อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เคยกล่าวถึงสถานการณ์วัคซีน COVID-19 ว่า เรื่องจำนวนวัคซีนมีพอที่จะฉีดได้ตามแผน คนไทยแค่ต้อง ‘รอ’ ให้วัคซีนมาถึงเท่านั้น
แต่คำถามก็คือ ..รอแล้วได้อะไร?
หากฟังคำแถลงๆ หลายครั้งในช่วงหลัง อาจทำให้เรารู้สึกว่า เรามีวัคซีนมากขึ้นแล้วนะ
แต่ถ้าลองเช็กข้อมูลดู ก็จะพบว่า จนถึงขณะนี้ เรายังมีวัคซีนที่ภาครัฐจะซื้อมาฉีดฟรีให้กับประชาชน ‘ที่ยืนยันแล้ว’ เพียง 2 ยี่ห้อ คือ Sinovac (3.5 ล้านโดส) กับ AstraZeneca (61 ล้านโดส)
ส่วนทั้ง Pfizer กับ Sputnik V ยังอยู่ระหว่างเจรจาขอซื้อ เจ้าละ 5-10 ล้านโดส
1. วัคซีน Sinovac จากจีน จัดซื้อแล้ว 3.5 ล้านโดส
- ส่งมอบ ก.พ.2564 – 200,000 โดส
- ส่งมอบ มี.ค.2564 – 800,000 โดส
- ส่งมอบ เม.ย.2564 – 1,500,000 โดส
- ส่งมอบ พ.ค.2564 – 1,000,000 โดส
2. วัคซีน AstraZeneca จากอังกฤษ (แต่จะผลิตโดยโรงงานในไทย) จัดซื้อแล้ว 61 ล้านโดส
- ส่งมอบ ก.พ.2564 – 117,600 โดส
- ส่งมอบ มี.ค.2564 – (ไม่มี)
- ส่งมอบ เม.ย.2564 – (ไม่มี)
- ส่งมอบ พ.ค.2564 – (ไม่มี)
- ส่งมอบ มิ.ย.2564 – 6,000,000 โดส
- ส่งมอบ ก.ค.2564 – 10,000,000 โดส
- ส่งมอบ ส.ค.2564 – 10,000,000 โดส
- ส่งมอบ ก.ย.2564 – 10,000,000 โดส
- ส่งมอบ ต.ค.2564 – 10,000,000 โดส
- ส่งมอบ พ.ย.2564 – 10,000,000 โดส
- ส่งมอบ ธ.ค.2564 – ที่เหลือให้ครบ 61 ล้านโดส
3. วัคซีนจาก Pfizer ของสหรัฐฯ และ Sputnik V ของรัสเซีย
ข้อมูลจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงอนุทิน ระบุเพียงว่ายังอยู่ในขั้นตอนขอเจรจาจัดซื้อยี่ห้อละ 5-10 ล้านโดส โดยยังไม่ชัดเจนเรื่องเวลาส่งมอบ
หากไล่ไทม์ไลน์ดูดีๆ จะพบว่า ในบางช่วงเวลา เรามีวัคซีนให้ฉีด ‘แค่ยี่ห้อเดียว’ เท่านั้น เช่น ระหว่างตอนนี้ – สิ้นเดือน พ.ค.2564 วัคซีนเกิน 95% ที่ฉีดจะเป็น Sinovac และหลังเดือน มิ.ย.2564 จนอาจไปถึงสิ้นปี (ถ้าเจรจาซื้อวัคซีนจาก Pfizer และ Sputnik V ไม่สำเร็จ หรือส่งมอบล่าช้า) วัคซีนที่คนไทยส่วนใหญ่จะได้ฉีด ก็คือ AstraZeneca
หากวัคซีนคือความหวังในการยุติวิกฤตโรคระบาดครั้งใหญ่นี้ เพื่อที่ทุกคนจะได้กลับไปใช้ชีวิตปกติ และจะได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเข้าที่เข้าทาง
การหวังพึ่งวัคซีน COVID-19 ไม่กี่ยี่ห้อ ก็อาจมีความเสี่ยงอยู่ไม่น้อย