เมื่อพูดชื่อศิลปินทั้ง 7 คนนี้ เชื่อว่าทุกคนต้องนึกภาพผลงานชิ้นเอกของพวกเขาออกอย่างแน่นอน แต่คงเป็นเรื่องยากหากให้นึกถึงที่อยู่อาศัยหรือสตูดิโอของพวกเขา ซึ่งจริงๆ แล้วน่าสนใจมาก เพราะบ้านหลายหลังมีอิทธิพลต่องานที่พวกเขาสรรสร้าง และบางหลังเป็นต้นแบบให้กับผลงานมาสเตอร์พีซของพวกเขาด้วยซ้ำไป เราจึงอยากเชิญชวนคุณผู้อ่านไปเยี่ยมชมบ้านของศิลปินระดับบรมครูทั้ง 7 คนนี้พร้อมๆ กัน
1. Musée Rodin / ปารีส ฝรั่งเศส
ในปี 1895 ประติมากรเลื่องชื่อ Auguste Rodin (ออกุสต์ รอแด็ง) ซื้อ Villa des Brillants คฤหาสน์ในย่าน Meudon (มูดง) ชานเมืองปารีส แม้รอแด็งจะเดินทางไปทำงานที่สตูดิโอใจกลางเมืองทุกวัน แต่ผลงานชิ้นสำคัญที่สุดของเขาถูกสรรสร้างขึ้นที่บ้านหลังนี้ซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยคนงาน ช่างฝีมือ และผู้ช่วยรวมกว่า 50 คน รวมทั้งเป็นศูนย์กลางที่ผองเพื่อน ผู้อุปถัมภ์ นางแบบ นายแบบ ไปจนถึงเซเล็บทั้งในและนอกประเทศฝรั่งเศสเดินทางมาพบปะสังสรรค์กันด้วย
ปัจจุบัน Villa des Brillants ได้ชื่อใหม่ว่า Musée Rodin และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 13.00-18.00 น. นอกจากจะได้เห็นต้นแบบปูนปลาสเตอร์ของผลงานระดับตำนานอย่าง The Gates of Hell และ The Burghers of Calais ภายในสวนด้านนอกยังมีรูปหล่อ The Thinker ให้เราได้ไปพินิจพิเคราะห์ดูอีกด้วย
2. Museum Het Rembrandthuis / อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
ในช่วงที่เขาโด่งดังจนถึงขีดสุด ศิลปินผู้นำเนเธอร์แลนด์เข้าสู่ยุคทองทางศิลปะ Rembrandt Harmenszoon van Rijn (แร็มบรันต์ ฮาร์เมินส์โซน ฟัน ไรน์) ซื้อบ้านหลังใหญ่ในย่าน Sint Antoniesbreestraat ของอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเหล่าชนชั้นสูงและศิลปินชื่อดัง เขาอาศัยอยู่ที่นั่นนานกว่า 20 ปี ทั้งเรื่องดีที่สุดและร้ายที่สุดในชีวิตของแร็มบรันต์เกิดขึ้นหลังบานประตูสีเขียวของบ้านหลังนี้-เขาเขียนภาพ The Night Watch ที่นี่ ลูกชายคนเดียวของเขาที่รอดชีวิตไปถึงวัยผู้ใหญ่ถือกำเนิดที่นี่ และภรรยาของเขาก็จบชีวิตลงที่นี่
ปัจจุบันบ้านของแร็มบรันต์กลายเป็น Museum Het Rembrandthuis ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. ภายในบ้านเก็บรักษาบรรยากาศเดิมไว้เหมือนสมัยที่ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากจะได้เห็นไลฟ์สไตล์อันหรูหราของเขาแล้ว ผู้เยี่ยมชมยังจะได้เห็นคอลเล็กชั่นแม่พิมพ์โลหะและภาพพิมพ์ของเขาอีกด้วย
3. Maison Et Jardin Claude Monet / Giverny ฝรั่งเศส
สำหรับผู้ที่หลงรักฝีแปรงอิมเพรสชันนิสม์ของ Claude Monet (โคลด์ โมเนต์) อย่าลืมแวะเวียนไปเยี่ยมบ้านหลังงามในเมืองชิแวนี (Giverny) ซึ่งมีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ ผนังด้านนอกเป็นสีชมพู ตัดกับประตูสีเขียว และด้านในก็โดดเด่นด้วยสีน้ำเงิน เหลือง และเขียว
แม้ตัวบ้านจะสวยงามเพียงใด แต่ไฮไลต์ของที่นี่คือสวนดอกไม้และสวนน้ำที่ปรากฏตัวอยู่ในหลากหลายผลงานของโมเนต์ อย่างรูป Bridge over a Pond of Water Lilies ก็มาจากสะพานญี่ปุ่นในสวนน้ำนั่นเอง
บ้านของโมเนต์เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่ 24 มิถุนายนถึง 1 พฤศจิกายน เวลา 09.30-17.30 น. ภายในบ้านมีภาพจำลองผลงานโชว์อยู่ แต่ถ้าอยากดูผลงานต้นฉบับบางส่วน ก็สามารถเลยไปดูได้ที่ Musée des impressionismes Givermy ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวบ้านมากนัก
ระหว่างเก็บเงินไปเที่ยว คุณสามารถเยี่ยมชม Maison Et Jardin Claude Monet แบบออนไลน์ได้ก่อนที่ลิงก์นี้เลย
4. Picasso Museum / Antibes ฝรั่งเศส
แม้ว่าจะมีพิพิธภัณฑ์ปีกัสโซอยู่ในปารีส บาร์เซโลนา และในเมืองเกิดของเขาอย่างมาลาก้า แต่ Picasso Museum ในอองตี๊บ (Antibes) เมืองพักผ่อนชายทะเลของฝรั่งเศส คือที่เดียวที่ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่เคยอยู่และใช้เป็นสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงานจริงๆ ถึงแม้ว่าปีกัสโซ่จะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้เพียง 6 เดือนแต่ก็สร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย รวมถึง La Joie de Vivre และ The Goat
ปัจจุบัน Picasso Museum มีผลงานของปีกัสโซจัดแสดงอยู่มากกว่า 200 ชิ้น สามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวัน แต่เวลาจะแตกต่างกันในแต่ละช่วง ฤดูร้อน 10.00-18.00 น. และฤดูหนาว 10.00-12.00 น. กับ 14.00-16.00 น.
5. Museo Frida Kahlo / เม็กซิโกซิตี้ เม็กซิโก
เชื่อว่าคนที่หลงรักผลงานและตัวตนของศิลปินคิ้วเข้มอย่าง Frida Kahlo (ฟรีดา คาห์โล) ต้องมี Las Casa Azul หรือ Blue House อยู่ใน bucket list แน่ๆ เพราะนี่คือสถานที่ที่เธอเกิด อาศัยอยู่ และสิ้นลมหายใจ ภายในห้องนอนของฟรีด้ายังคงมีเตียงที่ติดกระจกด้านบน ตัวช่วยที่เธอใช้ในการวาดรูป self-portraits อันโด่งดังระหว่างต้องนอนพักรักษาตัวจากอุบัติเหตุบนรถบัส
ศิลปินชื่อดังผู้เป็นคนรักของฟรีด้า Diego Rivera อาศัยอยู่ที่นี่กับเธอ หลังจากเธอเสียชีวิต เขาสั่งให้เก็บข้าวของทั้งหมดของเธอไว้ในห้องน้ำ และห้ามไม่ให้ใครเปิดจนกว่าตัวเองจะตายไปครบ 15 ปี ซึ่งเพิ่งถึงกำหนดไปเมื่อปี 2004 นี่เอง (ดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้างที่ลิงก์นี้)
ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมได้วันอังคาร 10.000-17.30 น. วันพุธ 11.00-17.30 น. และวันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ 10.00-17.30 น.
6. Dali House Museum / Port lligat สเปน
บ้านของศิลปินเซอร์เรียลลิสม์อย่าง Salvador Dalí (ซัลวาดอร์ ดาลี) นั้นเซอร์เรียลไม่ต่างจากผลงานของเขา เพราะภายในบ้านเต็มไปด้วยทางเดินลับ ระเบียงแคบๆ และระนาบพื้นที่เปลี่ยนไปทีละน้อย ถ้าจะเรียกว่าเป็นผลงาน 3D จากผลภาพวาดของเขาก็คงไม่ผิดนัก
ดาลีซื้อบ้านชาวประมงหลังเล็กนี้ในปี 1930 แล้วค่อยๆ ต่อเติมทีละเล็กทีละน้อยจนตลอด 40 ปีที่เขาอาศัยอยู่ที่นั่น เขาเคยบอกว่าบ้านหลังนี้ “เป็นเหมือนโครงสร้างทางชีววิทยาจริงๆ ทุกจังหวะการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเรา มันก็มีเซลล์ใหม่ พื้นที่ใหม่ เพิ่มขึ้นมา”
ปัจจุบันภายในบ้านจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และของสะสมต่างๆ ของดาลี ลองไปเยี่ยมชมผ่านจอก่อนได้ที่ลิงก์นี้ ถึงเวลาไปจริงอย่าลืมเช็กเวลาเปิดปิดให้ดีเพราะแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่วงฤดู
7. Pollock-Krasner House, East Hampton นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
สตูดิโอขนาดย่อมซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านของศิลปินนามธรรมชื่อดัง Jackson Pollock เป็นตัวแทนผลงานของเขาได้เป็นอย่างดี ดูจากพื้นไม้สีเข้มที่เปรอะเปื้อนไปด้วยหยดสีที่หลงเหลือมาจากการสรรค์สร้างงานของเขา เพราะพอลล็อกชอบวางผืนผ้าใบไว้บนพื้นห้องมากกว่าจะวางตั้งไว้กับผนัง แล้วเขาจะเดินไปรอบๆ ผ้าใบพลางเทสีต่างๆ จากกระป๋องโดยไม่ใช่เครื่องมือช่วย
หลังจากพอลล็อกเสียชีวิต Lee Krasner ภรรยาของเขาซึ่งเป็นศิลปินเหมือนกันใช้สตูดิโอนี้เป็นห้องทำงานของเธอจวบจนวาระสุดท้าย ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้เฉพาะเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม วันพฤหัสบดี-เสาร์ เวลา 13.00-17.00 น.