันก็แค่เปลือกเท่านั้น! พร้อมเสนอทางเลือกว่า ทำไมพวกนายมาเสพความสนุกแบบเรียลๆ ไม่เฟคกันดูล่ะ?
BiS ทำเรื่องห่ามๆ ไว้เยอะทีเดียว เพื่อจะย้ำว่าตัวเองไม่เอาด้วยกับกระแสหลัก ทั้งสูบบุหรี่ กินเหล้า ชูนิ้วกลาง พูดคำหยาบ กระทั่งกระโดดใส่ฝูงคนดูอย่างกับคอนเสิร์ตเพลงร็อกก็ทำกันบ่อยๆ จนคนติดภาพและหลงรักคาแรกเตอร์แบบนี้กันไปแล้ว
ตัวเพลงที่ทำกันมาก็ออกแนววิพากษ์สังคม จนไม่รู้ว่านี่มันวงไอดอลหรือวงร็อกเมทัลกันแน่ อย่างเช่นเพลง Die ก็เล่าถึงปัญหาผู้หญิงที่ถูก “บังคับ” ใช้ร่างกายเป็นเครื่องมือเพื่อประสบความสำเร็จ ในเนื้อเพลงเปรียบเทียบชะตากรรมของผู้หญิงที่ถูกขังในกรงมืด และรายล้อมด้วยสายตาของผู้คนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทางด้าน Primal.2 ก็มีคนตีความว่า ต้องการด่าไอดอลด้วยกันเอง โดยเปรียบว่าอาชีพการเป็นไอดอลของวัยรุ่นผู้หญิงก็เหมือนกับ ‘บางอาชีพ’ ที่จำเป็นต้องใช้ร่างกายเข้าแลกเพื่อทำตามความฝัน และต้องบอกว่าเอ็มวีโคตรแรง ลองคลิกที่ลิ้งค์เข้าไปพิสูจน์กันได้
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือสิ่งที่ทำให้ BiS เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง และช่วยให้มีแฟนคลับเพิ่มขึ้นแบบมหาศาลขนาดที่วงเองก็ไม่ทันตั้งตัว จากวงอินดี้ใต้ดินกลายเป็นวงที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง AVEX
คุณูปการของ BiS ไม่ได้มีแค่วิพากษ์วิจารณ์ค่านิยมกระแสหลักเท่านั้น เพราะยังเป็นผู้บุกเบิกวัฒนธรรมใหม่ๆ ให้กับวงการเพลงไอดอลญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเชียร์ไอดอลแบบโหดๆ เกรียนๆ หรือที่ในวงการเรียกว่า ‘พินจิเกะ’ มีการเอาการเชียร์แบบใน Moshpit รวมถึงการต่อตัว (Lift) อย่างในคอนเสิร์ตร็อกมาใช้กับไอดอล พูดให้ถึงที่สุดได้ว่า BiS ได้สลายเส้นแบ่งของความเป็นไอดอลกับวงดนตรีประเภทอื่นได้อย่างน่าสนใจทีเดียว
วงนี้เคยไปถึงจุดสุดยอดในระดับที่สามารถขึ้นคอนเสิร์ตที่ Nippon Budokan ได้เลย (อารมณ์เหมือนอิมแพคฯ บ้านเรา) แต่ลือกันว่าเจ้าของสถานที่เปลี่ยนใจเพราะกลัวแฟนคลับไปอาละวาดในนั้น อย่างไรก็ตาม พวกเธอได้ได้ขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Yokohama Arena ซึ่งก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน และนั่นก็เป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายก่อนที่จะยุบวงกันไปเมื่อปี 2014
หลังจากนั้นสมาชิกของ BiS ได้แยกย้ายไปทำวงไอดอลของตัวเองหลายวง ปรากฏการณ์นี้ยิ่งทำให้ไอดอลสายห่ามๆ โหดๆ ต่อต้านกระแสหลักยิ่งกระจายไปทั่ววงการมากขึ้นอีก ถ้าจะพูดแบบเว่อร์หน่อยก็คือ Brand New Idol Society หรือโฉมใหม่ของวงการไอดอล มันกำลังเกิดขึ้นจริงๆ เหมือนชื่อของวงนั่นเอง
จนถึงวันนี้ BiS ก็จะยังถูกพูดถึงว่าเป็นหนึ่งในตำนานของไอดอลญี่ปุ่นเสมอ ล่าสุดก็เพิ่งกลับมาทำวงกันใหม่เมื่อปีที่แล้วพร้อมกับสมาชิกหน้าใหม่ๆ ถึงแม้ว่า BiS ในยุคใหม่นี้พลังจะไม่เท่าเก่า เพราะมีวงรุ่นน้องที่โหดกว่า (ซึ่งก็ได้อิทธิพลมาจาก BiS นี่แหละ) ขึ้นมาครองเก้าอี้เบอร์หนึ่งไปแล้ว แต่ BiS ในยุคใหม่ก็กำลังไปได้สวยและยังคงสร้างปรากฏการณ์ที่สมความเป็นญี่ปุ่นอยู่เหมือนเคย
Text by Thanyawat Ipoodom
cover photo by facebook.com/pg/BiSidol