แก่กว่าหลายปีแล้วไง ไม่หลายใจแล้วกัน!
รักครั้งแรกของใครหลายคนเกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน บางครั้งก็แอบชอบรุ่นพี่ บางทีก็ตกหลุมรักรุ่นน้อง หรือวันดีคืนดีเรากับเพื่อนร่วมชั้นก็ปิ๊งกันเองซะงั้น
ความสัมพันธ์แบบป๊อปปี้เลิฟในวันวาน คือความทรงจำอันสวยงามที่แม้เรากับเขาจะไม่ได้คบกันยาวนาน แต่ครั้งหนึ่งก็เคยได้ทำอะไรสนุกๆ ร่วมกัน และอันที่จริงอุปนิสัยอย่างหนึ่งที่เราเผลอเก็บติดตัวมาจนถึงวัยทำงาน ก็คือการตามหาใครสักคนในวัยไล่เลี่ยกันมาเป็นเพื่อนคู่คิด
เมื่อก่อนอาจเป็นเพียงรักในวัยเด็ก แต่วันนี้ปรับเปลี่ยนสู่รูปแบบความสัมพันธ์ที่จริงจังและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทว่าสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปคือ เรายังคงมองหาคนที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน พี่ที่รู้จักกัน หรือน้องคนนั้นที่รู้จักสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ฯลฯ
อย่างไรก็ดี บางคนกลับมีความรู้สึกหวั่นไหวให้กับคนที่มีช่วงวัยห่างจากตัวเอง เป็นรสนิยมความชอบอีกแบบหนึ่งต่อผู้ที่อายุเยอะกว่ามาก หรือเด็กกว่าอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้เป็นเรื่องปกติและเป็นหนึ่งในธรรมชาติของความรัก แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจมากนักว่า ทำไมบางคนจึงมีรักต่างวัย
The MATTER จะพาทุกคนไปหาคำตอบที่บทความนี้ !
แม้ต่างวัยแต่หัวใจไม่ห่างกัน
สถิติจากเว็บไซต์ psycom ระบุว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา คู่รักชายหญิงจะมีอายุห่างกันโดยเฉลี่ย 2.3 ปี และมีคู่รักเพียง 8% เท่านั้นที่อายุห่างกัน 10 ปีขึ้นไป พูดง่ายๆ คือในบรรดาคนที่เรารู้จักทุกๆ 10 คน จะมีคู่รักที่เกิดช้ากว่ากันเกินทศวรรษไม่ถึงหนึ่งคนด้วยซ้ำ นั่นจึงเป็นที่น่าสนใจว่าคนกลุ่มนี้มีวิธีคิดอย่างไร แล้วความแตกต่างของตัวเลขปีเกิดส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาอย่างไรบ้าง
คู่รักต่างวัยถูกนิยามในภาษาอังกฤษว่า ‘May-December Relationship’ หรือ ‘May-December Romance’ ซึ่งเปรียบเปรยคนหนึ่งในความสัมพันธ์เป็นเดือนพฤษภาคม (ฤดูใบไม้ผลิ) ของช่วงชีวิต หรือก็คือขวบปีที่ทุกๆ อย่างกำลังเบ่งบาน เป็นกาลเวลาแห่งความเยาว์วัย ขณะที่อีกคนก็เทียบได้กับมนุษย์ในเดือนธันวาคม (ฤดูหนาว) ของเส้นทางชีวิต กล่าวคือเป็นช่วงวัยที่เริ่มโรยรา บรรยากาศต่างๆ ในชีวิตเริ่มสงบเงียบ
นักจิตวิทยาสังคมได้พยายามจำกัดความ May-December Relationship ไว้ว่า เป็นความสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอายุห่างจากอีกฝ่ายอย่างน้อย 10 ปี หรืออาจมากได้ถึง 20 หรือ 30 ปีเลยทีเดียว โดยหากมองจากภาพกว้าง เราคงสำรวจความรักระหว่างคนต่างวัยได้จาก 2 มุม นั่นคือฝ่ายที่ชื่นชอบผู้ที่มีอายุมากกว่า และฝ่ายที่ชอบพอคนอายุน้อยกว่า ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องมีความต้องการที่สอดคล้องกัน เพราะหากชายหนุ่มคนหนึ่งตกหลุมรักหญิงสาวที่สูงอายุกว่าตน แต่ฝ่ายหญิงไม่ได้สนใจด้วย ความสัมพันธ์ก็คงไม่เริ่มขึ้น
จากการศึกษาค้นคว้าเป็นระยะเวลานานพบว่า ทั้งฝั่งที่แอบรักคนอายุมากกว่า และฝั่งที่ชอบคนที่เด็กกว่า ต่างก็มีข้อมูลเชิงจิตวิทยารองรับทั้งคู่ และเมื่อลองอ่านดูเราก็ได้เข้าใจเขาและเธอมากกว่าที่เคย
1. เมื่อฉันรักคนที่แก่กว่าตัวเองเป็นสิบปี
- ประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า
หลายคนอาจนิยมชมชอบคู่ชีวิตที่พร้อมจะผ่านร้อนผ่านหนาว เผชิญความผิดพลาดไปด้วยกัน แต่บางคนไม่ต้องการประสบพบเจอความผิดพลาดเหล่านั้น ซึ่งการคบหาดูใจกับผู้ใหญ่ที่โตกว่าตัวเองมากๆ อาจช่วยหลบเลี่ยงอุปสรรคบางอย่าง เพราะแฟนเราผ่านเรื่องนั้นมาก่อน จึงสามารถให้คำปรึกษาปัญหาต่างๆ ได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที เขารู้ดีว่าควรเก็บเงินอย่างไร ควรดูแลสุขภาพแบบไหน และสิ่งนั้นช่วยให้ชีวิตของเราง่ายกว่าการคบกับคนที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน
นอกจากนี้ อายุและประสบการณ์ที่มากขึ้นก็ย่อมนำมาซึ่งความมั่นใจในการพูดและลงมือทำ สิ่งนั้นเอื้อให้คนรอบข้าง รวมถึงคนที่อายุน้อยกว่ามากๆ มองว่าบุคคลนี้มีเสน่ห์ น่าคบ น่าคุย เขาดูแนะนำเราได้ทุกเรื่อง หากเกิดอะไรขึ้น เธอน่าจะดูแลเราได้ เรียกได้ว่าเป็นความประทับใจแรกของฝ่ายที่มีอายุน้อยกว่าจะเริ่มมีใจให้อีกคน
- ชีวิตมีเสถียรภาพและความมั่นคง
ความมั่นคงโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการเงิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต แม้บางคนจะมองว่า เราไม่ควรพิจารณาเลือกคู่ครองจากเงินในกระเป๋าของอีกฝ่าย แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็นนี้สำคัญไม่น้อยต่อการประคับประคองความสัมพันธ์ในระยะยาว แต่ก็ใช่ว่าเราจะเลือกเขาหรือเธอ เพียงเพราะปัจจัยนี้เพียงอย่างเดียวเสียหน่อย
ข้อมูลจาก U.S. News เผยว่าประชากรสหรัฐฯ ที่มีความมั่นคงทางการเงินต่ำสุด คือผู้ที่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25-34 ปี มีความมั่นคงคิดเป็น 56% ในขณะที่บุคคลที่มีอายุ 55-64 ปี และ 65-74 ปี จะมีความมั่นคงทางการเงินสูงถึง 68% และ 69% ตามลำดับ โดยข้อมูลดังกล่าวประเมินจาก 9 ตัวชี้วัดทางการเงิน รวมถึงเงินสำรองฉุกเฉิน ทรัพย์สิน เงินประกันชีวิต ฯลฯ ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ชี้ว่าบุคคลที่มีอายุมากกว่า ‘มีแนวโน้ม’ จะมีความมั่นคงในชีวิตมากกว่า และความมั่นคงนี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงเรื่องการเงิน แต่ยังเป็นด้านอื่นๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง มีแผนในอนาคตชัดเจน คิดถึงเรื่องการมีหรือไม่มีทายาท ตลอดจนความมั่นคงในเรื่องความรักด้วย
ในช่วงอายุต้น 20 ปี หลายคนอาจไม่ตั้งใจจะมีความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่ว่าเขาและเธอไม่จริงจัง แต่เป็นเพราะนั่นคือวัยแห่งการเรียนรู้และการหาประสบการณ์ชีวิต อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์ตอนนี้เราอายุกว่า 25 ปี แล้วเลือกคบกับอีกฝ่ายที่มีอายุกว่า 40 ปี สิ่งหนึ่งที่เราพอจะแน่ใจได้อาจจะเป็นว่า เขาไม่น่าจะแค่คบเราเอาสนุก หากแต่อยู่ในจังหวะเวลาที่มองหาความสัมพันธ์ที่จริงจัง และนั่นเองอาจเป็นความมั่นคงแน่นอนที่หลายคนตามหา
2. เมื่อเราชอบคนที่เด็กกว่าตัวเอง
- ทำให้รู้สึกมั่นใจ ถูกให้การยอมรับ
หากคบคนในวัยใกล้เคียงกันหรือโตกว่า บางคนอาจจะรู้สึกขาดความมั่นใจ เพราะคิดว่าตัวเองถูกตัดสินหรือจ้องจับผิด ทั้งที่อีกฝ่ายอาจไม่มีเจตนาแบบนั้น ทว่าการคบกับคนที่เด็กกว่าหลายสิบปีอาจช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เพราะเชื่ออยู่ลึกๆ ว่าเรารู้มากกว่า มีประสบการณ์มากกว่า ทำให้มองเห็นคุณค่าของตัวเอง รู้สึกได้รับการชื่นชม นำไปสู่การใช้ชีวิตที่เป็นสุข หรือต่อให้เราจะไม่เคยมั่นใจในตัวเองมาก่อน แต่ May-December Relationship ก็จะช่วยให้เรามีความเชื่อมั่นผ่านการผลักดันว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที
ไรอัน เรย์โนลด์ส (Ryan Reynolds) นักแสดงชื่อดังผู้รับบทเดดพูล เคยให้สัมภาษณ์ถึงเบลค ไลฟ์ลีย์ (Blake Lively) ภรรยาที่อายุน้อยกว่าตัวเอง 11 ปี โดยมีใจความว่า เขาไม่ใช่คนที่จะจริงจังกับชีวิตของตัวเอง มันจึงย้อนแย้งมากเมื่อเขาได้รับรางวัลที่ดูทรงเกียรติขนาดนี้ ซึ่งเขาก็ต้องขอบคุณภรรยาที่ช่วยผลักดันเขามาโดยตลอด
“ผมใช้เวลามากมายไปกับเพื่อนร่วมงานที่ผมรักที่สุด ภรรยาของผม เบลค คุณคือ ‘Ghostwriter’ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด คุณเขียนเรื่องของผมมาจนถึงจุดนี้”
ถ้าหากมองให้ลึกลงไปกว่านั้น สำหรับบางคนการมีแฟนที่เด็กกว่ามากๆ ก็ช่วยทำให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ ทั้งในมุมที่ว่าเรายังมีคุณค่าในสายตาของคนอายุน้อย หรือในบางกรณีคนรอบข้างอาจจะรู้สึกอิจฉาที่เราสามารถหาแฟนที่เด็กกว่าได้ ซึ่งบทความภาษาอังกฤษถึงกับใช้คำว่า ‘It Gives Them An Ego Boost’ หรือ ‘มันทำให้พวกเขารู้สึกมีอีโก้เพิ่มขึ้น’ เลยทีเดียว
- ปลดปล่อยวัยหนุ่มสาว
มีคำกล่าวว่า ทุกคนมีวัยเด็กซุกซ่อนอยู่ในตัวเองเสมอ ซึ่งการออกเดตกับคนที่เด็กกว่ามากๆ ก็อาจเป็นการชุบชีวิตเด็กคนนั้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง บางคนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นคนสนุกสนานแค่ไหน ยินดีทำเรื่องบ้าๆ ได้โดยที่ไม่คิดอะไร และคนคุยที่เด็กกว่ามากนี้เองจะพาเรากลับไปวัยนั้น ทั้งจากหัวข้อที่คุย เพื่อนของเขา วิถีชีวิตที่อาจไม่ต้องคิดหน้าคิดหลังมากนัก หรือสุดเหวี่ยงได้เต็มที่ บางทีอะไรเหล่านี้แหละที่เราอาจคิดถึงอยู่ แต่ไม่เคยรู้ตัว
- ช่วยให้รับมือวิกฤตวัยกลางคนได้ดีขึ้น
มนุษย์ในวัย 40 ปลายๆ และ 50 ต้นๆ มีความเสี่ยงต่ออาการเหนื่อยล้าสะสมมากกว่าในวัยหนุ่มสาว ซึ่งก็อาจเป็นผลมาจากปัญหาสุขภาพ อุปสรรคในอาชีพการทำงาน ตลอดจนการหย่าร้าง แน่นอนว่าพวกเขาไม่ต้องการเผชิญกับเหตุการณ์เหล่านี้โดยลำพัง แถมบางครั้งยังรู้สึกว่าแค่เจอคนเดียวก็หนักหนาพออยู่แล้ว ถ้าต้องรับฟังปัญหานี้ของคู่ชีวิตอีกคงไม่ไหวแน่ๆ
ปัญหานี้แทบจะไม่เกิดขึ้นกับ May-December Relationship เพราะคนที่อายุน้อยมักจะมาพร้อมทัศนคติอันสดใส และการมองโลกในแง่ดี ในความคิดของเขาหรือเธอยังไม่มีอุปสรรคไหนที่ใหญ่เกินไป ยังไม่มีความล้มเหลวใดที่สายเกินแก้ พวกเขาพร้อมจะให้กำลังใจมากกว่าวิพากษ์วิจารณ์ นั่นทำให้วิกฤตวัยกลางคนของใครหลายคนทุเลาลง และมีความสุขง่ายขึ้น
นอกจากความเป็นไปได้ข้างต้น จริงๆ ก็ต้องบอกว่ายังมีเหตุผลและปัจจัยอีกมากที่ทำให้ใครสักคนคบแฟนต่างวัย ทั้งรูปแบบการเลี้ยงดูของครอบครัว สภาพสังคม หรืออิทธิพลของสื่อ ล้วนส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
จริงอยู่ที่ความรักคือสิ่งสวยงาม และไม่อาจถูกตีกรอบด้วยช่วงวัย แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อยากย้ำอีก (หลายๆ) ครั้งว่า ความรักระหว่างผู้ใหญ่กับผู้เยาว์ในเชิงชู้สาว (Child Grooming) เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะมันอาจนำไปสู่การพรากผู้เยาว์ (Child Abduction) อันไม่เหมาะสม และผู้กระทำผิดก็สมควรถูกลงโทษ
แม้ว่าการอยู่ในความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งมีอายุมากกว่าหลายปีจะไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่เราอยากให้ทุกคนสำรวจตัวเองให้แน่ใจว่า เราไม่ได้กำลังถูกกดทับด้วยความต่างของอายุ (Power Dynamic) จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างที่ตัวเองต้องการ ถ้าใครกำลังเผชิญหน้าสิ่งนี้อยู่ เราอยากให้ลองขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เพื่อจะได้รีบก้าวออกมาจากความสัมพันธ์นี้ให้เร็วที่สุด
เคล็ดลับดูแลรักต่างวัย
ความไม่สอดคล้องของอายุนำมาซึ่งรูปแบบการเลี้ยงดูที่แตกต่าง และความคิดความเชื่อที่อาจจะสวนทางกันในบางเรื่อง ดังนั้นการทะนุถนอมความสัมพันธ์อันหวานซึ้ง แต่มีช่องว่างของอายุ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากกว่าคู่รักทั่วไป และนี่คือเทคนิคง่ายๆ ที่อาจจะช่วยให้ผู้ที่มีรักต่างวัยทุกคนคบกันได้อย่างยืนยาว
- คิดถึงใจอีกฝ่าย – ระลึกอยู่เสมอว่าเรามีช่วงวัยแตกต่างกันพอสมควร คนที่อายุมากกว่าไม่ควรแสดงพฤติกรรมที่อาจทำให้คนอายุน้อยกว่า รู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถ ในขณะเดียวกัน คนที่อายุน้อยกว่าก็ไม่ควรพูด หรือแสดงออกให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าเขาตามโลกไม่ทัน ล้าหลัง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ใจความสำคัญคือ การสื่อสารกันอย่างเข้าใจ คิดก่อนพูด และคิดถึงใจอีกฝ่ายให้มากๆ
- เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเอง – ช่วงวัยที่ห่างย่อมทำให้บริบทในชีวิตของทั้งคู่แตกต่างกัน ทั้งหน้าที่การงาน กลุ่มเพื่อน หรือความสนใจ อาจไม่เหมือนกันในหลายแง่มุม ดังนั้นเราควรจะพึ่งพาตัวเองได้ และอย่าคาดหวังหรือกดดันให้อีกฝ่ายช่วยเติมเต็มเราไปทุกเรื่อง
ไม่ว่าเราจะรักใคร เพศไหน หรือวัยใด ท้ายที่สุดหัวใจอันบริสุทธิ์ของทุกความรัก ก็คือการเข้าใจและการยอมรับ
เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคู่พูดคุยกันให้มากๆ ในกรอบของความซื่อสัตย์และเห็นอกเห็นใจ เป็นกำลังใจให้รักต่างวัยทุกคู่ และผู้ที่กำลังมีความรักทุกคนนะ
อ้างอิงจาก