สาวอเมริกันผู้ไม่สามารถเปิดเผยชื่อ ป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะซึ่งติดเชื้อจากแบคทีเรีย ‘เอสเชอริเชีย โคไล’ (Escherichia coli) ที่มีนิกเนมว่า ‘อีโคไล’ (E.Coli)โดยที่หล่อนไม่ได้รู้ตัวด้วยซ้ำว่าจะกลายเป็นประเด็นระดับโลกในอีกไม่กี่วันต่อมา
หลังจากอาการของเธอไม่ดีขึ้นจนต้องเข้าโรงพยาบาล คุณหมอได้ตรวจปัสสาวะเพื่อหาร่องรอยของการติดเชื้อ และทดลองใช้ยาปฏิชีวนะโคลิสติน (Colistin) ปราการด่านสุดท้าย เพื่อจัดการกับแบคทีเรียเจ้าปัญหา ในขณะที่ตัวยากำลังออกฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียในหลอดทดลอง
แต่ปรากฏว่า แบคทีเรียมันสู้เว้ยเฮ้ย !
เมื่อแบคทีเรียไฝว้
Superbugs (ฟังดูชื่อออกไปทางการ์ตูน) หรือ Antimicrobial Resistance สร้างความวิตกกังวลให้กับวงการแพทย์ทั่วโลก Superbugs คือชื่อเรียกแบคทีเรียที่มีคุณสมบัติต่อต้านยาปฏิชีวนะที่สังคมวงกว้างเรียกกันจนติดปาก ซึ่งแบคทีเรียที่เราเคยรู้จักกลับดื้อยาที่เชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพยับยั้งดีที่สุด และในทุกๆวันเราจะค้นพบ Superbug ตัวใหม่ราวตัวละครปลดล็อคแบบไม่เต็มใจนัก โดยเฉพาะเหตุการณ์ครั้งนี้การกลายพันธุ์ของยีน mcr-1 ทำให้เจ้า E.Coli ร้ายกว่าที่เคย
เมื่อปีที่แล้ว E.Coli ถูกตรวจพบการกลายพันธุ์โดยทีมนักวิจัยชาวจีน พวกเขาพบเชื้อในเนื้อหมูดิบของฟาร์มเลี้ยงหมูในประเทศจีน แม้ยา Colistin จะถูกยกเลิกใช้กับมนุษย์ไปแล้วหลายประเทศ เพราะมันมีผลข้างเคียงทำให้ตับคุณพัง แต่ในจีนยังมีเกษตรกรดันทุรังเลี้ยงหมูโดยการผสม Colistin เข้ากับอาหารสัตว์และขุนให้หมูอ้วน ทำให้ยีนกลายพันธุ์ mcr-1 ตกค้างในเครื่องในหมู
เมื่อนักระบาดวิทยารู้ว่าจะหา mcr-1 ได้ที่ไหน พวกเขาจึงพบเคสต่อๆ มาทั้งในมาเลเซีย อังกฤษ และยุโรป จนกระทั้งล่าสุดใจกลางนครฟิลาเดลเฟีย ของสหรัฐอเมริกา กฎหมายด้านสาธารณสุขของอเมริกาห้ามใช้ Colistin ในอาหารสัตว์ทุกประเภทอย่างเคร่งครัด (แต่ยังคงอนุญาตให้ใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดได้อยู่) แต่คุณก็ไม่สามารถห้ามการเดินทางของอาหารจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง หรือประเทศหนึ่งสู่ประเทศหนึ่งได้ ซึ่งการเกิด Superbugs ครั้งนี้อาจเชื่อมโยงการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างผิดๆ ในการปศุสัตว์ และการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะก็เป็นไปได้
โรคทางเดินปัสสาวะ Urinary tract infection เป็นโรคพื้นฐานและพบได้บ่อยโดยเฉพาะผู้หญิง มีการใช้ยาปฏิชีวะรักษาอาการนี้อย่างแพร่หลาย และนั่นก็ทำให้ตัวแบคทีเรียเองพัฒนาคุณสมบัติให้ดื้อยาเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จากรายงานตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 ถึง 2010 มีรายงานว่าเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยา Cipro ที่แก้อาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ มีจำนวนสูงขึ้นจาก 3 % เป็น 17.1 % ภายในเวลาเพียง 10ปี
ใส่ใจในสิ่งที่คุณกิน
อาหารที่คุณกินอาจไม่น่าไว้วางใจหากมันยังไม่สุกดี เพราะแบคทีเรีย E.Coli อาจอยู่ในเครื่องในไก่ เครื่องในหมู มันจึงย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ในกระเพาะของคุณได้ง่าย และอาจอยู่เป็นเพื่อนในตับไตไส้พุงเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่เชื้อในเนื้อสัตว์ก็ยังดูจัดการง่ายกว่า เมื่อเทียบกับเชื้อที่ปนเปื้อนแหล่งน้ำ ซึ่งแทบจะไม่มีประเทศใดมีมาตราการที่น่าไว้วางใจได้เลย
ไม่ง่ายที่จะชี้ตัวผู้ร้าย
การวินิจฉัย Superbugs ยังเต็มไปด้วยความยากลำบากในการวินิจฉัย เพราะเมื่อคุณตรงดิ่งไปหาหมอจากอาการโรคทางเดินปัสสาวะ หมอก็มักให้ยาปฏิชีวนะกับคุณเลยทันที เพราะการเพาะเชื้อต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน แถมทดลองใช้ยาต้านให้ออกฤทธิ์และสังเกตผลก็ต้องเสียเวลาอีก 1 วัน ซึ่งกว่าจะรู้ผลอาการติดเชื้อจาก Superbugs สถานการณ์ก็อาจเลวร้ายไปแล้ว (ในกรณีสาวอเมริกันที่ติดเชื้อ โชคดีที่หมอทดลองเพาะเชื้อก่อนจากทดสอบกับยาปฏิชีวนะ แต่ความบังเอิญแบบนี้อาจมีไม่บ่อยนัก)
หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา กำลังตามสืบหาต้นตอที่ทำให้สาวอเมริกันติดเชื้อ E.Coli ที่ดื้อ และที่น่ากังวลกว่าคือวงจร DNA ของแบคทีเรียที่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย กลับกลอกไปมา จนเมื่อเราค้นพบ Superbugs ตัวใหม่ ยาปฏิชีวนะอันล้ำสมัยอาจตามมันไม่ทันเสียแล้ว
อ้างอิงข้อมูลจาก
Proactive Efforts by U.S. Federal Agencies Enable Early Detection of New Antibiotic Resistance