Telegram กลายเป็นแอพฯ ฮิตในไทยเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากผู้ชุมนุมใช้เพื่อสื่อสารกัน คุณสมบัติเด่นของแอพนี้ตามที่แอพบอกคือมีความปลอดภัยสูง ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้ และสามารถตั้งค่าการทำลายข้อความตามเวลาที่กำหนดได้ อีกทั้งกรุ๊ปแชตยังสามารถจุคนได้กว่าสองแสนคน จึงกลายเป็นเรื่องน่ากลัวขนาดที่ว่ารัฐบาลไทยมีเอกสารลับมากเพื่อเตรียมหาทางสั่งปิดเจ้าแอพนี้กันเลยทีเดียว
ซึ่งจริงๆ ทางเว็บไซต์ blognone บอกว่ารัสเซียนั้นสามารถบล็อกแอพ Telegram ได้จริง แต่สิ่งที่ทำให้ชาวรัสเซียยังสามารถใช้แอพนี้ได้เป็นเพราะการหลบเลี่ยงผ่านการใช้ VPN และ sock5 proxy จนกลายเป็นว่าต่อให้บล็อกไป คนรัสเซียก็ยังใช้แอพนี้จำนวนเท่าเดิม ไม่ได้ลดจำนวนลง จนในที่สุดรัฐบาลของรัสเซียก็เป็นฝ่ายเลิกบล็อกไปเอง ซึ่งนี่อาจเป็นคำตอบว่าจริงๆ แอพมันถูกบล็อกได้ และผู้ใช้อาจต้องหาวิธีสำรองไว้ด้วยนะ
รวมไปถึงแอพ Telegram ยังสามารถให้คนสามารถแคปจอส่งไปภายนอกได้ และใครๆ ก็สามารถเข้ามาร่วมกรุ๊ปได้ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยจึงไม่ได้มี 100% เสียทีเดียว ดังนั้น ในวันที่ Telegram กลายเป็นแอพสำหรับติดต่อสื่อสารในช่วงนี้ การตั้งค่าความปลอดภัยจึงเป็นส่วนสำคัญมากๆ และควรปกปิดข้อมูลส่วนตัวให้มากที่สุด ซึ่งจุดสำคัญที่เราแนะนำคือ
1. ไม่ใช้ชื่อจริงและรูปถ่ายจริงของเรา เพราะเป็นการระบุตัวตน
2. ปกปิดเบอร์โทรศัพท์ โดยวิธีตั้งค่าคือให้เลือก setting > privacy and security > phone number
โดยตั้งค่าไม่ให้คนเห็นเบอร์โทรผ่านตัวเลือก Nobody และให้ตั้งค่าให้คนที่เรามีเบอร์ติดต่อในเครื่องสามารถค้นหาเราเจอเท่านั้น โดยเลือก My Contacts หรือจริงๆ ก็ปิดการเชื่อมต่อกับรายชื่อเบอร์โทรศัพท์ในเครื่องของเราโดยไปที่การตั้งค่าในตัวเครื่องโดยตรง
3. ในแชตส่วนตัวให้ตั้งค่า end-to-end encryption โดยเข้าไปที่แชท และคลิกมุมซ้ายที่มีรูปเจ้าของแชท จากนั้นด้านซ้ายจะมีสัญลักษณ์จุดสามจุด ให้กดเลือกแล้วกด start secret chat เพื่อไม่ให้มีการแฮ็กข้อความระหว่างทางที่ส่งได้
นอกจากนี้ให้ตั้งค่ารหัสผ่านในการเข้าแอพฯ แต่ไม่ควรเปิดการใช้งาน Face ID และแนะนำให้ตั้งรหัสผ่าน 2 ชั้น ด้วย รวมถึงอาจกำหนดการตั้งค่าให้ลบ acoount ของเราในกี่เดือนเพื่อสลายตัวเอง
(\_/)
( •_•)
/ >📱
อ้างอิงข้อมูลจาก