ต้องเหงาขนาดไหนถึงออกไปถีบเรือเป็ดคนเดียวในสวน
โลกใบนี้ไม่ค่อยใจดีกับคนเหงา กิจกรรมของสินค้าและบริการทั้งหลายในโลกมักจะออกแบบให้คนจำนวนมากกว่าหนึ่งเสมอ และกิจกรรมบางชนิดก็ดูจะเป็นกิจกรรมสงวนสำหรับคนมีคู่เท่านั้น การถีบเรือเป็ดดูจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมของคนเหงาในระดับอัลติเมต คือแน่ล่ะว่าเรือเป็ดมันเป็นกิจกรรมของคู่รัก แต่ถ้าเราจะเหงาประชดชีวิตให้สุด เราก็ต้องไปถีบเรือเป็ดนี่แหละคนเดียว
เหงาซะให้สาแก่ใจ
ทำไมเรือเป็ดมันถึงเหงานัก ไปๆ มาๆ เรือเป็ดกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเหงาไปซะเฉยๆ เรามักมีภาพของเรือเป็ดหน้าตาปลอมๆ ลอยเท้งเต้งอยู่ท่ามกลางเวิ้งน้ำอย่างโดดเดี่ยว มันดูเหงาเนอะ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเรือเป็นดูจะเป็นกิจกรรมแสนน่ารักกระหนุงกระหนิงที่คนสองคนจะไปทำด้วยกัน
คนเหงาอย่างเราคิดแล้วก็โมโห ใครกันนะเป็นคนเริ่มเอาเป็ดเอาห่านมาทำเป็นเรือบ้าบอนี่ขึ้นมา
เจ้าเรือเป็ดที่เราเรียกติดปาก ไม่แน่ใจว่ามีที่มาจากไหน แต่ที่มาของเรือหงส์ (swan) ที่หน้าตาและวิธีการดูจะเป็นญาติกับเรือหงส์และเรือเป็ดที่ถีบกันอยู่ทั่วโลก เป็นกิจการที่เริ่มต้นที่แถวๆ บอสตัน เจ้าเรือหงส์ที่ว่านี้ ตัวมันเองก็เป็น ‘เรือรัก’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานรักโบราณ เรียกได้ว่า หวานซึ้งตั้งแต่ตั้งไข่กันมาเลย
เรือหงส์ จากบอสตันสู่กิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลินในสวนทั่วโลก
การเล่นเรือ ดูจะเป็นกิจกรรมที่มนุษย์เราทำกันในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ที่ไหนมีบ่อน้ำ พอเราคิดค้นเรือขนาดเล็กขึ้นมาได้ การเอาเรือลงพายเล่น เก็บดอกบัวหรือเล่นสนุก การได้ลอยเอื่อยๆ ไปบนผิวน้ำก็เป็นความรื่นรมย์ที่เราเข้าใจได้ ก่อนที่จะมีเรือเป็ด ในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ทั้งหลายต่างก็มีเรือพายลำเล็กๆ ไว้บริการให้ผู้คนได้หย่อนตัวและหย่อนใจกันมาเนิ่นนานแล้ว
ย้อนกลับไปในปี 1870 ที่บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ครอบครัวของนาย Robert Paget เป็นครอบครัวที่ได้รับสัมปทานในการทำธุรกิจให้เช่าเรือพายในสระน้ำในสวนสาธารณะ กิจการดังกล่าวค่อนข้างไปได้ดี ผู้คนนิยมมาลงพายเรือเล่นในช่วงหน้าร้อน หรือในช่วงเย็นๆ ของแต่ละวัน
ชาวบอสตันก็พายเรือกันเรื่อยมา พายนานๆ ก็คงจะปวดแขน หลังจากพายจนกล้ามขึ้นมาอย่างยาวนาน ในช่วงทศวรรษ 1880s-1890s จักรยานกำลังเป็นที่นิยมในสหรัฐฯ คุณโรเบิร์ตเลยเห็นช่องทางว่า เฮ้ย ทำไมเราไม่ใช้วิธีแบบจักรยานมาผสมกับเรือของเราล่ะ ในปี 1877 คุณโรเบิร์ตเลยออกเรือที่ใช้เท้าถีบ ทีนี้คุณลุงแกก็มองว่า เรือแบบใหม่มันไม่สวย มันมีกลไกควบคุมด้านล่าง แกเลยเสนอว่าต้องมีรูปทรงบางอย่างหุ้มไว้เพื่อความสวยงาม
คุณลุงเสนอว่าทำเรือรูป ‘หงส์’ ดีกว่า
เรือหงส์กับตำนานรักและร้าง
สำหรับคุณลุงโรเบิร์ตผู้เสนอว่าควรทำเรือเป็นรูปหงส์ แกก็บอกว่าไม่ใช่คิดขึ้นมาเรื่อยเปื่อยหรือมีนางหงส์มาเข้าฝันที่ไหน แกว่าแกมีเรเฟอร์เรนซ์ มีแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจของแกมาจากละครโอเปร่าเรื่อง Lohengrin บทละครอิงตำนานรักเยอรมันในยุคกลาง ในเรื่องพูดถึงอัศวินหงส์ขาว ผู้นั่งเรือเทียมหงส์ไปช่วยหญิงสาวที่ตนรัก
เรือถีบหงส์ที่บอสตันยุคแรกไม่เหมือนกับเรือหงส์ในยุคปัจจุบันซะทีเดียว หลักการและหน้าตาเป็นแบบเดียวกัน คือเป็นหงส์และระบบเท้าปั่นเพื่อให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า แต่เรือหงส์ยุคนั้นเน้นนั่งหลายคน คือมีคนปั่นหงส์ข้างท้าย แล้วมีเก้าอี้เป็นแถวๆ ไว้นั่งข้างหน้า ไม่มีหลักฐานว่าจากเรือนั่งหมู่คณะ กลายมาเป็นเรือหงส์ที่ถีบสองคนไปตอนไหน แต่อาจเดาได้ว่าเกิดจากเทคโนโลยีการผลิตไฟเบอร์กลาสที่ทำให้สามารถผลิตเรือจำนวนมากและขนาดเล็กลงได้ – สมัยก่อนทำเรือเป็ดอันหนึ่งคงลำบาก ทำได้ไม่กี่ลำ ทำแล้วเลยต้องใช้แบบบริการมวลชน มากกว่าจะมานั่งถีบสนุกกันสองคน
ลุงโรเบิร์ตถือว่าช่างคิด เพราะเรือหงส์สีขาวที่ลอยอยู่บนผืนน้ำ เบื้องหลังมีสวนสีเขียว เป็นการแต่งแต้มสวนพร้อมๆ กับเป็นกิจกรรมสนุกๆ ที่สนุกทั้งคนถีบและคนที่นั่งพักผ่อนอยู่ริมฝั่ง
เรือเป็ดจากธุรกิจและความช่างคิดในช่วงปลายทศวรรษ 1800 ค่อยๆ กลายเรือถีบแบบส่วนตัวและกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของความรักและความเหงา หนุ่มสาวจีบกันไม่รู้จะทำอะไร ก็ถือโอกาสไปใช้เวลาสองต่อสอง ท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ ในญี่ปุ่น ที่สวนในย่าน Kichijoji ในโตเกียว มีตำนานว่า ถ้าคู่รักคนไหนไปถีบเรือเป็นด้วยกันที่นี่ ความรักนั้นต้องเป็นอันร้างจากคำสาป บางตำนานบอกว่าเป็นคำสาปของเทพแถวๆ นั้น บ้างก็บอกว่าในสระที่ว่ามีสาวใจสลายโดดน้ำตาย
จากตำนานและวิธีใช้เรือเป็ด เรือเป็ดจึงเป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะกับคนโสด ตัวหงส์เองก็ถือเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของความรัก เรือเป็ดสมัยใหม่ที่ออกแบบให้ถีบสองคน นึกภาพเรือทรงหงส์สวยงาม จะไปถีบกับเพื่อนฝูงก็กระดากใจพอประมาณ
ที่สำคัญคือ เมื่อเราลอยเรือออกไปแล้ว หงส์ขาวเด่นดูจะกลายเป็นจุดสนใจสำคัญของสระน้ำนั้นๆ การจู๋จี๋บนเรือเป็ดจึงเป็นทั้งเรื่องส่วนตัว และเป็นสิ่งที่คนอื่นได้มองเห็นและแอบอิจฉาอยู่ไกลๆ นึกภาพการไปกินบุฟเฟต์คนเดียว คนอื่นก็แอบมองแล้ว แต่เรือเป็ดนี่เหมือนเราเดินขึ้นเวทีแล้วมีสปอตไลท์รอบๆ ส่องมาที่ตัวเรา – ทั้งเหนื่อย ทั้งเขิน
จริงๆ ใครอยากถีบเรือเป็ดทั้งๆ ที่ไม่มีคู่ก็ทำไปเถอะ ไม่แน่ใจว่าถ้าเลือกเป็นเรืออื่นเช่นโดราเอมอน อาจจะลดความโรแมนติกของการถีบเรือลงไป หรือใครอยากจะประชดชีวิต เน้นย้ำชีวิตคนเหงา การไปถีบเรือเป็ดคนเดียวก็ดูจะเป็นกิจกรรมแสนสะใจที่น่าทำในวันสดใสเหมือนกัน
เรือเป็ด จากประดิษฐกรรมในยุคต้นศวรรษที่ 20 กลายมาเป็นสัญลักษณ์และวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ เรือขาวๆ ลำหนึ่งกลับมีผลต่อความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมของเราในระดับนานาชาติ … สนุกดีเนอะ ว่าแล้ว สุดสัปดาห์นี้เราไปถีบเรือเป็ดกันดีกว่า
อ้างอิงข้อมูลจาก
mosaictraveler.copleysquarehotel.com