นอกจากอากาศที่ร้อนมากขึ้นทุกวัน ก็มีหลายพื้นที่ในโลกนี้แหละ ที่ดูจะร้อนแรงไม่แพ้กัน กับสถานการณ์เดือดทั้งจากสงครามกลางเมือง การก่อการร้าย และความไม่สงบที่ออกข่าวมาให้เราเห็นกันอยู่ทุกวัน
The MATTER ได้รวบรวม 10 พื้นที่ระอุ ที่กำลังเต็มไปด้วยความขัดแย้ง และความรุนแรงจากทั่วทุกมุมโลกมาให้ได้ติดตามกัน
ซีเรีย
ซีเรียคงเป็นที่คุ้นหู คุ้นตาเรามาตลอดจากภาพข่าวสงครามและความโหดร้ายที่มีมาให้เราเห็นกันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสงครามนี้ก็ยังคงไม่จบง่ายๆ และมีท่าทีว่าจะยึดเยื้อต่อไป ในเดือนเมษาที่ผ่านมา เมือง Khan Sheikhoun ที่อยู่ในการปกครองของกลุ่มกบฎชาวเคิร์ดได้ถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมีรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 70 ราย ถือเป็นความโหดร้ายที่ทั่วโลกต่างรุมประณาม ถึงแม้ว่าล่าสุด ปธน.ทรัมป์ของสหรัฐฯ และปธน. ปูตินของรัสเซีย จะเซ็นข้อตกลุงหยุดยิงในการประชุม G20 ครั้งล่าสุด แต่ที่ผ่านมาข้อตกลงนี้ก็มักถูกละเมิดและไม่ได้นำสู่การยุติสงครามในระยะยาวได้
อิรัก
อิรักเป็นประเทศที่เราเห็นภาพสงครามรุนแรงต่อเนื่อง จากกลุ่มก่อการร้าย ISIS ที่มักโจมตี เข้ายึดเมืองต่างๆ เพื่อหวังสร้างรัฐอิสลามของตัวเอง ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายกฯ ของอิรัก ก็ได้ประกาศชัยชนะ ยึดเมืองโมซุลที่ถูกกลุ่ม ISIS ครองถึง 3 ปีได้สำเร็จ หลังสู้รบมากว่า 9 เดือน แต่ถึงจะยึดโมซุลคืนมาได้แล้ว ISIS ก็ยังคงมีฐานที่มั่นอยู่ในหลายเมืองของอิรัก และยังคงมีศักยภาพในการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในหลายพื้นที่
อิสราเอล-ปาเลสไตน์
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่งครบรอบ 50 ปี ชัยชนะของอิสราเอลในสงครามปี 1967 ที่สามารถเอาชนะปาเลสไตน์และได้ฉนวนกาซ่า เขตเวสต์แบงก์ และนครเยรูซาเล็มมาอยู่ในปกครอง แต่พื้นที่นี้ก็ยังคงเป็นข้อพิพาทของสองประเทศ และยังมีเหตุรุนแรงประทะกันอยู่เรื่อยๆ นอกจากการปะทะกันระหว่างรัฐแล้ว ตัวประชาชนของทั้งสองประเทศเองก็โจมตีกันอยู่ตลอด ไม่ว่าจะลักพาตัว ฆาตรกรรม หรือตำรวจที่มักใช้อำนาจกลั่นแกล้งประชาชนของอีกฝ่ายด้วย
ตุรกี
ตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่ข่าวก่อการร้ายเกิดขึ้นมากที่สุด ทั้งระเบิดฆ่าตัวตาย การยิงกราด จากกลุ่มก่อการร้าย ISIS และกลุ่มชาวเคิร์ด ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2016 ถึงปัจจุบัน มีผู้เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายทั้งหมดเกือบ 500 ราย และบาดเจ็บกว่า 2,500 รายเลยทีเดียว ทั้งในเดือนนี้ ยังมีการประท้วงขับไล่ปธน.เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ในกรุงอิสตัลบูล เมืองหลวงของประเทศอย่างดุเดือดด้วย
เวเนซูเอลา
เวเนซูเอลาเพิ่งครบรอบ 100 วันการประท้วงรัฐบาลไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก็ยังคงความดุเดือดผสานความไม่ย่อท้อของเหล่าประชาชนผู้ประท้วง ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนกว่าที่ผ่านมามีฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเสียชีวิตไป
แล้วเกือบ 100 ราย และบาดเจ็บกว่า 1,300 คนแล้วด้วย การประท้วงมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไป เพราะฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่ยอมแพ้ หรือมีทีท่าว่าจะยอมลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน
บราซิล
อีกหนึ่งประเทศในแถบลาตินที่เห็นการประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง กับการเดินขบวน ต่อต้าน เรียกร้องของประชาชนหลายหมื่น ในหลายเมือง ที่ต้องการให้ปธน.ลาออก และต้องการการเลือกตั้งใหม่ จนกลายเป็นเหตุความรุนแรงปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทั้งการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และระเบิดยาสลบ
ซูดานใต้
แม้ซูดานใต้จะพึ่งได้รับการรับรองเป็นประเทศน้องใหม่ในปี 2012 แต่ความรุนแรงและการต่อสู้ในประเทศนี้กลับลากยาวต่อเนื่องมาเกือบ 4 ปีแล้ว กับสงครามกลางเมืองจากการแก่งแย่งอำนาจกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ทั้งยังมีเรื่องของชาติพันธุ์เข้ามาเกี่ยวด้วย มีผู้เสียชีวิตจากสงครามนี้กว่า 100,000 คน และยังมีประชาชนอีกนับล้านที่อพยพและกลายเป็นผู้พลัดถิ่นด้วย
คาบสมุทรเกาหลี
ปีนี้ คาบสมุทรเกาหลีดูจะร้อนแรงเป็นพิเศษ จากความตึงเครียดและการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ที่สร้างความหวาดผวาให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน และรวมถึงประเทศมหาอำนาจคู่อริอย่างสหรัฐฯ โดยแค่ในปีนี้ ท่านคิมจองอึนก็ได้ทำการทดลองอาวุธไปแล้วถึง 11 ครั้ง และครั้งล่าสุดยังประกาศว่าสามารถทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปสำเร็จแล้วด้วย ยิ่งสร้างความกังวลและการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศอื่นๆ ในการตอบโต้ความดุเดือดของเกาหลีเหนือในอนาคตด้วย
ฟิลิปปินส์
เป็นเวลาเดือนกว่าๆ แล้วที่เมืองมาราวี บนเกาะมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ถูกกลุ่มก่อการร้าย Maute ที่ได้รับการช่วยเหลือจาก ISIS เข้ายึดครอง และอยู่ท่ามกลางการประกาศกฎอัยการศึกของปธน. ซึ่งจากรายงานข่าวล่าสุด มีทหารฟิลิปปินส์กว่า 60 นายที่ถูกสังหาร (ไม่รวมประชาชนและฝ่ายก่อการร้าย) รวมถึงประชาชนกว่า 350,000 คนที่อพยพออกจากเมืองนี้แล้ว
ไทย
มาถึงประเทศสุดท้ายกับบ้านเรา จากเหตุความไม่สงบในปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ที่ยืดเยื้อและยังไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งมาตั้งแต่ปี 2004 และในปีนี้ก็ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องทั้ง โดยเฉพาะเหตุระเบิดในหลายจุด ตลอด 13 ปีของความไม่สงบนี้ มีประชาชนเสียชีวิตแล้วจำนวนมาก
อ้างอิง
Illustration by Namsai Supavong