ปี 2020 กำลังจะผ่านพ้นไป แม้เราจะติดอยู่กับรัฐบาลชุดเดิม มีคุณภาพชีวิตแบบเดิมๆ แต่เราก็ยังคงต้องการ ‘การรีเฟรช’ บางอย่าง เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองเป็น brand new person โดยการทิ้งคนเดิมไว้ในปีเก่า และกลายเป็นเราคนใหม่ในปี 2021
The MATTER จึงมาแนะนำ 7 กิจกรรมก่อนเข้าปีใหม่ ที่ทำแล้วจะให้ความรู้สึกราวกับว่า บ๊ายบาย! ฉันคนเดิมได้ตายไปแล้วจ้ะ!
ตัดผม เปลี่ยนลุคใหม่ เตรียมเฉิดฉายในปีหน้า
การเปลี่ยนทรงผม เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของการก้าวข้ามความรู้สึกหรือการเปลี่ยนแปลงของชีวิตหลังช่วงวิกฤต เราจึงจะเห็นในภาพยนตร์หลายเรื่อง เมื่อตัวเอกผ่านพ้นช่วงอกหักหรือต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ พวกเขาจะต้องไปตัดผม หรือทำอะไรบางอย่างที่ดูแปลกตาไปจากเดิม ในกรณีที่เรากำลังจะก้าวข้ามปีเก่าไปแล้ว การตัดผมหรือเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นคนใหม่ได้ง่ายๆ แม้จะอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบเดิมๆ ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ก็ตาม
ลองออกจากความชอบเดิมๆ แล้วไปเผชิญกับความแปลกใหม่
เพลงเดิมๆ หนังเดิมๆ อาหารเดิมๆ อาจทำให้รู้สึกว่าชีวิตเฉา ไม่น่าตื่นเต้น ปีใหม่นี้ลองเปิดโลกให้กับตัวเองด้วยการก้าวออกจากความชอบเดิมๆ ดูสิ ฟังเพลงแนวที่ตัวเองไม่เคยฟัง ดูหนังแนวที่ตัวเองไม่เคยดู ลองทานอาหารสัญชาติอื่นๆ ที่ตัวเองไม่เคยทาน ทำอะไรบางอย่างที่ผิดเพี้ยนไปจากเราคนเก่าบ้าง บางทีเราอาจจะได้ความชอบใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกในแต่ละวัน ทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ปัดฝุ่น เก็บของ ทำความสะอาดห้องซะหน่อย
ภาพเจ้าแม่จัดห้องอย่าง มาริเอะ คอนโดะ ลอยมาเลย ไม่ก็หนังเรื่อง ‘ฮาวทูทิ้ง’ ของพี่เต๋อ นวพล ซึ่งจริงๆ พลังของการเก็บกวาดทำความสะอาดนี่มันมีเยอะมากเลยนะ เพราะไม่ใช่เพียงแค่ห้องจะสะอาด ข้าวของเป็นระเบียบขึ้นราวกับย้ายบ้าน หรือสุขภาพจิตดีขึ้นเพราะเหมือนได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมใหม่ๆ (ซึ่งจริงๆ ก็คือที่เดิมนั่นแหละ) แต่มันยังทำให้เราได้ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านสิ่งของที่หยิบจับระหว่างเก็บอีก ของบางชิ้นเราลืมไปแล้วว่าเคยซื้อมาไว้ เราอาจจะได้นำของนั้นมาใช้ใหม่อีกครั้ง ของบางชิ้นเราเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องโละทิ้ง เราก็นำลงกล่องบริจาคหรือเอาไปขายต่อ บางทีการเก็บของรอบนี้เราอาจจะมีของใหม่ๆ ไว้ใช้ในปีหน้าด้วยก็ได้ อ้อ! หรือจะเป็นการจัดระเบียบอย่างอื่น เช่น ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ หรือทำความสะอาดตัวเราเอง เช่น อาบน้ำ ขัดผิว หรือดีท็อกซ์สารเคมีบนเส้นผมอะไรแบบนี้ก็ได้นะ
ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่เราเข้าสู่ปีใหม่ด้วยสุขภาพร่างกายที่ยังแข็งแรงอยู่เหมือนเดิม และคงจะดีกว่านี้มากถ้าร่างกายเราเฟิร์มขึ้น พร้อมใส่กางเกงตัวที่ซื้อมาไว้นานเป็นชาติแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ซื้อไว้เผื่อน้ำหนักลง’ แล้วจากนั้นก็นอนอยู่ในตู้เสื้อผ้าตลอดมา ดังนั้น เลยอยากจะชวนดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะผลลัพธ์ที่ได้นอกจากระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานได้ปกติ ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เรายังจะได้กลับมาใส่เสื้อผ้าตัวโปรดได้อีกด้วย
โบกมือลาความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ ให้ชีวิตเดินต่อแบบสบายใจ
ขอโทษนะที่ปีนี้ทำแย่ใส่ใคร ก็แกมาทำแย่ใส่เราก่อนเองอะ! บางครั้งสันติอาจไม่ใช่คำตอบ โดยเฉพาะกับคนที่ชอบทำพฤติกรรมเป็นพิษใส่ผู้อื่นตลอดเวลา เช่น ทักกันด้วยประโยคที่ไม่น่ารัก พูดจาถากถาง หรือเอาเปรียบคนรอบข้าง ซึ่งเราได้เสียเวลากับคนแบบนี้นานเกินไปแล้ว และเราไม่สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ หากยังวนเวียนอยู่กับผู้คนเดิมๆ ที่ยังคงทำตัวแย่ๆ ฉะนั้น เดินออกมาจากความสัมพันธ์ที่เป็นพิษทั้งหลาย แม้มันจะยาก แต่ถ้าได้ลองค่อยๆ ก้าวออกมาทีละนิดๆ เราก็จะค่อยๆ พบว่าชีวิตเราแฮปปี้ได้โดยไม่ต้องมีพวกเขาก็ได้ หรือแม้แต่อะไรที่เราเห็นบนโซเชียลมีเดียแล้วรู้สึกไม่สบาย ก็ควรจะ unfriend unfollow หรือ unsubscribe ไปเลย เพื่อรักษาสุขภาพจิตของตัวเอง และก้าวไปสู่ปีใหม่ด้วยความสบายใจกว่าเดิม
อัพสกิลใหม่ๆ ใส่ตัว เติมความรู้ใส่หัวด้วยคอร์สออนไลน์
แม้เราในปีนี้จะเจ๋งแล้ว แต่เราในปีหน้ายังเจ๋งกว่านี้ได้อีก! เชื่อว่าทุกคนน่าจะมีสกิลบางอย่างที่ตัวเองยังไม่ปลดล็อก เช่น ทำขนม เรียนภาษา เล่นกีฬา เขียนโปรแกรม ต้มเบียร์เอง หรือฝึกสัตว์เลี้ยงให้หมุนตัวได้ ซึ่งทุกวันนี้ หลายๆ อย่างที่เราสงสัยและต้องการคำตอบ ก็สามารถหาได้ทั่วไปบนโลกออนไลน์ ใครที่อยากข้ามปีนี้ไปด้วยสกิลสุดเจ๋ง ก็อาจจะใช้เวลาว่างนั่งเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ไปพลางๆ ดีไม่ดี เราในปีหน้าอาจจะทำเบเกอรี่ขายลงเว็บไซต์ที่เขียนโค้ดขึ้นมาเองโดยใช้ภาษาฝรั่งเศสก็ได้นะ!
ลิสต์นิสัยที่ไม่ดีของตัวเอง แปะไว้ฝาบ้าน พร้อมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
ในภาษาอังกฤษมีประโยคหนึ่งกล่าวว่า “Brand new person but same old mistakes.” เมื่อเราต้องการจะกลายเป็นคนใหม่ เราก็คงไม่อยากให้ความผิดพลาดเดิมๆ คอยฉุดรั้งเราเอาไว้หรอกจริงมั้ย? ข้อนี้ก็คงเป็นเหมือน new year’s resolution ทั่วๆ ไป ที่เราจะตั้งปณิธานกับตัวเองไว้ว่า เราจะไม่ทำนิสัยแย่ๆ อีก ไม่ว่านิสัยนั้นจะส่งผลกระทบตัวเองหรือคนรอบข้างก็ตาม ลองนึกถึงความผิดพลาดต่างๆ จากนิสัยไม่ดีเหล่านั้น แล้วนำบทเรียนจากแต่ละครั้งมาปรับใช้ แล้วเราจะได้ตัวเองคนใหม่ที่ไม่ทำผิดในเรื่องซ้ำๆ อีก